เพียงแค่ได้ยินว่าลานหินสีชมพู อยู่แถวนี้รถเข้าไม่ถึง ต้องเดินเท้าเข้าไป ใจของนักผจญภัยก็เริ่มคึกคัก อยากเห็นและอยากไปสัมผัส เรามากัน4คน ทุกคน60upไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง เริ่มเดินสำรวจพบมีชายหาดเล็กๆ มีโขดหินสีชมพูอยู่ด้านล่าง แต่ยังไม่ใช่ลานหินสีชมพู ต้องเดินไปอีก ทางเดินมี2ทางคือ 1เดินรอบเป็นวงกลม ลัดเลาะตามชายหาด เส้นทางนี้ใช้วลาเป็นชั่วโมงกว่าจะถึง อาจจะต้องผจญภัย ปีนโขดหินเป็นระยะๆ ซึ่งบ่ายแก่ๆก็คลื่นแรงพอสมควร วิธีที่2เดินไปตามเส้นทางเดินขึ้นเขาที่เขามีนำร่องทางเดินไว้ให้พอสมควร ออกจะชันสักหน่อย สำหรับผู้สูงวัย แต่ก็พอไหวถ้าใจรัก พวกเราเลือกทางเดินที่2ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก ถึงจุดชมวิว สูงพอสมควร มองเห็นด้านล่างซึ่งเป็นหน้าผาแลได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังซู่ซู่ เลยทีเดียว มีทางเดินธรรมชาติซึ่งต้องระมัดระวังในการเดินเป็นพิเศษ ไม่ให้ล้ม ไม่ให้ลื่น ทางเดินที่เดินไป น่าจะเป็นร่องน้ำไหลใน เวลาฝนตก ตรงนี้เราว่าสนุกและผจญภัยพอสมควร หยุดถ่ายรูปกันพักใหญ่ ได้รูปสวยๆไป แล้วเดินต่อ ไม่มีเส้นบอกทางสักเท่าไหร่ เลยมุดเข้าไปในอุโมงต้นไม้ เดินท่องไปในเส้นทางเล็กซึ่งเต็มไปด้วยป่าสักพักใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่พิเศษมานำทางให้1ตัว คือหมาน้อยที่สุดแสนจะน่ารัก ในที่สุดก็เดินมาทะลุป่า ....ลานหินสีชมพูกว้างใหญ่ น่ามหัศจรรย์ยิ่ง อยู่ตรงหน้า หายเหนื่อยทันที ได้ยินและได้เห็นเสียงคลื่นกระทบลานหิน ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มันดีกว่าที่คิด ถ่ายรูปกีนจนโทรศัพย์อบตใกล้หมด เดินทางกลับดีกว่า
ขากลับลองเส้นทางใหม่ ไปเจอหน้าผาสูงชัน อันตรายเกินไปสำหรับสัยเรา แต่เจ้าหมาน้อยก็นำเราไปลิ่วๆ จนพวกเราต้องเรียกให้เขากลับมา ไม่กล้าไป ย้อนกลับมา ไปทางเส้นทางใหม่ ขึ้นอีกที่ มาทางนี้ปีนสูง เส้นทางเดินป่าแบบจัดเต็ม ปีนเขา พึ่งเถาวัลย์จับต้นไม้ลัดเลาะ จนคิดว่าคงหลงทางแล้ว สุดท้ายใช้เวลานานครึ่งชม.จึงหลุดมาจากดงป่า บรรจบ พบกับส้นทางตอนปีนขึ้น เลยลงมาถึงด้านล่างโดยปลอดภัย
แนะนำว่าไม่ควรไปเดินตอนฝนตก เพราะน่าจะอันตราย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายท้าทาย ผจญภัย...
Read moreอยู่ห่างจากอำเภอท่าใหม่ 15 กิโลเมตร เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เป็นพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกทำลาย ปัจจุบันมีต้นไม้เบิกนำขึ้นมาทดแทนไม้ดั้งเดิม สภาพป่าเป็นป่า 4 ชนิดในพื้นที่เดียวกัน ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าชายหาด และป่าชายเลน นอกจากนี้ทางเขตฯ ได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ผ่านจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหาดเจ้าหลาวและปากน้ำแขมหนูได้ ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน ตามประกาศกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปี พ.ศ. 2542 ให้เป็นพื้นที่ที่อยู่ในการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริมีพื้นที่ในการดูแลทั้งป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าชายหาด และป่าชายเลน รวมประมาณ 11,370 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคลองขุด ตำบลรำพัน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน มีหน้าที่ศึกษาค้นคว้าและวิจัย เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดจันทบุรี...
Read moreค่าเข้าสถานที่คนละ 30 บาท และรถยนต์คันละ 30 บาท พื้นที่โดยรอบเป็นภูเขาเตี้ยๆ ริมทะเล มีวิวสวยงาม
ไฮไลท์ของสถานที่ท่องเที่ยวคือทางเดินศึกษาธรรมชาติไปยังจุดชมวิวริมทะเลและลานหินสีชมพู แนะนำว่าควรพกน้ำขวดเล็กๆ จิบระหว่างเดินเที่ยวด้วยก็จะดี
เริ่มต้นเส้นทางโดยเดินป่าขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ยังจุดชมวิวริมทะเลบนเขา ระยะทางไม่ไกลมาก ได้ออกกำลังกายแบบเหนื่อยเบาๆ
เมื่อถึงจุดชมวิวจะมีศาลาแวะพักเหนื่อย เป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปสวยๆ ที่ดีมาก ลมโกรกดี จากจุดนี้มีทางเดินลัดเลาะต่อไปยังลานหินสีชมพูที่อยู่ไม่ไกล
จากบริเวณลานหินสีชมพูสามารถเลือกเดินกลับทางเดินได้ หรือหากช่วงน้ำลด ก็สามารถเดินเลาะริมทะเลวนกลับเป็นวงกลมอีกทางได้เช่นกัน แต่ในบางจุดอาจต้องปีนป่ายหินบ้าง ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยพอสมควร
ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีและมีธรรมชาติสวยงามมาก แต่อยากให้มีการจัดการเรื่องความสะอาดได้ดีกว่านี้ เพราะเห็นมีขวดน้ำพลาสติกทิ้งไว้ระหว่างทางหลายจุด และนักท่องเที่ยวเองก็ควรมีจิตสำนึกที่ดีด้วย ธรรมชาติสวยๆ...
Read more