มากราบหลวงพ่อปากแดง เป็นพระที่ชาวลาวท่านอัญเชิญมา สิ่งที่ผมสนใจมากกว่านี้ มีที่เก็บอัฐิของทหารญี่ปุ่นด้วย คือ กองพล 37 เห็นได้ว่าสงครามไม่มีอะไรดี มีแต่สูญเสีย ส่วนประวัติของกองพล 37 ผมหาในเน็ตได้ประมาณนี้ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็เอามาแชร์กันได้นะครับ ไปมาวันที่ 10/11/67
หลวงพ่อปากแดงเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ทรงเครื่องดอกพิกุล มีพระโอษฐ์แดง อันเป็นที่มาของชื่อ หลวงพ่อปากแดงนั่นเอง กล่าวกันว่าในอดีตชาวลาวอพยพได้อัญเชิญพระพุทธรูป องค์นี้มาจากนครเวียงจันทน์ และภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานกองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37
ประวัติกองพลทหารราบที่ 37 ในช่วงท้ายสงครามได้เดินทางมาที่ประเทศไทยและตั้งมั่นที่ จ.นครนายก ตามข้อมูลที่ผมหาได้ในเน็ตมีนั้นค่ายทหารญี่ปุ่นก็อยู่บริเวณเขาชะโงก หรือในพื้นที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รร.จปร. ในปัจจุบัน กองพลที่ 37 นี้เป็นกองพลที่เดินทางไกลที่สุดกองพลหนึ่งในปนะวัติศาสตร์ของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเส้นทางเดินทัพมากกว่า 15,000 กิโลเมตร จากการรบที่วนเวียนตามเมืองต่างๆในประเทศจีนและเดินทางจากจีนถึงตอนใต้ของเวียดนามและมาที่ประเทศไทย กองพลที่ 37 มีนามเรียกขานว่ากองพลฟูยู(冬) หรือกองพลฤดูหนาว สถาปนาครั้งแรก 25 มีนาคม 1939 และเข้าทำสงครามครั้งแรกในสงครามจีนญี่ปุ่นครั้งที่สอง (ก่อนที่จะเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา) ปี 1940 ญี่ปุ่นเข้ายึดอินโดจีนฝรั่งเศสได้อย่างง่ายดาย การยึดครองอินโดจีนของญี่ปุ่นนั้นเพื่อปูทางไปสู่การปิดล้อมจีนตลอดจนการบุกไทยและเข้ายึดมลายูขับไล่อังกฤษออกไปในปีถัดมา ฝรั่งเศสจำยอมให้ทหารญี่ปุ่นเข้ามามีอำนาจในดินแดนเพราะประเทศฝรั่งเศสในขณะนั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจของเยอรมันนีพันธมิตรของญี่ปุ่น แต่ถึงอย่างไรก็ดีการบริหารงานต่างๆภายในอินโดจีน ฝ่ายฝรั่งเศสยังคงมีบทบาทในการดำเนินงานต่อไป ในช่วงปี 1944 หลังจากที่ประเทศฝรั่งเศสถูกปลดปล่อยจากฝ่ายอักษะ ทำให้ญี่ปุ่นเองเกรงว่ากองทหารของฝรั่งเศสที่ประจำการในอินโดจีน จะแข็งข้อและวางแผนต่อต้านบ่อนทำลายกองทัพญี่ปุ่นในอินโดจีน ญี่ปุ่นจึงส่งทหารเข้าไปในอินโดจีนมากขึ้น เปิดยุทธการกวาดล้างและโค้นล้มอำนาจของเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสและในขณะเดียวกันก็สถาปนาราชวงศ์ของเวียดนาม ลาว และกัมพูชาขึ้นมาปกครองดินแดนในแถบนี้แทน การที่ญี่ปุ่นส่งทหารเข้าไปเปลี่ยนแปลงการปกครองล้มล้างอำนาจฝรั่งเศสลงมีในชื่อยุทธการ จันทร์กระจ่าง Bright moon หลังยุทธการจันกระจ่างแล้วทหารญี่ปุ่นส่วนหนึ่งก็ข้ามาที่ประเทศไทย โดยมีทหารจากกองพลทหารราบที่ 4 มาตั้งค่ายที่ จ.ลำปาง และกองพลทหารราบที่ 37 มาตั้งค่ายที่ จ.นครนายก วัตถุประสงค์ของกองพลทหารราบที่ 37 ที่มาตั้งฐานที่นครนายก เข้าใจว่ามาตั้งแนวตั้งรับสำคัญ เพราะทางญี่ปุ่นคาดว่าทหารอังกฤษจะบุกเข้าสู่ประเทศไทยทางชายแดนตะวันตก กาญจนบุรี ตาก ในขณะนั้นดินแดนของภาคอีสานของไทยตลอดจนดินแดนอินโดจีนยังเป็นของญี่ปุ่น จึงต้องวางแผนป้องกัน ญี่ปุ่นวางแผนที่จะตั้งรับที่จุด จ.นครนายก และสองเหตุผลที่เลือกนครนายกคือ 1.กรุงเทพเป็นจุดยุทธศาสตร์และถูกทิ้งระเบิดบ่อยครั้ง 2.ในช่วงปลายสงครามโลกรัฐบาลไทยไม่ค่อยเป็นมิตรกับทางญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเองจึงต้องมาวางแนวตั้งรับใหม่ที่นครนายกเพื่อที่จะใช้ตั้งรับทั้งจากกองทัพไทยหากเกิดเหตุการรุนแรง และสามารถใช้เป็นแนวตั้งรับอังกฤษได้ด้วย ในช่วงที่กำลังจะสิ้นสุดสงครามมีคำสั่งให้กองพลที่ 37 เตรียมพร้อมเพื่อที่จะเดินทางลงไปแหลมมลายู แต่สงครามก็สิ้นสุดลงเสียก่อน ทำให้ทหารกองพลที่ 37 ที่นครนายกต้องตกเป็นเชลยศึกและถูกปลดอาวุธ ทหารญี่ปุ่นชุดนี้ถูกส่งกลับประเทศญี่ปุ่นในปี 1946 หลังจากนั้นมีกลุ่มสมาคมทหารผ่านศึกของกองพลทหารราบที่ 37 มาสร้างอนุสรณ์สถานที่วัดหลวงพ่อปากแดง โดยมีลักษณะเป็นแท่นจารึกมีข้อความภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทยดังนี้
สมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา พ.ศ. 2482-2488 กองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 เคยมาตั้งทัพที่วัดแห่งนี้ สมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 จึงสร้างอนุสรณ์สถานขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงดวงวิญญาณของบรรดาทหารสังกัดกองพลญี่ปุ่นที่ 37 จำนวน 7,920 นาย ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างสงคราม โดยนำอัฐิที่ฝังอยู่ในบริเวณวัดมาบรรจุในแท่นที่จัดสร้างขึ้น
อนุสรณ์สถานนี้มีพิธีเปิดเมื่อ 25 มีนาคม 1989 ซึ่งเป็นวันครบรอบสถาปนาหน่วยกองพลทหารราบที่ 37 ครบ 50 ปี และอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะเกี่ยวข้องกับทหารจากกองพลทหาราบที่ 37ของญี่ปุ่น ก็น่าจะเป็นเรื่องขนมโมจิ ที่ทหารญี่ปุ่นได้สอนให้หญิงคนรักชาวไทยที่ จ.นครนายก ได้ทำกินเพื่อระลึกถึงตัวเขา จนกลายเป็นตำนานรักระหว่างทหารหนุ่มญี่ปุ่นและสาวไทย และสุดท้ายลูกหลานของหญิงไทยคนดังกล่าวก็ได้ทำโมจิขาย...
Read moreIf you want to avoid the crowds try going during the week. Easy to get parking on a Wednesday when I visited. Appears to be a combination of temple and markets. Lots of vendors selling fruit, snacks, natural herbs and drinks plus lottery sellers. Temple is very much geared to taking your money. So many deities to pay respects to if you wish. Not expensive varies from 20 to 30 baht. Never seen so much red juice. It's not a temple with beautiful architecture but...
Read moreวัดพราหมณีหรือวัดหลวงพ่อปากแดง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลบ้านใหญ่ อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
วัดพราหมณีสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ. 2439 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2446 วัดยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานกองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 สมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา พ.ศ. 2482–2488 สมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 ได้สร้างอนุสรณ์สถานขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2535 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงดวงวิญญาณของทหารจำนวน 7,920 นาย และนำอิฐที่ฝังอยู่ในบริเวณวัดมาบรรจุในแท่นที่จัดขึ้น
อาคารเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ พระอุโบสถสร้างเมื่อ พ.ศ. 2529 กุฏิสงฆ์ พระวิหารสร้างเมื่อ พ.ศ. 2529 ศาลาอเนกประสงค์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2540 วิหารเจ้าแม่กวนอิม ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอุทยานการศึกษา
ปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ หลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร เป็นศิลปะล้านช้าง จีวรเป็น ลายดอกพิกุล พระโอษฐ์แย้มทาสีแดงเห็นชัด มีตำนานเล่าว่า หลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับพระสุกและพระใส ซึ่งได้อัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์ พอมาถึงประเทศไทย ชาวบ้านได้แยกย้ายไปตามวัดต่าง ๆ ปัจจุบันอัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้น เป็นพระประธานในพระอุโบสถ
หลวงพ่อปากแดง โด่งดังในเรื่องโชคลาภ ประชาชนจึงเดินทางมากราบสักการะเพื่อขอเลขขอหวยกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะวันก่อนหวยออก ...
Read more