วัดโพธิ์บางคล้า เดิม ชื่อว่า วัดโพธิ์ มีเนื้อที่ประมาณ 31 ไร่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 2309 คราวสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช คั้งพระเจ้าตากสินนำกองกำลังตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าจากกรุงศรีอยุธยา และได้สู้รบกับกองกำลังของพม่าครั้งสุดท้ายที่ปากลำน้ำโจ้โล้ หรือตำบลปากน้ำ ในปัจจุบัน(ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 2 กิเมตร) และก่อนที่จะนำทัพไปเมืองจันทบูร(จันทบุรี)ได้มาพักทัพค้างแรมที่ที่วัดโพธิ์แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นดินแดนที่มีความสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยเราอีกแห่งหนึ่ง
ภายในวัดโพธิ์บางคล้า ร่มรื่นไปด้วยแมกมายใหญ่มายนานาพันธุ์ ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปรกคลุมบริเวณวัดช่วยให้อากาศภายในวัดแห่งนี้เย็นสบายเป็นอย่างมาก ภายในวัดมีศาลาขนาดใหญ่ซึ่งทางด้านในประดิษฐานรูปหล่อของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป พระพุทธรูปที่สำคัญของเมืองไทย และพระเบญจภาคีทั้ง 5 อาทิ เช่น พระลอดเมืองลำพูน พระสมเด็จวัดระฆัง พระนางพญาพิษณุโลก พระซุ้มก่อ พระผงสุพรรณ พระหลวงพ่อพุทธโสธร ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของ จังหวัดฉะเชิงเทรา เราสามารถเข้าไปกราบไหว้บูชาปิดทอง เพื่อเป็นสิริมงคลได้ครับ นอกจากนั้นบริเวณด้านหน้าวัด ยังมีวิหารโบราณในสมัยของพระเจ้าตากสินมหาราชอายุหลายร้อยปีซึ่งด้านในประดิษฐาน องค์หลวงพ่อโต ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ด้วย ซึ่งนิยมเรียกกันคือ หลวงพ่อโตวัดโพธิ์บางคล้า ด้านหลังตลอดแนววัด ติดกับแม่น้ำบางประกงที่กว้างใหญ่ ซึ่งช่วยให้บรรยากาศในยามเช้าที่ช่างสดชื่นบรรยากาศยามเย็นแสนจะสงบ เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรม เป็นอย่างยิ่ง บริเวณริมน้ำทำเป็นท่าเทียบเรือนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางทางเรือมาที่วัดโพธิ์แห่งนี้ได้
วัดแห่งนี้แต่เดิมเคยเห็นมีกุฏิไม้ ใต้ถุนสูงหลังคามุงจาก ตั้งอยู่ท่าน้ำบางประกงใกล้กับต้นโพธิ์ใหญ่ มีโบสถ์ลักษณะคล้ายเก๋งจีนหลังคาซ้อน 2 ชั้นมุงด้วยกระเบื้องกาบกล้วย ช่อฟ้าเป็นรูปหัวมังกร ผนังก่ออิฐฉาบด้วยปูนขาวผสมน้ำอ้อย ล้อมรอบด้วยใบเสมา ซึ่งแสดงไห้เห็นว่าในอดีตดินแดนแถบนี้มีชุมชนชาวจีนโบราณอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันสิ่งปลูกสร้างได้รื้อถอนไปแล้ว ภายในวัดโพธิ์บางคล้ามีศาสนสถานที่สำคัญก็คือ พระวิหารเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2310 – 2315 ในรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หลังคาเป็นทรงจตุรมุขมุงด้วยกระเบื้องดินเผาเกล็ดเต่า ประดับช่อฟ้าใบระกา หน้าบันไม่มีลวดลาย มีประตูทางเข้า 2 ด้าน คือทางทิศเหนือ และทิศตะวันตก เหนือประตูประดับด้วยถ้วยจีนเรียงเป็นรูปวงกลม มีหน้าต่าง 1 ช่อง ทางทิศตะวันออก ภายในวิหารมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ 1 องค์ คือ องค์หลลวงพ่อโต แต่เดิมเคยมีระเบียงคดล้อมรอบและภายในระเบียงคดนั้นเดิมมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย 9 องค์ ประดิษฐานอยู่โดยรอบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2485 ได้มีจิตรศรัทธาบูรณะปฏิสังขรณ์วิหาร ประดับด้วยช่อฟ้ารูปหัวพญานาคเป็นกระเบื้องเกล็ดเต่าสีเขียว ประดับด้วยช่อฟ้าช่อฟ้ารูปหัวพระญานาคและมีใบระกาหน้าจั่วทางทิศตะวันตะวันตกปั้นเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ประดับด้วยลายเครือเถา หน้าจั่วด้านทิศเหนือปั้นเป็นรูปดอกบัว 5 ดอก ประดับแจกันต่อมาหลังคาได้พังลงมาทำให้พญานาคและใบระกาชำรุดเสียหาย
ในปี พ.ศ. 2541 ชาวอำเภอบางคล้าร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ บูรณะปฏิสังขรณ์วิหารในส่วนของโครงสร้างหลังคาโดยคงรูปแบบตามเดิมไว้ และได้ตั้งเสาขึ้น 8 ต้น เสริมความแข็งแรงของหลังคาทั้งสี่ด้าน พื้นโดยรอบพระหารปูด้วยศิลาแลง ผนังภายในก่ออิฐฉาบปูน และเปลี่ยนเพดานใหม่ พร้อมติดตั้งโคมไฟ ปูพื้นด้วยหินอ่อน และบริเวณผนังวิหารภายในมีภาพจิตรกรรมเกี่ยวพระพุทธเจ้า และสัตว์ในป่าหิมพานต์
สิ่งที่ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ภายในวัดโพธิ์บางคล้าและแปลกว่าวัดอื่น ๆ ก็ คือมี นกมีหู หนูมีปีกตัวใหญ่ หรือที่เรียกกันว่าค้างคาวแม่ไก่จำนวนนับแสนตัว อาศัยอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมาก ๆในปัจจุบัน ค้างคาวตัวใหญ่เหล่านี้ใช้ต้นไม้ในบริเวณวัดเป็นพื้นที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนานหลายปีโดยจะไม่ออกไปนอกบริเวณวัดเลย แม้จะมีต้นไม้มากมายของชาวบ้านใกล้ ๆ ที่สามารถเข้าไปเกาะไปอาศัยได้แต่ฝูงค้างคาวเหล่านี้ก็จะไม่ไปเกาะอาศัย จะอยู่แค่ในบริเวณวัดเท่านั้น ฝูงค้างคาวแม่ไก่ตัวใหญ่จำนวนมากเหล่านี้มีความผูกพันอย่างแนบแน่นกับวัดและอาศัยอยู่ที่วัดโพธิ์แห่งนี้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน...
Read moreวัดโพธิ์บางคล้า ตามคำบอกเล่าของผู้สูงอายุในท้องถิ่น วัดแห่งนี้สร้างขึ้นสมัยใดไม่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และคาดว่าเคยเป็นที่พักทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งยกทัพไปต่อสู้กับพม่า ที่บริเวณปากน้ำโจ้โล้(ห่างจากวัด 1 กม.)เมื่อราวๆปี พ.ศ. 2309
จากคำบอกเล่าอีกนั้น วัดแห่งนี้เดิมเป็นกุฎิไม้ใต้ถุนสูง หลังคามุงจาก อยู่ใกล้กับท่าน้ำแม่น้ำบางปะกงและต้นโพธิ์ใหญ่ มีโบสถ์คล้ายเก๋งจีน หลังคาซ้อน2ชั้น มุงด้วยกระเบื้องกาบกล้วย ช่อฟ้าเป็นรูปหัวมังกร ผนังก่ออิฐฉาบปูนขาวผสมน้ำอ้อย ล้อมรอบด้วยใบเสมา (ปัจจุบันทางวัดได้รื้อถอนโบสถ์และกุฏิไม้แล้ว)
และด้านหน้าวัดจะมีวิหารเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ทรงจตุรมุขสมัยอยุธยาตอนปลาย หลังคามุงด้วยกระเบื้องเกล็ดเต่า และมีการซ่อมแซมหลังคาอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2485 และต่อมาหลังคาเกิดพังทลายลง ทำให้ต้องสร้างหลังคาขึ้นใหม่แทนของเดิม เมื่อปี พ.ศ.2541
ปัจจุบันวิหารแห่งนี้มีเฉพาะฝาผนังปูน และพระพุทธรูปปางไสยยาสน์เท่านั้น ที่ยังคงเป็นของดั้งเดิม
ภายในวัดจะมีศาลาใหญ่ ด้านในประดิษฐานรูปหล่อของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป ภายในวัดโพธิ์บางคล้าแห่งนี้ ร่มรื่นและเต็มไปด้วยต้นไม้ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ค้างคาวแม่ไก่ ที่นี่จะมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนหลายร้อยตัว เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ในเวลากลางวัน ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ค้างคาวแม่ไก่มาอาศัยที่วัดตั้งแต่สมัยไหนไม่มีใครทราบได้ เพราะเมื่อจำความได้ผู้เฒ่าผู้แก่ ก็บอกว่าเจอค้างคาวพวกนี้แล้ว ค้างคาวแม่ไก่จะตัวโตมาก มีน้ำหนักมาถึง 800กรัม จะออกหากินในเวลากลางคืน สิ่งหนึ่งที่รู้สึกชื่นชมในวัดนี้คือ เรื่องความสะอาด สังเกตได้ว่าวัดนี้จะมีจำนวนค้างคาวแม่ไก่เยอะมากหลายร้อยตัว แต่ทว่ากลับไม่มีกลิ่นเหม็นสาปของมูลค้างคาวเลย และแทบจะไม่เห็นมูลค้างคาวตามที่ต่างๆเช่นกัน เรียกได้ว่าทางวัดมีการจัดการในส่วนนี้ได้อย่างดี ภายในวัดร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะกับการมาไหว้พระทำบุญเป็นอย่างมาก หากมีเวลาว่างลองแวะมาที่วัดโพธิ์บางคล้ากันนะคะ...
Read moreA must see for those who love sky puppies!! Gorgeous flying foxes everywhere above, and it was so cool to watch them hanging out, fanning themselves, and sometimes taking flight. I was relieved that there is no animal exploitation at the temple - you can observe the bats as long as you like, but no feeding or petting allowed. The monks are very kind and take great care of them - a cruelty free, nonprofit sanctuary. There's also a lovely 200 year old temple, and the temple is in a relaxing spot next to the river. This is definitely worth a visit! Don't...
Read more