HTML SitemapExplore
logo
Find Things to DoFind The Best Restaurants

Wat Sang Kratai — Attraction in Ang Thong Province

Name
Wat Sang Kratai
Description
Nearby attractions
Nearby restaurants
Nearby hotels
Related posts
Keywords
Wat Sang Kratai tourism.Wat Sang Kratai hotels.Wat Sang Kratai bed and breakfast. flights to Wat Sang Kratai.Wat Sang Kratai attractions.Wat Sang Kratai restaurants.Wat Sang Kratai travel.Wat Sang Kratai travel guide.Wat Sang Kratai travel blog.Wat Sang Kratai pictures.Wat Sang Kratai photos.Wat Sang Kratai travel tips.Wat Sang Kratai maps.Wat Sang Kratai things to do.
Wat Sang Kratai things to do, attractions, restaurants, events info and trip planning
Wat Sang Kratai
ThailandAng Thong ProvinceWat Sang Kratai

Basic Info

Wat Sang Kratai

JC3Q+77R, Sala Daeng, Mueang Ang Thong District, Ang Thong 14000, Thailand
4.5(724)
Open 24 hours
Save
spot

Ratings & Description

Info

Cultural
Scenic
attractions: , restaurants:
logoLearn more insights from Wanderboat AI.
Website
facebook.com

Plan your stay

hotel
Pet-friendly Hotels in Ang Thong Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
Affordable Hotels in Ang Thong Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
The Coolest Hotels You Haven't Heard Of (Yet)
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
Trending Stays Worth the Hype in Ang Thong Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

Reviews

Get the Appoverlay
Get the AppOne tap to find yournext favorite spots!
Wanderboat LogoWanderboat

Your everyday Al companion for getaway ideas

CompanyAbout Us
InformationAI Trip PlannerSitemap
SocialXInstagramTiktokLinkedin
LegalTerms of ServicePrivacy Policy

Get the app

© 2025 Wanderboat. All rights reserved.
logo

Reviews of Wat Sang Kratai

4.5
(724)
avatar
5.0
2y

a new temple named Wat Phailom was built, and the villagers moved the chedis of Wat Sangkratai to Wat Phailom so that the monks could use them. As a result, only the ubosot remained at Wat Sangkratai, covered by trees.

Originally, inside the ubosot, there were three Buddha statues: Luang Pho Wande, Luang Pho Sri, and Luang Pho Suk. However, the statues were in a state of disrepair and were placed on the ground, so they had to be renovated and attached to the new Buddha images. As for Luang Pho Kaeo, the villagers brought the damaged Buddha image from Amphoe Wiset Chai Chan for reconstruction and enshrinement. However, some villagers still had doubts about the temple's authenticity, so they continued to circumambulate the ubosot before moving on to another temple to pay homage.

Today, only the ubosot remains, with four Bodhi trees covering and holding onto the walls in all four corners. The ubosot has three rooms and a total of four Buddha images. In the first room, Luang Pho Kaeo is enshrined. In the large central room, there are statues of Luang Pho Wande, Luang Pho Sri, and Luang Pho Suk. The last room belongs to Pho Po Ruasri, and its windows align with the Buddha image and the wall held by the roots of the Bodhi trees.

The Ministry of Culture has registered the Bodhi trees surrounding the ubosot of Wat Sangkratai as valuable trees, and they have been declared as national heritage since...

   Read more
avatar
5.0
5y

เป็นวัดเล็กๆที่อันซีนแห่งนึง สวยมาก บริเวณโดยรอบมีการดูแลอย่างดี ทำความสะอาดทางเดินดีมาก ประวัติ จากการบอกเล่าต่อกันมา วัดสังกระต่าย เดิมชื่อว่า "วัดสามกระต่าย" แต่ได้มีการเรียกชื่อผิดเพี้ยนกันมาเรื่อยๆจนกลายเป็นวัดสังกระต่าย มี "ทวดติ จันทนเสวี" ซึ่งเป็นพระมารดาของพระยาหัสกาลเป็นผู้สร้างตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาประมาณ 400-500 ปีมาแล้ว สมัยนั้นมี พระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาอยู่นาน โดยมีสภาพเป็นวัดบริเวณด้านซ้ายเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ถมดินกลบไปแล้ว ส่วนบริเวณ ข้างโบสถ์มีกุฏิสร้างเรียงรายอยู่หลายหลัง ต่อมาพระภิกษุสงฆ์เกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้นและทะเลาะกันเรื่อยมา ชาวบ้านเชื่อกันว่าสาเหตุน่า จะมาจากเรื่องของเจ้าที่ที่สิงสถิตในบริเวณวัดแรงมาก จึงทำให้พระสงฆ์ไม่สามัคคีกัน ต้องแยกย้ายกันไปคนละที่คนละทาง จนในที่สุด ชาวบ้านก็เริ่มเสื่อมศรัทธาไม่เข้ามาทำบุญ พระสงฆ์ไม่มีจำวัดกลายเป็นวัดร้าง หลังเป็นวัดร้างนานนับ 100 ปี ในละแวกหมู่บ้านได้มี การสร้างวัดขึ้นมาใหม่ชื่อว่า วัดไผ่ล้อม ชาวบ้านจึงหันไปเลื่อมใสศรัทธาและไปทำบุญที่วัดไผ่ล้อมแทน ต่อมาชาวบ้านได้มาย้ายกุฏิที่ วัดสังกระต่ายไปสร้างเป็นกุฏิใหม่ที่วัดไผ่ล้อม เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จำวัด ทำให้วัดสังกระต่ายเหลือเพียงโบสถ์ร้างที่ถูกปกคลุม ไปด้วยต้นโพธิ์อย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เมื่อก่อนวัดสังกระต่าย มีเพียงพระพุทธรูป 3 องค์ที่อยู่ข้างในคือ หลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุขเท่านั้น แต่มีสภาพที่โดนตัดเศียรกองไว้กับพื้น จนต้องมีการบูรณะซ่อมแซมต่อเศียรพระไว้กับองค์พระ ส่วนหลวงพ่อแก่น ได้นำเศียรพระที่ถูกตัดมาจาก อ.วิเศษชัยชาญมาบูรณะสร้างองค์ใหม่และประดิษฐานไว้ แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนยังมีความเลื่อมใส ศรัทธาในตัววัดถึงแม้จะเป็นวัดร้างก็ตาม บ้านไหนมีงานบุญงานมงคลจะมากราบไหว้ที่วัดแห่งนี้ ยิ่งเป็นงานบวชก็จะแห่นาคมาเวียนรอบ โบสถ์ร้างโบราณ แห่งนี้ 3 รอบบ้าง 9 รอบบ้าง ก่อนที่จะแห่นาคไปยังวัดที่จะอุปสมบทอีกที จึงได้รับการดูแลจาก สำนักงานเทศบาล ตำบลศาลาแดงและชาวบ้านเป็นอย่างดี ส่วนพื้นที่ของวัดส่วนใหญ่ชาวบ้านได้เช่าไปเพื่อประโยชน์ หลังมีเสียงร่ำลือถึง ความสวยงามของโบสถ์แห่งนี้ ก็เริ่มมีผู้คนสนใจมาชมโบสถ์มากขึ้น กรมศิลปากรได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูล เตรียมขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งใหม่อีกด้วยโดยมุ่งเน้นให้คงสภาพเป็นโบราณสถานที่มีศิลปกรรมที่สวยงามตามธรรมชาติเอาไว้

การเดินทางไปวัดสังกระต่าย วัดสังกระต่าย ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอ่างทองประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ไม่ไกลจากวัดขุนอินทประมูล โดยเดินทางมาจากถนนสายเอเชีย แยกเข้า จ.อ่างทอง ด้านขวามือจะผ่าน โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม ตรงไปข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (สะพานอ่างทอง) จะเจอสี่แยกไฟแดง ให้ตรงมาผ่านตลาด จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ เจอสี่แยกไฟแดงแยกเรือนจำให้เลี้ยวขว ผ่านเรือนจำอ่างทอง ตรงไปด้าน ซ้ายมือเห็นปั๊มน้ำมัน ปทต.ให้ ยูเทิร์นกลับ จะพบป้ายวัดสังกระต่ายอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทศบาลตำบลศาลาแดง ประมาณ 500...

   Read more
avatar
5.0
3y

วันที่ไป หาทางเข้าไม่ยาก เข้าไปภายใน ซอยไม่ลึก มีอุโบสถโบราณ ปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ บริเวณพื้นที่กว้างขวางนักเที่ยวยังไม่มาก และยังมีชาวบ้านนำผลไม้ ที่ชาวบ้านปลูกเอง มาจำหน่าย ในราคาไม่แพง น่าซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือรับประทานเอง จอดรถสะดวกสบาย ผู้ใหญ่เดินได้สะดวกจอดรถใกล้ๆสถานที่อุโบสถโบราณ

วัดสังกระต่าย เป็นโบราณสถานร้างตั้งอยู่ในตำบลศาลาแดง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง อุโบสถมีอายุกว่า 400 ปี

วัดสังกระต่าย เดิมชื่อว่า วัดสามกระต่าย แต่ภายหลังได้เรียกเพี้ยนมาเป็น "วัดสังกระต่าย" ผู้สร้างวัดคือ ทวดติ จันทนเสวี เป็นพระมารดาของพระยาหัสกาล เป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาอยู่นาน สภาพวัดบริเวณด้านซ้ายเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ถมดินกลบไปแล้ว ข้างอุโบสถมีกุฏิสร้างเรียงรายอยู่หลายหลัง ต่อมาพระภิกษุสงฆ์เกิดทะเลาะวิวาทกัน จนทำให้ต้องแยกย้ายกันไป ชาวบ้านก็เริ่มเสื่อมศรัทธาไม่เข้ามาทำบุญ พระสงฆ์ไม่มีจำวัดกลายเป็นวัดร้าง ภายหลังที่เป็นวัดร้างร่วมร้อยปี มีการสร้างวัดใหม่ชื่อ วัดไผ่ล้อม ชาวบ้านได้ย้ายกุฏิของวัดสังกะต่ายไปที่วัดไผ่ล้อม เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จำวัด ทำให้วัดสังกระต่ายเหลือเพียงอุโบสถร้าง ถูกปกคลุมไปด้วยต้นโพธิ์

แต่เดิมนั้นภายนอุโบสถมีพระพุทธรูป 3 องค์ คือ หลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข แต่มีสภาพที่โดนตัดเศียรกองไว้กับพื้น จนต้องมีการบูรณะซ่อมแซมต่อเศียรพระไว้กับองค์พระ ส่วนหลวงพ่อแก่น ได้นำเศียรพระที่ถูกตัดมาจากอำเภอวิเศษชัยชาญ มาบูรณะสร้างองค์ใหม่และประดิษฐานไว้ แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนยังมีความเลื่อมใส ศรัทธาในตัววัดถึงแม้จะเป็นวัดร้างก็ตาม ชาวบ้านยังมีการแห่งนาคมาเวียนรอบอุโบสถ ก่อนจะไปแห่นาคไปยังวัดที่จะอุปสมบทอีกที ส่วนที่หลงเหลือมีเพียงอุโบสถแค่ส่วนผนังที่มีต้นโพธิ์ 4 ต้น ขึ้นปกคลุมแล้วยึดผนังอุโบสถเอาไว้ในลักษณะ 4 มุมพอดี อุโบสถมี 3 ห้อง มีพระประธานและพระพุทธรูปอยู่ทั้งสิ้น 4 องค์ ในห้องแรกประดิษฐานหลวงพ่อแก่น ในห้องใหญ่ตรงกลางประดิษฐานหลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข ในห้องสุดท้ายนั้นเป็นห้องของพ่อปู่ฤาษี ช่องหน้าต่างสามารถมองเข้าไปตรงกับองค์พระพอดี...

   Read more
Page 1 of 7
Previous
Next

Posts

Phimtarwat NarunthornPhimtarwat Narunthorn
a new temple named Wat Phailom was built, and the villagers moved the chedis of Wat Sangkratai to Wat Phailom so that the monks could use them. As a result, only the ubosot remained at Wat Sangkratai, covered by trees. Originally, inside the ubosot, there were three Buddha statues: Luang Pho Wande, Luang Pho Sri, and Luang Pho Suk. However, the statues were in a state of disrepair and were placed on the ground, so they had to be renovated and attached to the new Buddha images. As for Luang Pho Kaeo, the villagers brought the damaged Buddha image from Amphoe Wiset Chai Chan for reconstruction and enshrinement. However, some villagers still had doubts about the temple's authenticity, so they continued to circumambulate the ubosot before moving on to another temple to pay homage. Today, only the ubosot remains, with four Bodhi trees covering and holding onto the walls in all four corners. The ubosot has three rooms and a total of four Buddha images. In the first room, Luang Pho Kaeo is enshrined. In the large central room, there are statues of Luang Pho Wande, Luang Pho Sri, and Luang Pho Suk. The last room belongs to Pho Po Ruasri, and its windows align with the Buddha image and the wall held by the roots of the Bodhi trees. The Ministry of Culture has registered the Bodhi trees surrounding the ubosot of Wat Sangkratai as valuable trees, and they have been declared as national heritage since the year 2017.
Sao ChanSao Chan
เป็นวัดเล็กๆที่อันซีนแห่งนึง สวยมาก บริเวณโดยรอบมีการดูแลอย่างดี ทำความสะอาดทางเดินดีมาก ประวัติ จากการบอกเล่าต่อกันมา วัดสังกระต่าย เดิมชื่อว่า "วัดสามกระต่าย" แต่ได้มีการเรียกชื่อผิดเพี้ยนกันมาเรื่อยๆจนกลายเป็นวัดสังกระต่าย มี "ทวดติ จันทนเสวี" ซึ่งเป็นพระมารดาของพระยาหัสกาลเป็นผู้สร้างตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาประมาณ 400-500 ปีมาแล้ว สมัยนั้นมี พระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาอยู่นาน โดยมีสภาพเป็นวัดบริเวณด้านซ้ายเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ถมดินกลบไปแล้ว ส่วนบริเวณ ข้างโบสถ์มีกุฏิสร้างเรียงรายอยู่หลายหลัง ต่อมาพระภิกษุสงฆ์เกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้นและทะเลาะกันเรื่อยมา ชาวบ้านเชื่อกันว่าสาเหตุน่า จะมาจากเรื่องของเจ้าที่ที่สิงสถิตในบริเวณวัดแรงมาก จึงทำให้พระสงฆ์ไม่สามัคคีกัน ต้องแยกย้ายกันไปคนละที่คนละทาง จนในที่สุด ชาวบ้านก็เริ่มเสื่อมศรัทธาไม่เข้ามาทำบุญ พระสงฆ์ไม่มีจำวัดกลายเป็นวัดร้าง หลังเป็นวัดร้างนานนับ 100 ปี ในละแวกหมู่บ้านได้มี การสร้างวัดขึ้นมาใหม่ชื่อว่า วัดไผ่ล้อม ชาวบ้านจึงหันไปเลื่อมใสศรัทธาและไปทำบุญที่วัดไผ่ล้อมแทน ต่อมาชาวบ้านได้มาย้ายกุฏิที่ วัดสังกระต่ายไปสร้างเป็นกุฏิใหม่ที่วัดไผ่ล้อม เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จำวัด ทำให้วัดสังกระต่ายเหลือเพียงโบสถ์ร้างที่ถูกปกคลุม ไปด้วยต้นโพธิ์อย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เมื่อก่อนวัดสังกระต่าย มีเพียงพระพุทธรูป 3 องค์ที่อยู่ข้างในคือ หลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุขเท่านั้น แต่มีสภาพที่โดนตัดเศียรกองไว้กับพื้น จนต้องมีการบูรณะซ่อมแซมต่อเศียรพระไว้กับองค์พระ ส่วนหลวงพ่อแก่น ได้นำเศียรพระที่ถูกตัดมาจาก อ.วิเศษชัยชาญมาบูรณะสร้างองค์ใหม่และประดิษฐานไว้ แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนยังมีความเลื่อมใส ศรัทธาในตัววัดถึงแม้จะเป็นวัดร้างก็ตาม บ้านไหนมีงานบุญงานมงคลจะมากราบไหว้ที่วัดแห่งนี้ ยิ่งเป็นงานบวชก็จะแห่นาคมาเวียนรอบ โบสถ์ร้างโบราณ แห่งนี้ 3 รอบบ้าง 9 รอบบ้าง ก่อนที่จะแห่นาคไปยังวัดที่จะอุปสมบทอีกที จึงได้รับการดูแลจาก สำนักงานเทศบาล ตำบลศาลาแดงและชาวบ้านเป็นอย่างดี ส่วนพื้นที่ของวัดส่วนใหญ่ชาวบ้านได้เช่าไปเพื่อประโยชน์ หลังมีเสียงร่ำลือถึง ความสวยงามของโบสถ์แห่งนี้ ก็เริ่มมีผู้คนสนใจมาชมโบสถ์มากขึ้น กรมศิลปากรได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูล เตรียมขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งใหม่อีกด้วยโดยมุ่งเน้นให้คงสภาพเป็นโบราณสถานที่มีศิลปกรรมที่สวยงามตามธรรมชาติเอาไว้ การเดินทางไปวัดสังกระต่าย วัดสังกระต่าย ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอ่างทองประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ไม่ไกลจากวัดขุนอินทประมูล โดยเดินทางมาจากถนนสายเอเชีย แยกเข้า จ.อ่างทอง ด้านขวามือจะผ่าน โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม ตรงไปข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (สะพานอ่างทอง) จะเจอสี่แยกไฟแดง ให้ตรงมาผ่านตลาด จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ เจอสี่แยกไฟแดงแยกเรือนจำให้เลี้ยวขว ผ่านเรือนจำอ่างทอง ตรงไปด้าน ซ้ายมือเห็นปั๊มน้ำมัน ปทต.ให้ ยูเทิร์นกลับ จะพบป้ายวัดสังกระต่ายอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทศบาลตำบลศาลาแดง ประมาณ 500 เมตรก็ถึงวัดสังกระต่าย
ธวัชชัย อารีย์ธวัชชัย อารีย์
วันที่ไป หาทางเข้าไม่ยาก เข้าไปภายใน ซอยไม่ลึก มีอุโบสถโบราณ ปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ บริเวณพื้นที่กว้างขวางนักเที่ยวยังไม่มาก และยังมีชาวบ้านนำผลไม้ ที่ชาวบ้านปลูกเอง มาจำหน่าย ในราคาไม่แพง น่าซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือรับประทานเอง จอดรถสะดวกสบาย ผู้ใหญ่เดินได้สะดวกจอดรถใกล้ๆสถานที่อุโบสถโบราณ วัดสังกระต่าย เป็นโบราณสถานร้างตั้งอยู่ในตำบลศาลาแดง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง อุโบสถมีอายุกว่า 400 ปี วัดสังกระต่าย เดิมชื่อว่า วัดสามกระต่าย แต่ภายหลังได้เรียกเพี้ยนมาเป็น "วัดสังกระต่าย" ผู้สร้างวัดคือ ทวดติ จันทนเสวี เป็นพระมารดาของพระยาหัสกาล เป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาอยู่นาน สภาพวัดบริเวณด้านซ้ายเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ถมดินกลบไปแล้ว ข้างอุโบสถมีกุฏิสร้างเรียงรายอยู่หลายหลัง ต่อมาพระภิกษุสงฆ์เกิดทะเลาะวิวาทกัน จนทำให้ต้องแยกย้ายกันไป ชาวบ้านก็เริ่มเสื่อมศรัทธาไม่เข้ามาทำบุญ พระสงฆ์ไม่มีจำวัดกลายเป็นวัดร้าง ภายหลังที่เป็นวัดร้างร่วมร้อยปี มีการสร้างวัดใหม่ชื่อ วัดไผ่ล้อม ชาวบ้านได้ย้ายกุฏิของวัดสังกะต่ายไปที่วัดไผ่ล้อม เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จำวัด ทำให้วัดสังกระต่ายเหลือเพียงอุโบสถร้าง ถูกปกคลุมไปด้วยต้นโพธิ์ แต่เดิมนั้นภายนอุโบสถมีพระพุทธรูป 3 องค์ คือ หลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข แต่มีสภาพที่โดนตัดเศียรกองไว้กับพื้น จนต้องมีการบูรณะซ่อมแซมต่อเศียรพระไว้กับองค์พระ ส่วนหลวงพ่อแก่น ได้นำเศียรพระที่ถูกตัดมาจากอำเภอวิเศษชัยชาญ มาบูรณะสร้างองค์ใหม่และประดิษฐานไว้ แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนยังมีความเลื่อมใส ศรัทธาในตัววัดถึงแม้จะเป็นวัดร้างก็ตาม ชาวบ้านยังมีการแห่งนาคมาเวียนรอบอุโบสถ ก่อนจะไปแห่นาคไปยังวัดที่จะอุปสมบทอีกที ส่วนที่หลงเหลือมีเพียงอุโบสถแค่ส่วนผนังที่มีต้นโพธิ์ 4 ต้น ขึ้นปกคลุมแล้วยึดผนังอุโบสถเอาไว้ในลักษณะ 4 มุมพอดี อุโบสถมี 3 ห้อง มีพระประธานและพระพุทธรูปอยู่ทั้งสิ้น 4 องค์ ในห้องแรกประดิษฐานหลวงพ่อแก่น ในห้องใหญ่ตรงกลางประดิษฐานหลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข ในห้องสุดท้ายนั้นเป็นห้องของพ่อปู่ฤาษี ช่องหน้าต่างสามารถมองเข้าไปตรงกับองค์พระพอดี กับผนังที่ถูกอุ้มไว้ด้วยรากของต้นโพธิ์
See more posts
See more posts
hotel
Find your stay

Pet-friendly Hotels in Ang Thong Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

a new temple named Wat Phailom was built, and the villagers moved the chedis of Wat Sangkratai to Wat Phailom so that the monks could use them. As a result, only the ubosot remained at Wat Sangkratai, covered by trees. Originally, inside the ubosot, there were three Buddha statues: Luang Pho Wande, Luang Pho Sri, and Luang Pho Suk. However, the statues were in a state of disrepair and were placed on the ground, so they had to be renovated and attached to the new Buddha images. As for Luang Pho Kaeo, the villagers brought the damaged Buddha image from Amphoe Wiset Chai Chan for reconstruction and enshrinement. However, some villagers still had doubts about the temple's authenticity, so they continued to circumambulate the ubosot before moving on to another temple to pay homage. Today, only the ubosot remains, with four Bodhi trees covering and holding onto the walls in all four corners. The ubosot has three rooms and a total of four Buddha images. In the first room, Luang Pho Kaeo is enshrined. In the large central room, there are statues of Luang Pho Wande, Luang Pho Sri, and Luang Pho Suk. The last room belongs to Pho Po Ruasri, and its windows align with the Buddha image and the wall held by the roots of the Bodhi trees. The Ministry of Culture has registered the Bodhi trees surrounding the ubosot of Wat Sangkratai as valuable trees, and they have been declared as national heritage since the year 2017.
Phimtarwat Narunthorn

Phimtarwat Narunthorn

hotel
Find your stay

Affordable Hotels in Ang Thong Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

Get the Appoverlay
Get the AppOne tap to find yournext favorite spots!
เป็นวัดเล็กๆที่อันซีนแห่งนึง สวยมาก บริเวณโดยรอบมีการดูแลอย่างดี ทำความสะอาดทางเดินดีมาก ประวัติ จากการบอกเล่าต่อกันมา วัดสังกระต่าย เดิมชื่อว่า "วัดสามกระต่าย" แต่ได้มีการเรียกชื่อผิดเพี้ยนกันมาเรื่อยๆจนกลายเป็นวัดสังกระต่าย มี "ทวดติ จันทนเสวี" ซึ่งเป็นพระมารดาของพระยาหัสกาลเป็นผู้สร้างตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาประมาณ 400-500 ปีมาแล้ว สมัยนั้นมี พระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาอยู่นาน โดยมีสภาพเป็นวัดบริเวณด้านซ้ายเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ถมดินกลบไปแล้ว ส่วนบริเวณ ข้างโบสถ์มีกุฏิสร้างเรียงรายอยู่หลายหลัง ต่อมาพระภิกษุสงฆ์เกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้นและทะเลาะกันเรื่อยมา ชาวบ้านเชื่อกันว่าสาเหตุน่า จะมาจากเรื่องของเจ้าที่ที่สิงสถิตในบริเวณวัดแรงมาก จึงทำให้พระสงฆ์ไม่สามัคคีกัน ต้องแยกย้ายกันไปคนละที่คนละทาง จนในที่สุด ชาวบ้านก็เริ่มเสื่อมศรัทธาไม่เข้ามาทำบุญ พระสงฆ์ไม่มีจำวัดกลายเป็นวัดร้าง หลังเป็นวัดร้างนานนับ 100 ปี ในละแวกหมู่บ้านได้มี การสร้างวัดขึ้นมาใหม่ชื่อว่า วัดไผ่ล้อม ชาวบ้านจึงหันไปเลื่อมใสศรัทธาและไปทำบุญที่วัดไผ่ล้อมแทน ต่อมาชาวบ้านได้มาย้ายกุฏิที่ วัดสังกระต่ายไปสร้างเป็นกุฏิใหม่ที่วัดไผ่ล้อม เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จำวัด ทำให้วัดสังกระต่ายเหลือเพียงโบสถ์ร้างที่ถูกปกคลุม ไปด้วยต้นโพธิ์อย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เมื่อก่อนวัดสังกระต่าย มีเพียงพระพุทธรูป 3 องค์ที่อยู่ข้างในคือ หลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุขเท่านั้น แต่มีสภาพที่โดนตัดเศียรกองไว้กับพื้น จนต้องมีการบูรณะซ่อมแซมต่อเศียรพระไว้กับองค์พระ ส่วนหลวงพ่อแก่น ได้นำเศียรพระที่ถูกตัดมาจาก อ.วิเศษชัยชาญมาบูรณะสร้างองค์ใหม่และประดิษฐานไว้ แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนยังมีความเลื่อมใส ศรัทธาในตัววัดถึงแม้จะเป็นวัดร้างก็ตาม บ้านไหนมีงานบุญงานมงคลจะมากราบไหว้ที่วัดแห่งนี้ ยิ่งเป็นงานบวชก็จะแห่นาคมาเวียนรอบ โบสถ์ร้างโบราณ แห่งนี้ 3 รอบบ้าง 9 รอบบ้าง ก่อนที่จะแห่นาคไปยังวัดที่จะอุปสมบทอีกที จึงได้รับการดูแลจาก สำนักงานเทศบาล ตำบลศาลาแดงและชาวบ้านเป็นอย่างดี ส่วนพื้นที่ของวัดส่วนใหญ่ชาวบ้านได้เช่าไปเพื่อประโยชน์ หลังมีเสียงร่ำลือถึง ความสวยงามของโบสถ์แห่งนี้ ก็เริ่มมีผู้คนสนใจมาชมโบสถ์มากขึ้น กรมศิลปากรได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูล เตรียมขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งใหม่อีกด้วยโดยมุ่งเน้นให้คงสภาพเป็นโบราณสถานที่มีศิลปกรรมที่สวยงามตามธรรมชาติเอาไว้ การเดินทางไปวัดสังกระต่าย วัดสังกระต่าย ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอ่างทองประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ไม่ไกลจากวัดขุนอินทประมูล โดยเดินทางมาจากถนนสายเอเชีย แยกเข้า จ.อ่างทอง ด้านขวามือจะผ่าน โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม ตรงไปข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (สะพานอ่างทอง) จะเจอสี่แยกไฟแดง ให้ตรงมาผ่านตลาด จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ เจอสี่แยกไฟแดงแยกเรือนจำให้เลี้ยวขว ผ่านเรือนจำอ่างทอง ตรงไปด้าน ซ้ายมือเห็นปั๊มน้ำมัน ปทต.ให้ ยูเทิร์นกลับ จะพบป้ายวัดสังกระต่ายอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทศบาลตำบลศาลาแดง ประมาณ 500 เมตรก็ถึงวัดสังกระต่าย
Sao Chan

Sao Chan

hotel
Find your stay

The Coolest Hotels You Haven't Heard Of (Yet)

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

hotel
Find your stay

Trending Stays Worth the Hype in Ang Thong Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

วันที่ไป หาทางเข้าไม่ยาก เข้าไปภายใน ซอยไม่ลึก มีอุโบสถโบราณ ปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ บริเวณพื้นที่กว้างขวางนักเที่ยวยังไม่มาก และยังมีชาวบ้านนำผลไม้ ที่ชาวบ้านปลูกเอง มาจำหน่าย ในราคาไม่แพง น่าซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือรับประทานเอง จอดรถสะดวกสบาย ผู้ใหญ่เดินได้สะดวกจอดรถใกล้ๆสถานที่อุโบสถโบราณ วัดสังกระต่าย เป็นโบราณสถานร้างตั้งอยู่ในตำบลศาลาแดง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง อุโบสถมีอายุกว่า 400 ปี วัดสังกระต่าย เดิมชื่อว่า วัดสามกระต่าย แต่ภายหลังได้เรียกเพี้ยนมาเป็น "วัดสังกระต่าย" ผู้สร้างวัดคือ ทวดติ จันทนเสวี เป็นพระมารดาของพระยาหัสกาล เป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษาอยู่นาน สภาพวัดบริเวณด้านซ้ายเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้ถมดินกลบไปแล้ว ข้างอุโบสถมีกุฏิสร้างเรียงรายอยู่หลายหลัง ต่อมาพระภิกษุสงฆ์เกิดทะเลาะวิวาทกัน จนทำให้ต้องแยกย้ายกันไป ชาวบ้านก็เริ่มเสื่อมศรัทธาไม่เข้ามาทำบุญ พระสงฆ์ไม่มีจำวัดกลายเป็นวัดร้าง ภายหลังที่เป็นวัดร้างร่วมร้อยปี มีการสร้างวัดใหม่ชื่อ วัดไผ่ล้อม ชาวบ้านได้ย้ายกุฏิของวัดสังกะต่ายไปที่วัดไผ่ล้อม เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จำวัด ทำให้วัดสังกระต่ายเหลือเพียงอุโบสถร้าง ถูกปกคลุมไปด้วยต้นโพธิ์ แต่เดิมนั้นภายนอุโบสถมีพระพุทธรูป 3 องค์ คือ หลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข แต่มีสภาพที่โดนตัดเศียรกองไว้กับพื้น จนต้องมีการบูรณะซ่อมแซมต่อเศียรพระไว้กับองค์พระ ส่วนหลวงพ่อแก่น ได้นำเศียรพระที่ถูกตัดมาจากอำเภอวิเศษชัยชาญ มาบูรณะสร้างองค์ใหม่และประดิษฐานไว้ แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนยังมีความเลื่อมใส ศรัทธาในตัววัดถึงแม้จะเป็นวัดร้างก็ตาม ชาวบ้านยังมีการแห่งนาคมาเวียนรอบอุโบสถ ก่อนจะไปแห่นาคไปยังวัดที่จะอุปสมบทอีกที ส่วนที่หลงเหลือมีเพียงอุโบสถแค่ส่วนผนังที่มีต้นโพธิ์ 4 ต้น ขึ้นปกคลุมแล้วยึดผนังอุโบสถเอาไว้ในลักษณะ 4 มุมพอดี อุโบสถมี 3 ห้อง มีพระประธานและพระพุทธรูปอยู่ทั้งสิ้น 4 องค์ ในห้องแรกประดิษฐานหลวงพ่อแก่น ในห้องใหญ่ตรงกลางประดิษฐานหลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข ในห้องสุดท้ายนั้นเป็นห้องของพ่อปู่ฤาษี ช่องหน้าต่างสามารถมองเข้าไปตรงกับองค์พระพอดี กับผนังที่ถูกอุ้มไว้ด้วยรากของต้นโพธิ์
ธวัชชัย อารีย์

ธวัชชัย อารีย์

See more posts
See more posts