Been to this viewpoint many times including numerous times to see the sunrise in the December-February period. We time our arrival to be approximately 30 minutes before sunrise since there is often wonderful colours as the sunlight from below the horizon lights the underside of broken clouds. It can be cold and windy November-March mornings so have some warm clothes on or available. There are now decent toilets available and several local stalls that open very early. We generally take our own thermoses of hot coffee. Sometimes there are no clouds but that often leads to a golden sunrise. Sometimes there is fog any while that can detract from the sunrise experience it makes for a wonderful winter-like experience. Good parking for maybe up...
Read moreที่มาของ จุดชมวิว 1715 จุดชมวิว 1715 เป็นจุดชมวิวสวยที่ตั้งอยู่ใน อำเภอปัว จังหวัดน่าน ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นจะนิยมมาแวะถ่ายรูป ชมวิวกันค่ะ เพราะบริเวณนี้ สามารถชมได้ทั้ง พระอาทิตย์ขึ้น แบบดีงามที่สุดของอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเลยค่ะ
โดยตัวเลข 1715 นี้ ก็คือ ความสูงของบริเวณนี้จากน้ำทะเลปานกลางนั่นเองค่ะ ยิ่งถ้าใครโชคดีมาเที่ยวได้ถูกเวลานะคะ ก็จะได้ชม ทะเลหมอก ด้วย แบบที่ว่าสวยอลังการเลย แต่ในวันที่ไม่มีหมอกก็ใช่ว่าจะไม่สวยนะคะ เพราะเรายังสามารถเห็นวิวของภูเขาสลับซับซ้อนกันอย่างงดงามด้วยค่ะ
ยิ่งถ้าใครเป็นตากล้อง หรือชอบถ่ายภาพสวยๆ แนว Landscape วิวปังๆ ด้วยแล้ว น่าจะต้องถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ แม้ว่าที่นี่จะมีความสูงถึง 1715 แล้ว แต่ความสูงจริงๆ ของยอด ดอยภูคา ก็คือ 1,910 เมตรค่ะ โดยเราจะเห็นได้จากที่ จุดชมวิว 1715 เลยว่ายอดสูงสุดของดอยภูคานั้นจะสูงกว่าแบบเห็นได้ชัดเลยค่ะ
ในส่วนของ ดอยภูคา ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เราก็จะได้เห็นสีเขียวๆ ของป่าเขา แล้วก็เมฆหมอกบนภูเขา ถ้าใครโชคดีไม่เจอฝน ก็จะได้เห็นบรรยากาศโดยรอบที่สวยงดงามมากๆ แต่มาช่วงนี้ก็ห้ามลืมเรื่องของดินถล่มเลยนะคะ เพราะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ซึ่งถ้ามาในช่วงเดือนกันยายนจะดีที่สุดเลย เพราะฝนจะเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีฟีลเขียวๆ ของหน้าฝนอยู่ค่ะ
นอกจาก จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น อย่าง จุดชมวิว 1715 แล้ว ที่ ดอยภูคา ก็ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกอีกด้วยนะคะ นั่นก็คือ บริเวณ ลานดูดาว หรือ ลานดูเดือน ที่อยู่หลังบ้านพักของอุทยานฯ ค่ะ บอกเลยว่ามาเที่ยวที่นี่ถือได้ว่าครบจริงๆ สำหรับจุดชมวิวสวยๆ ของธรรมชาตินี้ ใครอยากมาเที่ยว ก็อย่าลังเลค่ะ
Cr ::...
Read moreนั่งรถขึ้นดอยไปหมู่บ้านบ่อเกลือ เส้นทางโค้งไปมาเป็นระยะ ถนนลาดยางอย่างดี มีบางจุดที่ขรุขระ มองเห็นสภาพเขาหัวโล้น บางช่วงจะมองเห็นภูเขาเรียงกันแบบไล่ระดับดูสวยงามแปลกตา อากาศดี มีความเย็นตลอดเส้นทาง เมื่อถึงจุดชมวิวดอยภูคา1715 เวลา06:30น. ทันได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น อุณหภูมิลดลงจากพื้นล่างประมาณ5° วิวสวยงาม เห็นหมู่บ้านชาวดอยที่ปลูกอยู่บนสันเขาและในหุบเขาเป็นระยะ มีร้านค้าขายของ ชาวบ้านนำผัก สมุนไพร เครื่องเทศที่เป็นของพื้นถิ่นมาขาย มีห้องน้ำสะอาด เดินทางต่อไปยังชุมชนบ่อเกลือ เมื่อถึงจุดจอดรถ ได้พบกับลำธารน้ำที่ไหลมาหล่อเลี้ยงคนในชุมชนนี้(น้ำจากยอดเขา)น้ำใสและเย็นมาก พบความเงียบสงบ ประตูทางเข้าชุมชนปิด!!?? แต่สามารถเดินเข้าไปได้ ร้านค้า2ข้างทางปิดหมด ส่วนใหญ่เป็นร้านกาแฟ80% ได้รับคำบอกกล่าวจากชาวบ้านที่นั่นว่า เป็นช่วงการทำพิธีปิดบ่อเกลือ3วัน เพื่อทำการสวดมนต์บูชาเทพเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์(พิธีเรียกเกลือ) ต้องปิดหมู่บ้านเพื่อทำพิธีประจำทุกปี (ช่วง3วันที่ทำพิธีนั้น ชาวบ้านจะต้องไม่มีการนำเกลือที่มีอยู่ออกมาทำการซื้อขายกันโดยเด็ดขาด)
สุดท้าย เราไม่ได้เกลือสินธ์ุเทา หรือเกลือใดๆติดมือกลับบ้าน แต่ตอนเดินกลับออกมาจากบ่อเกลือ มีร้านกาแฟเปิดอยู่1ร้าน ด้วยความหิว เดินเข้าไปซื้อเค้กมากิน1ชิ้น(ชีสเค้ก)อร่อยค่ะ ได้ชิมผลไม้พื้นถิ่น ที่มีชื่อว่ามะหลอด(ลักษณะผล คล้ายมะเขือเทศราชินี) ลูกที่ยังไม่สุกจัดจะมีรสฝาดเปรี้ยว ถ้าสุกจัดจะไม่ฝาด เอามาจิ้มเกลือกินหรือนำเอาพริกป่น+น้ำปลา+น้ำตาลปีบมาผสมกันแล้วเอามะหลอดไปคลุกกิน...
Read more