โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองน่าน อายุกว่า 600 ปี ที่ใครไปใครมาเมืองน่าน ต้องไปสักการะ และยังเป็น พระธาตุประจำปีเกิด ของคนที่เกิดปีเถาะ (ปีนักษัตรกระต่าย) อีกด้วย
พระธาตุแช่แห้ง เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่าน มาช้านาน มีอายุกว่า 600 ปี ตามพงศาวดาเมืองน่านกล่าวว่า พญาการเมือง เจ้านครน่าน โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากเมืองสุโขทัย (กระดูกข้อมือข้างซ้าย) พ.ศ.1896 มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง และตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้ และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง
ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน ณ อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน วัดพระธาตุแช่แห้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ องค์พระธาตุ สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง ถึง 55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 22.5 เมตร มีสีเหลืองอร่าม เนื่องจากบุด้วย แผ่นทองเหลือง พระธาตุนี้ ตั้งอยู่ บนยอดดอยภูเพียงแช่แห้ง ลักษณะของเจดีย์ทรงระฆัง ส่วนฐานทำเป็นฐาน หน้ากระดานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ รองรับฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดาน สี่เหลี่ยม และแปดเหลี่ยม ซ้อนลดหลั่นกัน 3 ชั้น องค์ระฆังมีขนาดเล็ก บัลลังก์ทำเป็นแท่นสี่เหลี่ยมย่อเก็จ ฐานหน้ากระดาน กลม เป็นกระดานสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยม และชั้นบัวคว่ำเหนือฐานแปดเหลี่ยม ตกแต่งคล้ายกลีบบัว หรือลายใบไม้ แทน ลายดังกล่าวนี้คงได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่า ซึ่งนำมาต่อเติมขึ้นภายหลัง เมื่อล่วงเข้าพุทธศตวรรษที่ 24 แล้ว
ชาวเมืองล้านนามีความเชื่อกัน ว่าการ ได้เดินทางไปสักการบูชากราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุแซ่แห้ง หรือชาวล้านนาจะเรียกกันว่า การชูธาตุ แล้วนั้นจะทำได้รับ อานิสงค์อย่างแรงกล้า ทำให้ชีวิตอยู่ดี มีสุข ปราศจากโรคภัยต่างๆ มาเบียดเบียน หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เป็นต้น
นอกจากองค์พระธาตุแช่แห้งแล้ว ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ควรแก่การไปสักการะและ เดินชมศิลปะอีก เช่น
วิหารหลวง อยู่ทางด้านทิศใต้ขององค์พระธาตุเป็นวิหารขนาดใหญ่ 6 ห้อง ห้องกลางมีขนาด 3 ห้อง และต่อชั้นลดออกไป ทางด้านหน้า 2 ห้องและด้านหลัง 1 ห้อง ดังนั้นหากดูจากภายนอก จะมองเห็นเป็นอาคาร ขนาดใหญ่ หลังคาลาดต่ำลงมาเป็นชั้นซ้อน ด้านละ 3 ชั้น และมีชั้นลดด้านหน้า 2 ชั้น ด้านหลัง 1 ชั้น มีประตูทางด้านหน้า และด้านข้างตรงกลาง ที่น่าสนใจคือ ตรงกลางสันหลังคา ทำเป็นส่วนหางของนาคสองตัว เกี่ยวกระหวัดกันขึ้นไปเป็นสามชั้น เป็นศิลปกรรม ที่งดงามและหาดูได้ยาก
ภายในวิหารหลวงมีพระเจ้าล้านทองเป็นพระประธาน พุทธลักษณะปาง มารศรีวิชัยศิลปะล้านนา ประทับนั่งบนฐาน เป็นพระพุทธรูปองค์ที่สวยงามในจังหวัดน่านองค์หนึ่งและ เป็นพระพุทธรูป คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน พระพุทธรูปประทับยืน ประดิษฐานใน วิหารหลวงจำนวน 2 องค์ปัจจุบัน องค์จริงมอบให้พิพิธภัณฑ์ จ.น่านอีกองค์ ถูกโจรกรรมและยังไม่ได้กลับคืน องค์ที่เห็นจำลองจาก องค์จริงทำพิธีหล่อเททองเมื่อ ปี 2550หน้าบันประตูของวิหารหลวงเป็นปูนปั้นลายนาคเกี่ยวกระหวัดกัน 8 หัว เอกลักษณ์ของศิลปะ เมืองน่าน
วิหารพุทธไสยาศน์ อยู่ทางด้านหน้านอกกำแพงแก้วขององค์พระธาตุ วิหารก่อสร้างตามแนวยางขององค์พระ มีประตูทางเข้า ด้านหลัง คือทิศใต้ ด้านหน้า ยังมี พระเกตุแก้วจุฬามณี จำลอง ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีจอ ให้กราบไหว้ด้วย
วิหารพระเจ้าทันใจ สร้างด้วยคอนกรีตหลังคาไม้มุงด้วย กระเบื้องดิน รูปแบบวิหารโถง ทรงจัตุรมุข กว้าง 11 เมตร ยาว 11เมตร และรอยพระพุทธบาท จำลอง ปัจจุบันบูณณะดูใหม่และงดงามยิ่งขึ้น
เจดีย์ชเวดากอง จำลอง เจดีย์สีขาวศิลปะพม่าที่จำลองมาให้ชาวพุทธได้บูชาตั้งอยู่ทางซ้ายมือเมื่อเดินขึ้นมาถึงบริเวณลานด้านหน้าวัดพระธาตุวิหาร
บันไดนาค บันไดนาค 2 ตัว คู่กันซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าวัดพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองน่านได้ในบริเวณกว้าง
ทุกปีเมื่อถึงวันขึ้น 11-15 ค่ำ เดือน 6 เหนือ (เดือน 4 ใต้) หรือในราวเดือน มี.ค. จะมีประเพณีนมัสการพระธาตุแช่แห้ง ที่ชาวน่านเรียกว่า งานหกเป็งนมัสการพระธาตุแช่แห้ง
ที่สำคัญ พระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุประจำปีเถาะ ...
Read moreLocated on a hill just across the Nan River from the city of Nan, Wat Phra That Chae Haeng is one of the most important and revered temples in Northern Thailand. This sacred site, believed to be over 600 years old, houses a relic of the Buddha and is considered the spiritual heart of Nan Province.
The highlight of the temple is its stunning golden chedi (stupa), built in the classic Lanna style, which glows beautifully in the sunlight and can be seen from afar. The peaceful atmosphere, intricate architecture, and surrounding trees make it a perfect place for quiet reflection or cultural exploration.
The temple complex also features a beautifully restored viharn (prayer hall), ancient Buddha images, and murals depicting local legends. Locals often come to make merit, and visitors are welcome to respectfully observe or...
Read moreThis place is one of the most renowned landmarks in Nan. A must-visit on your what to do list. The golden chedi, of approximately 55 meter high, enshrines a relic of the Buddha. Next to the chedi is the temple in which locally referred to as viharn. Viharn Luang is built in Thai Lü style and is famous for its architecture. No entrance fee required. Overall, this place is easily accessible via songthaew or by car. It's located across the other side of the Nan river and thus you can enjoy good and peaceful views of the town of Nan and its surrounding valley. This is a place believed to have bring good merits to those born in the astrological...
Read more