HTML SitemapExplore
logo
Find Things to DoFind The Best Restaurants

Thung Salaeng Luang National Park — Attraction in Phetchabun Province

Name
Thung Salaeng Luang National Park
Description
Thung Salaeng Luang National Park is a 1,262 square kilometres national park in Phitsanulok and Phetchabun Provinces of Thailand. It encompasses substantial portions of Wang Thong and Lom Sak Districts.
Nearby attractions
Nearby restaurants
Nearby hotels
Related posts
Keywords
Thung Salaeng Luang National Park tourism.Thung Salaeng Luang National Park hotels.Thung Salaeng Luang National Park bed and breakfast. flights to Thung Salaeng Luang National Park.Thung Salaeng Luang National Park attractions.Thung Salaeng Luang National Park restaurants.Thung Salaeng Luang National Park travel.Thung Salaeng Luang National Park travel guide.Thung Salaeng Luang National Park travel blog.Thung Salaeng Luang National Park pictures.Thung Salaeng Luang National Park photos.Thung Salaeng Luang National Park travel tips.Thung Salaeng Luang National Park maps.Thung Salaeng Luang National Park things to do.
Thung Salaeng Luang National Park things to do, attractions, restaurants, events info and trip planning
Thung Salaeng Luang National Park
ThailandPhetchabun ProvinceThung Salaeng Luang National Park

Basic Info

Thung Salaeng Luang National Park

Nong Mae Na, Khao Kho District, Phetchabun 67270, Thailand
4.4(1.4K)
Open 24 hours
Save
spot

Ratings & Description

Info

Thung Salaeng Luang National Park is a 1,262 square kilometres national park in Phitsanulok and Phetchabun Provinces of Thailand. It encompasses substantial portions of Wang Thong and Lom Sak Districts.

Outdoor
Adventure
Family friendly
attractions: , restaurants:
logoLearn more insights from Wanderboat AI.
Phone
+66 96 190 9808
Website
facebook.com

Plan your stay

hotel
Pet-friendly Hotels in Phetchabun Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
Affordable Hotels in Phetchabun Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
The Coolest Hotels You Haven't Heard Of (Yet)
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
Trending Stays Worth the Hype in Phetchabun Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

Reviews

Get the Appoverlay
Get the AppOne tap to find yournext favorite spots!
Wanderboat LogoWanderboat

Your everyday Al companion for getaway ideas

CompanyAbout Us
InformationAI Trip PlannerSitemap
SocialXInstagramTiktokLinkedin
LegalTerms of ServicePrivacy Policy

Get the app

© 2025 Wanderboat. All rights reserved.
logo

Posts

Ruangthong KitcharoenpunyaRuangthong Kitcharoenpunya
มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงแรก........ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงและเขาตะเคียนโง๊ะ หลังจากเย็นฉ่ำจากการได้เล่นน้ำที่ศรีดิษฐ์ ในใจคิดว่าทุ่งแสลงหลวง หนองแม่นา ทางเข้าอยู่ตรงไหน เคยเห็นทางเข้าที่ถนนสาย12 แต่้เส้นทางหนองแม่นานี้ ถนนเส้นเล็กมาก เป็นถนนที่ตัดลัดเลาะผ่านป่าและหุบเขา เส้นทางนี้มีป้ายบอกว่า ทุ่งแสลงหลวง 12 กิโลเมตร พวกเราขับรถตรงดิ่งตามทาง เชื่อหรือไม่ว่า ตั้งแต่ออกจากศรีดิษฐ์มามีป้ายบอกทาง ป้ายเดียว ถึงแมัพวกเราจะมี จี พี เอส แต่ก็เชื่อใจมากไม่ได้ ถนนเส้นนี้พาเรามาถึงทางตัน ก็ยังหาทางเข้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงไม่ได้เลย จนกระทั่งถนนไม่มีทางไป โชคดีมากที่ถนนสุดสายนี้ไปตันอยู่ที่หน้าสำนักงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จนต้องลงไปถามทาง ... 555ขำตัวเอง ขับรถเลยปากทางเข้ามาประมาณ300เมตร เจ้าหน้าที่บอกให้ขับย้อนขึ้นไปสองศาลา เจอศาลาที่สองเลี้ยวซ่ายเข้าไปเลยครับ....พวกเราขับย้อนขึ้นไป ศาลาที่1 ก็ผ่านมาแล้ว ศาลาที่2 อยู่นั่นไง ..ในใจหงุดหงิดขึ้นมา ป้ายอุทยานมันอยู่ไหนวะ.....เลยจอดแวะถามอีกครั้งกับพ่อค้ารถเข็นขายของตลาดนัด แกชี้ไปข้างหลัง ป้ายอุทยานใหญ่เท่าบ้าน แต่ที่พวกเรามองไม่เห็นเนื่องจากรถเข็นบังป้ายมิดขี่หลี่....พวกเราขับรถตรงไป ถนนแย่มากเลยครับ เป็นหลุมเป็นบ่อตลอดระยะทาง จนขับผ่านสะพานข้ามคลอง เห็นป้ายอุทยานตั้งตระหง่าน พร้อมป้อมเจ้าหน้าที่ทางด้านขวา ลงจากรถ เดินตรงไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน พอมองเข้าไปในป้อม ร้างครับร้าง ฝุ่นจับ ในใจคิดแล้วว่าได้เข้าฟรี โชคดีจัง พอขับรถไปสัักพักเท่านั้นล่ะ เห็นอีกป้อมพร้อมเจ้าหน้าที่ถือปืนเอชเค เจ้าหน้าที่เดินมาบอกราคาเข้าอุทยาน ...อ้าวนึกว่าวันนี้จะได้เข้าฟรีซะแล้ว....... มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงสอง.....เมื่อชำระค่าเข้าอุทยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถามทางไปสำนักงานเพื่อไปลงทะเบียนขอกางเต้นท์ เจ้าหน้าที่บอกขับเข้าไปเลยครับ แยกซ้ายประมาณ 300 เมตร ถึงหน้าสำนักงานเลยครับ.....สามร้อยเมตรอีกแล้วครับท่าน เมื่อกี้ ถามทางเข้าอุทยานก็ 300 เมตร ขับรถเข้าไปสักพักก็เจอสำนักงานครับ วันนี้ดูเหมือนภายในอุทยานมีการจัดกองกำลังเต็มยศเกลื่อนไปหมด ......สงสัยนายมาแน่ๆเลย อิอิ..... เดินเข้าไปจ่ายค่ากางเต้นท์ เช่นเคยครับ ราคามาตรฐาน หัวละ30 สามคนก็90 .....นอนโรงแรมปาเข้าไปพันกว่าบาท ประหยัดเป็นกองอิอิ.....ขณะจ่ายเงินเจอนักท่องเที่ยวรายหนึ่งมาเล่าว่าลานกางเต้นท์ที่สอง ไม่มีคนกางเลย มากางแถวลานจอดฮอดีกว่า....พวกเราก็เงี่ยและกระดิกหูฟัง..เพื่อไม่ให้เสียเหลี่ยม... ทำไมไม่มีนักท่องเที่ยวกางวะ ไปดูหน่อยไหมพวกเรา ไม่รีรอ กระโดดขึ้นรถพร้อมบึ่งบ่ายหน้ารถไปที่ลานกางเต้นท์สอง ....แล้วลานมันอยู่ไหนหว่าลืมถามเจ้าหน้าที่ เอาละสิ..... มีความเห็นหนึ่งในรถเสียงแจ้วๆบอกว่า ก็ขับไปเรื่อยๆวนไป เดี๋ยวเจอเอง.....เอาละเห็นป้ายชี้ไปลานสองละ ทำไมทางเข้ามันเหมือนเป็นทางควายเดิน รถเอาเข้าไปได้ไหมเนี้ย เสี่ยงเป็นเสี่ยง รั่วเป็นรั่ว ครับ วันนี้เอาแก๊สกระป๋องปะยางมาด้วยเลยไม่กลัวครับ ....เป็นดั่งที่เขาว่าครับ ห้องน้ำไม่มีน้ำ แถมวังเวง และรก ใครจะมากางน๊อแถวนี้....ถอยครับถอย กลับขึ้นไปลานที่หนึ่งดีกว่า พอไปถึงลานหนึ่งพวกเราขับรถวนหนึ่งรอบกว่าจะหาที่ทำเลเหมาะๆ ไม่ไกลจากห้องน้ำ เอาตรงนี้ล่ะวะ ใกล้ๆที่เช่ารถจักรยาน นี่แหล่ะเหมาะดี......... มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงสาม อวสาน.....เมื่อจัดแจงเต้นท์ที่พักเรียบร้อยแล้ว คงเป็นเรื่องของอาหารเย็น แล้วเย็นนี้จะกินอะไร กางเต้นท์เสร็จเวลาก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นแล้ว อากาศก็กำลังเย็นลงเรื่อยๆ ลองเดินไปดูร้านสวัสดิการหน่อย หิว เสือกปิดอีก.... ไม่เป็นไรวันนี้พกแม่ครัวมาด้วย... เย็นนี้เหล่ตามอง ได้กินผัดยอดฟักแม้ว ไข่เจียว ข้าวต้มร้อนๆ เข้ากับบรรยากาศกลางป่า อากาศหนาวๆ ......อาหารเย็นขายหมดเกลี้ยง...ไม่หมดได้ไงหิวโซมาตั้งแต่ศรีดิษฐ์....หลังจากนั้นเรียงคิวกันอาบน้ำ...นอนแต่เว็นครับ เมื่อยหลายวันนี้.....นอนหลับไม่รู้ตื่นครับ ตื่นมา.... เพราะเสียงหยดน้ำหยดแหมะลงบนฟลายชีต...เวลาก็ปาเข้าไปตี5 ชะโงกหัวออกนอกเต้นท์...โอ้วแม่เจ้า...หมอกหนา ฟุ้ง เต็มกระจายใต้พื้นป่าสน ... ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาชาติหนึ่งแล้ว...แต่.แต่...สมาชิกไม่ยอมตื่น เรียกยังไงก็ไม่ลุก.....ออกไปต้มน้ำชงกาแฟ สูดโอโซน พร้อมไอหมอกฟินไปแปดชาติ....ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของธรรมชาติทุ่งแสลงหลวง ไม่นาน ฟ้าก็โพล้เพล้ ไปปลุกสมาชิกให้ออกมาดูไอหมอก ภาพที่ปรากฎเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มจับไปที่ละอองน้ำเล็กๆ ที่ฟุ้งกระจายชนิดบรรยายไม่ถูก รอช้าได้ไง รีบคว้ากล้องคู่ใจ ยิงรัวๆสิครับ ได้ภาพชนิดอารมย์โดดเดี่ยว วังเวง หนาวสะท้าน แสงจากสวรรค์..ไม่บรรยายมาก ให้ภาพมันเล่าเรื่องเองเลยดีกว่า ...สวรรค์ดาวดึงส์... จนเด็กหญิงอุทานว่า พวกเรามายืนอยู่บนปุยเมฆกันแล้วพวกเรา............
Niya KaNiya Ka
#Jackal หรือ #หมาจิ้งจอก 🎯มีขนาดใกล้เคียงกับหมาไทยทั่วไป มักสีเหลืองทองทั่วทั้งตัว บางตัวอาจค่อนไปทางน้ำตาล ขนหยาบสั้น บริเวณแผ่นหลังปลายขนสีดำหรือสีเทา ความยาวหัว-ลำตัว 60-106 เซนติเมตร หางฟูเป็นพวง ยาว 20-30 เซนติเมตร ปลายหางดำ หูยาวตั้ง ความสูงหัวไหล่ 38-50 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 7-15 กิโลกรัม 🎯หมาจิ้งจอกมีเขตกระจายพันธุ์กว้างขวางมาก พบตั้งแต่ทวีปแอฟริกาตอนเหนือทั้งหมดตั้งแต่โมรอกโกจนถึงอียิปต์ทางใต้แพร่ไปจนถึงเคนยา ในยุโรปพบในคาบสมุทรบอลข่าน ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ พม่า มาจนถึงประเทศไทย ลาว กัมพูชาตอนบน และเวียดนาม ในบางพื้นที่ของแอฟริกาพบว่าเขตกระจายพันธุ์ยังคงแผ่ขยายออกไป เมื่อไม่นานมานี้ก็มีการพบที่อุทยานแห่งชาติ Bale Mountains ของเอธิโอเปียที่ระดับความสูงถึง 3,800 เมตร นอกจากนี้ยังพบที่ป่า Harenna และในอิตาลีตะวันออกอีกด้วย 🎯หมาจิ้งจอกชอบอาศัยอยู่ตามป่าโปร่งสลับทุ่งหญ้า 🎯หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่งมาก มีจมูก สายตา และหูดีเยี่ยม มักอยู่กันเป็นคู่ผัวเมีย หรือ ครอบครัวเล็กๆ มีอาณาเขตหากินกว้างประมาณ 0.5-2.5 ตารางกิโลเมตร หากินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน 🎯หมาจิ้งจอกกินได้ทั้งพืชและสัตว์ สัตว์ที่กินส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่นกระต่ายป่า หนู ลูกกวาง นก สัตว์เลื้อยคลาน บางครั้งก็กินซาก และพวกผลไม้ 🎯หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ผัวเดียวเมียเดียว ในประเทศไทยจะผสมพันธุ์ในราวเดือนมีนาคม ตั้งท้องนาน 63 วัน ออกลูกครั้งละ 1-9 ตัว ส่วนใหญ่มัก 5-6 ตัว เมื่ออายุได้ 3 สัปดาห์ก็จะเริ่มกินอาหารแข็งได้โดยพ่อแม่จะสำรอกอาหารออกมาให้กิน หย่านมได้เมื่ออายุได้ราว 8-10 สัปดาห์ และเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 11 เดือน หมาจิ้งจอกในธรรมชาติมีอายุยืนได้ถึง 13 ปี ในสถานเพาะเลี้ยงอาจมีอายุได้ถึง 16 ปี 🎯ปัจจุบันสถานภาพประชากรของหมาจิ้งจอกยังอยู่ในระดับปลอดภัย เพราะยังพบได้ทั่วไปใน ประเทศไทยจัดหมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง 📷 ภาพนี้ถ่ายช่วงแสงแดดอ่อนๆในช่วงเวลาเย็น เป็นช่วงที่หมาจิ๊กจอกเริ่มออกจากโพรงดินกำลังเดินหาอาหาร พบอยู่ 3 ตัว ครอบครัวเดียวกันโดยพ่อแม่ยืนบังลูกน้อยไว้ #เนื้อทราย เป็นกวางขนาดเล็กที่สวยงามอีกชนิดหนึ่ง มีนัยน์ตาโตสวย ตัวมีขนาดไม่ใหญ่นัก โต เต็มที่จะสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตร หางยาว 17-21 เซนติเมตร หนัก 70-110 กิโลกรัม ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย ลำเขาโตขนาดหัวแม่มือ และยาวเพียงศอกเดียวเท่านั้น 🎯เขาของเนื้อทรายมีลักษณะคล้ายเขากวางป่า คือ มี กิ่งข้างละ 3 กิ่ง แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ตัวเมียและตัวผู้ที่ยังอ่อนอยู่ไม่มีเขา เนื้อทรายไม่มีเขี้ยวยาวที่ปากบนเหมือนอย่างพวกเก้ง อาจ เป็นเพราะธรรมชาติเห็นว่ามันมีเขายาวพอป้องกันตัวแล้วจึงไม่ต้องมีเขี้ยวมาอีกเหมือนเก้งซึ่งมี เขาสั้นมาก ขนของเนื้อทรายมีสีน้ำตาลปนเหลือง แต่ตัวที่แก่แล้วจะมีสีน้าตาลเข้ม ตัวเมียจะมีจุด สีขาวจางๆอยู่ข้างลำตัว พอเห็นได้รางๆ ลูกเนื้อทรายจะมีจุดสีขาวทั่วไปตามตัวเห็นได้ชัดเหมือนลูกกวางดาว เมื่อโตขึ้นจุดขาวๆจะค่อยๆจางหายไป 🎯เนื้อทรายชอบอาศัยอยู่ในที่ทุ่งหญ้าที่น้ำท่วมถึง ดงอ้อ ไม่ชอบอาศัยในป่าทึบ มีพื้นที่หากินกว้างราว 0.7 ตารางกิโลเมตร ตัวผู้จะดุและอาจหวงถิ่นในภาวะที่มีความหนาแน่นประชากรต่ำ 🎯แม่เนื้อทรายตั้งท้องนาน 220 - 240 (180) วัน มักออกลูกครั้งละตัว ลูกกวางวัยเด็กจะมีลายจุดทั่วตัว เมื่อโตแล้วลายจึงเลือนไป ลูกกวางหย่านมเมื่ออายุได้ 6 เดือน พออายุได้หนึ่งขวบก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว เนื้อทรายมีอายุขัยได้ถึง 20 ปี 🎯เนื้อทรายชอบกิน หญ้า หน่อไม้ ผลไม้ป่าบางชนิดและยอดไม้อ่อนๆ 📷 ภาพนี้ถ่ายช่วงเวลาเย็นที่มีแสงแดดอ่อน เนื้อทรายคู่แม่ลูกออกมาเดินกินยอดหญ้าอ่อนที่แตกใหม่ในช่วงหน้าฝนในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กินหญ้าไปด้วย หยอกเล่นกันด้วย น่ารักเขียว #FujifilmThailand #FujifilmGFX100Sll #GF500F56 #ThungSalaengLuangNationalPark
Nonthaburi Chao Tang ChadNonthaburi Chao Tang Chad
So much to see at this national park. This place is best appreciated in the early morning and at night time when you can see lots of animals. We camped here and could hear golden jackals most of the night. They also came very close to our tent to eat scraps. Barking deer are the simplest of al mammals to see here. They range around the prairie during the day but were more active in the morning. The main visitor center has two main campsites. Number 1 is no cooking and 2 cooking is allowed. We wanted to cook so we drove to the second one. Almost every single Thai family was cooking in the no cooking zone so I think it is more of a suggestion. The first campsite has a slightly better view but was packed, the second still has a good view and almost no people. The roads to the viewpoint are not in good shape and will take a while to drive but are very pretty.
See more posts
See more posts
hotel
Find your stay

Pet-friendly Hotels in Phetchabun Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงแรก........ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงและเขาตะเคียนโง๊ะ หลังจากเย็นฉ่ำจากการได้เล่นน้ำที่ศรีดิษฐ์ ในใจคิดว่าทุ่งแสลงหลวง หนองแม่นา ทางเข้าอยู่ตรงไหน เคยเห็นทางเข้าที่ถนนสาย12 แต่้เส้นทางหนองแม่นานี้ ถนนเส้นเล็กมาก เป็นถนนที่ตัดลัดเลาะผ่านป่าและหุบเขา เส้นทางนี้มีป้ายบอกว่า ทุ่งแสลงหลวง 12 กิโลเมตร พวกเราขับรถตรงดิ่งตามทาง เชื่อหรือไม่ว่า ตั้งแต่ออกจากศรีดิษฐ์มามีป้ายบอกทาง ป้ายเดียว ถึงแมัพวกเราจะมี จี พี เอส แต่ก็เชื่อใจมากไม่ได้ ถนนเส้นนี้พาเรามาถึงทางตัน ก็ยังหาทางเข้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงไม่ได้เลย จนกระทั่งถนนไม่มีทางไป โชคดีมากที่ถนนสุดสายนี้ไปตันอยู่ที่หน้าสำนักงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จนต้องลงไปถามทาง ... 555ขำตัวเอง ขับรถเลยปากทางเข้ามาประมาณ300เมตร เจ้าหน้าที่บอกให้ขับย้อนขึ้นไปสองศาลา เจอศาลาที่สองเลี้ยวซ่ายเข้าไปเลยครับ....พวกเราขับย้อนขึ้นไป ศาลาที่1 ก็ผ่านมาแล้ว ศาลาที่2 อยู่นั่นไง ..ในใจหงุดหงิดขึ้นมา ป้ายอุทยานมันอยู่ไหนวะ.....เลยจอดแวะถามอีกครั้งกับพ่อค้ารถเข็นขายของตลาดนัด แกชี้ไปข้างหลัง ป้ายอุทยานใหญ่เท่าบ้าน แต่ที่พวกเรามองไม่เห็นเนื่องจากรถเข็นบังป้ายมิดขี่หลี่....พวกเราขับรถตรงไป ถนนแย่มากเลยครับ เป็นหลุมเป็นบ่อตลอดระยะทาง จนขับผ่านสะพานข้ามคลอง เห็นป้ายอุทยานตั้งตระหง่าน พร้อมป้อมเจ้าหน้าที่ทางด้านขวา ลงจากรถ เดินตรงไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน พอมองเข้าไปในป้อม ร้างครับร้าง ฝุ่นจับ ในใจคิดแล้วว่าได้เข้าฟรี โชคดีจัง พอขับรถไปสัักพักเท่านั้นล่ะ เห็นอีกป้อมพร้อมเจ้าหน้าที่ถือปืนเอชเค เจ้าหน้าที่เดินมาบอกราคาเข้าอุทยาน ...อ้าวนึกว่าวันนี้จะได้เข้าฟรีซะแล้ว....... มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงสอง.....เมื่อชำระค่าเข้าอุทยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถามทางไปสำนักงานเพื่อไปลงทะเบียนขอกางเต้นท์ เจ้าหน้าที่บอกขับเข้าไปเลยครับ แยกซ้ายประมาณ 300 เมตร ถึงหน้าสำนักงานเลยครับ.....สามร้อยเมตรอีกแล้วครับท่าน เมื่อกี้ ถามทางเข้าอุทยานก็ 300 เมตร ขับรถเข้าไปสักพักก็เจอสำนักงานครับ วันนี้ดูเหมือนภายในอุทยานมีการจัดกองกำลังเต็มยศเกลื่อนไปหมด ......สงสัยนายมาแน่ๆเลย อิอิ..... เดินเข้าไปจ่ายค่ากางเต้นท์ เช่นเคยครับ ราคามาตรฐาน หัวละ30 สามคนก็90 .....นอนโรงแรมปาเข้าไปพันกว่าบาท ประหยัดเป็นกองอิอิ.....ขณะจ่ายเงินเจอนักท่องเที่ยวรายหนึ่งมาเล่าว่าลานกางเต้นท์ที่สอง ไม่มีคนกางเลย มากางแถวลานจอดฮอดีกว่า....พวกเราก็เงี่ยและกระดิกหูฟัง..เพื่อไม่ให้เสียเหลี่ยม... ทำไมไม่มีนักท่องเที่ยวกางวะ ไปดูหน่อยไหมพวกเรา ไม่รีรอ กระโดดขึ้นรถพร้อมบึ่งบ่ายหน้ารถไปที่ลานกางเต้นท์สอง ....แล้วลานมันอยู่ไหนหว่าลืมถามเจ้าหน้าที่ เอาละสิ..... มีความเห็นหนึ่งในรถเสียงแจ้วๆบอกว่า ก็ขับไปเรื่อยๆวนไป เดี๋ยวเจอเอง.....เอาละเห็นป้ายชี้ไปลานสองละ ทำไมทางเข้ามันเหมือนเป็นทางควายเดิน รถเอาเข้าไปได้ไหมเนี้ย เสี่ยงเป็นเสี่ยง รั่วเป็นรั่ว ครับ วันนี้เอาแก๊สกระป๋องปะยางมาด้วยเลยไม่กลัวครับ ....เป็นดั่งที่เขาว่าครับ ห้องน้ำไม่มีน้ำ แถมวังเวง และรก ใครจะมากางน๊อแถวนี้....ถอยครับถอย กลับขึ้นไปลานที่หนึ่งดีกว่า พอไปถึงลานหนึ่งพวกเราขับรถวนหนึ่งรอบกว่าจะหาที่ทำเลเหมาะๆ ไม่ไกลจากห้องน้ำ เอาตรงนี้ล่ะวะ ใกล้ๆที่เช่ารถจักรยาน นี่แหล่ะเหมาะดี......... มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงสาม อวสาน.....เมื่อจัดแจงเต้นท์ที่พักเรียบร้อยแล้ว คงเป็นเรื่องของอาหารเย็น แล้วเย็นนี้จะกินอะไร กางเต้นท์เสร็จเวลาก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นแล้ว อากาศก็กำลังเย็นลงเรื่อยๆ ลองเดินไปดูร้านสวัสดิการหน่อย หิว เสือกปิดอีก.... ไม่เป็นไรวันนี้พกแม่ครัวมาด้วย... เย็นนี้เหล่ตามอง ได้กินผัดยอดฟักแม้ว ไข่เจียว ข้าวต้มร้อนๆ เข้ากับบรรยากาศกลางป่า อากาศหนาวๆ ......อาหารเย็นขายหมดเกลี้ยง...ไม่หมดได้ไงหิวโซมาตั้งแต่ศรีดิษฐ์....หลังจากนั้นเรียงคิวกันอาบน้ำ...นอนแต่เว็นครับ เมื่อยหลายวันนี้.....นอนหลับไม่รู้ตื่นครับ ตื่นมา.... เพราะเสียงหยดน้ำหยดแหมะลงบนฟลายชีต...เวลาก็ปาเข้าไปตี5 ชะโงกหัวออกนอกเต้นท์...โอ้วแม่เจ้า...หมอกหนา ฟุ้ง เต็มกระจายใต้พื้นป่าสน ... ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาชาติหนึ่งแล้ว...แต่.แต่...สมาชิกไม่ยอมตื่น เรียกยังไงก็ไม่ลุก.....ออกไปต้มน้ำชงกาแฟ สูดโอโซน พร้อมไอหมอกฟินไปแปดชาติ....ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของธรรมชาติทุ่งแสลงหลวง ไม่นาน ฟ้าก็โพล้เพล้ ไปปลุกสมาชิกให้ออกมาดูไอหมอก ภาพที่ปรากฎเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มจับไปที่ละอองน้ำเล็กๆ ที่ฟุ้งกระจายชนิดบรรยายไม่ถูก รอช้าได้ไง รีบคว้ากล้องคู่ใจ ยิงรัวๆสิครับ ได้ภาพชนิดอารมย์โดดเดี่ยว วังเวง หนาวสะท้าน แสงจากสวรรค์..ไม่บรรยายมาก ให้ภาพมันเล่าเรื่องเองเลยดีกว่า ...สวรรค์ดาวดึงส์... จนเด็กหญิงอุทานว่า พวกเรามายืนอยู่บนปุยเมฆกันแล้วพวกเรา............
Ruangthong Kitcharoenpunya

Ruangthong Kitcharoenpunya

hotel
Find your stay

Affordable Hotels in Phetchabun Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

Get the Appoverlay
Get the AppOne tap to find yournext favorite spots!
#Jackal หรือ #หมาจิ้งจอก 🎯มีขนาดใกล้เคียงกับหมาไทยทั่วไป มักสีเหลืองทองทั่วทั้งตัว บางตัวอาจค่อนไปทางน้ำตาล ขนหยาบสั้น บริเวณแผ่นหลังปลายขนสีดำหรือสีเทา ความยาวหัว-ลำตัว 60-106 เซนติเมตร หางฟูเป็นพวง ยาว 20-30 เซนติเมตร ปลายหางดำ หูยาวตั้ง ความสูงหัวไหล่ 38-50 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 7-15 กิโลกรัม 🎯หมาจิ้งจอกมีเขตกระจายพันธุ์กว้างขวางมาก พบตั้งแต่ทวีปแอฟริกาตอนเหนือทั้งหมดตั้งแต่โมรอกโกจนถึงอียิปต์ทางใต้แพร่ไปจนถึงเคนยา ในยุโรปพบในคาบสมุทรบอลข่าน ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ พม่า มาจนถึงประเทศไทย ลาว กัมพูชาตอนบน และเวียดนาม ในบางพื้นที่ของแอฟริกาพบว่าเขตกระจายพันธุ์ยังคงแผ่ขยายออกไป เมื่อไม่นานมานี้ก็มีการพบที่อุทยานแห่งชาติ Bale Mountains ของเอธิโอเปียที่ระดับความสูงถึง 3,800 เมตร นอกจากนี้ยังพบที่ป่า Harenna และในอิตาลีตะวันออกอีกด้วย 🎯หมาจิ้งจอกชอบอาศัยอยู่ตามป่าโปร่งสลับทุ่งหญ้า 🎯หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่งมาก มีจมูก สายตา และหูดีเยี่ยม มักอยู่กันเป็นคู่ผัวเมีย หรือ ครอบครัวเล็กๆ มีอาณาเขตหากินกว้างประมาณ 0.5-2.5 ตารางกิโลเมตร หากินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน 🎯หมาจิ้งจอกกินได้ทั้งพืชและสัตว์ สัตว์ที่กินส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่นกระต่ายป่า หนู ลูกกวาง นก สัตว์เลื้อยคลาน บางครั้งก็กินซาก และพวกผลไม้ 🎯หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ผัวเดียวเมียเดียว ในประเทศไทยจะผสมพันธุ์ในราวเดือนมีนาคม ตั้งท้องนาน 63 วัน ออกลูกครั้งละ 1-9 ตัว ส่วนใหญ่มัก 5-6 ตัว เมื่ออายุได้ 3 สัปดาห์ก็จะเริ่มกินอาหารแข็งได้โดยพ่อแม่จะสำรอกอาหารออกมาให้กิน หย่านมได้เมื่ออายุได้ราว 8-10 สัปดาห์ และเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 11 เดือน หมาจิ้งจอกในธรรมชาติมีอายุยืนได้ถึง 13 ปี ในสถานเพาะเลี้ยงอาจมีอายุได้ถึง 16 ปี 🎯ปัจจุบันสถานภาพประชากรของหมาจิ้งจอกยังอยู่ในระดับปลอดภัย เพราะยังพบได้ทั่วไปใน ประเทศไทยจัดหมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง 📷 ภาพนี้ถ่ายช่วงแสงแดดอ่อนๆในช่วงเวลาเย็น เป็นช่วงที่หมาจิ๊กจอกเริ่มออกจากโพรงดินกำลังเดินหาอาหาร พบอยู่ 3 ตัว ครอบครัวเดียวกันโดยพ่อแม่ยืนบังลูกน้อยไว้ #เนื้อทราย เป็นกวางขนาดเล็กที่สวยงามอีกชนิดหนึ่ง มีนัยน์ตาโตสวย ตัวมีขนาดไม่ใหญ่นัก โต เต็มที่จะสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตร หางยาว 17-21 เซนติเมตร หนัก 70-110 กิโลกรัม ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย ลำเขาโตขนาดหัวแม่มือ และยาวเพียงศอกเดียวเท่านั้น 🎯เขาของเนื้อทรายมีลักษณะคล้ายเขากวางป่า คือ มี กิ่งข้างละ 3 กิ่ง แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ตัวเมียและตัวผู้ที่ยังอ่อนอยู่ไม่มีเขา เนื้อทรายไม่มีเขี้ยวยาวที่ปากบนเหมือนอย่างพวกเก้ง อาจ เป็นเพราะธรรมชาติเห็นว่ามันมีเขายาวพอป้องกันตัวแล้วจึงไม่ต้องมีเขี้ยวมาอีกเหมือนเก้งซึ่งมี เขาสั้นมาก ขนของเนื้อทรายมีสีน้ำตาลปนเหลือง แต่ตัวที่แก่แล้วจะมีสีน้าตาลเข้ม ตัวเมียจะมีจุด สีขาวจางๆอยู่ข้างลำตัว พอเห็นได้รางๆ ลูกเนื้อทรายจะมีจุดสีขาวทั่วไปตามตัวเห็นได้ชัดเหมือนลูกกวางดาว เมื่อโตขึ้นจุดขาวๆจะค่อยๆจางหายไป 🎯เนื้อทรายชอบอาศัยอยู่ในที่ทุ่งหญ้าที่น้ำท่วมถึง ดงอ้อ ไม่ชอบอาศัยในป่าทึบ มีพื้นที่หากินกว้างราว 0.7 ตารางกิโลเมตร ตัวผู้จะดุและอาจหวงถิ่นในภาวะที่มีความหนาแน่นประชากรต่ำ 🎯แม่เนื้อทรายตั้งท้องนาน 220 - 240 (180) วัน มักออกลูกครั้งละตัว ลูกกวางวัยเด็กจะมีลายจุดทั่วตัว เมื่อโตแล้วลายจึงเลือนไป ลูกกวางหย่านมเมื่ออายุได้ 6 เดือน พออายุได้หนึ่งขวบก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว เนื้อทรายมีอายุขัยได้ถึง 20 ปี 🎯เนื้อทรายชอบกิน หญ้า หน่อไม้ ผลไม้ป่าบางชนิดและยอดไม้อ่อนๆ 📷 ภาพนี้ถ่ายช่วงเวลาเย็นที่มีแสงแดดอ่อน เนื้อทรายคู่แม่ลูกออกมาเดินกินยอดหญ้าอ่อนที่แตกใหม่ในช่วงหน้าฝนในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กินหญ้าไปด้วย หยอกเล่นกันด้วย น่ารักเขียว #FujifilmThailand #FujifilmGFX100Sll #GF500F56 #ThungSalaengLuangNationalPark
Niya Ka

Niya Ka

hotel
Find your stay

The Coolest Hotels You Haven't Heard Of (Yet)

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

hotel
Find your stay

Trending Stays Worth the Hype in Phetchabun Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

So much to see at this national park. This place is best appreciated in the early morning and at night time when you can see lots of animals. We camped here and could hear golden jackals most of the night. They also came very close to our tent to eat scraps. Barking deer are the simplest of al mammals to see here. They range around the prairie during the day but were more active in the morning. The main visitor center has two main campsites. Number 1 is no cooking and 2 cooking is allowed. We wanted to cook so we drove to the second one. Almost every single Thai family was cooking in the no cooking zone so I think it is more of a suggestion. The first campsite has a slightly better view but was packed, the second still has a good view and almost no people. The roads to the viewpoint are not in good shape and will take a while to drive but are very pretty.
Nonthaburi Chao Tang Chad

Nonthaburi Chao Tang Chad

See more posts
See more posts

Reviews of Thung Salaeng Luang National Park

4.4
(1,445)
avatar
5.0
5y

มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงแรก........ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงและเขาตะเคียนโง๊ะ หลังจากเย็นฉ่ำจากการได้เล่นน้ำที่ศรีดิษฐ์ ในใจคิดว่าทุ่งแสลงหลวง หนองแม่นา ทางเข้าอยู่ตรงไหน เคยเห็นทางเข้าที่ถนนสาย12 แต่้เส้นทางหนองแม่นานี้ ถนนเส้นเล็กมาก เป็นถนนที่ตัดลัดเลาะผ่านป่าและหุบเขา เส้นทางนี้มีป้ายบอกว่า ทุ่งแสลงหลวง 12 กิโลเมตร พวกเราขับรถตรงดิ่งตามทาง เชื่อหรือไม่ว่า ตั้งแต่ออกจากศรีดิษฐ์มามีป้ายบอกทาง ป้ายเดียว ถึงแมัพวกเราจะมี จี พี เอส แต่ก็เชื่อใจมากไม่ได้ ถนนเส้นนี้พาเรามาถึงทางตัน ก็ยังหาทางเข้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงไม่ได้เลย จนกระทั่งถนนไม่มีทางไป โชคดีมากที่ถนนสุดสายนี้ไปตันอยู่ที่หน้าสำนักงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จนต้องลงไปถามทาง ... 555ขำตัวเอง ขับรถเลยปากทางเข้ามาประมาณ300เมตร เจ้าหน้าที่บอกให้ขับย้อนขึ้นไปสองศาลา เจอศาลาที่สองเลี้ยวซ่ายเข้าไปเลยครับ....พวกเราขับย้อนขึ้นไป ศาลาที่1 ก็ผ่านมาแล้ว ศาลาที่2 อยู่นั่นไง ..ในใจหงุดหงิดขึ้นมา ป้ายอุทยานมันอยู่ไหนวะ.....เลยจอดแวะถามอีกครั้งกับพ่อค้ารถเข็นขายของตลาดนัด แกชี้ไปข้างหลัง ป้ายอุทยานใหญ่เท่าบ้าน แต่ที่พวกเรามองไม่เห็นเนื่องจากรถเข็นบังป้ายมิดขี่หลี่....พวกเราขับรถตรงไป ถนนแย่มากเลยครับ เป็นหลุมเป็นบ่อตลอดระยะทาง จนขับผ่านสะพานข้ามคลอง เห็นป้ายอุทยานตั้งตระหง่าน พร้อมป้อมเจ้าหน้าที่ทางด้านขวา ลงจากรถ เดินตรงไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน พอมองเข้าไปในป้อม ร้างครับร้าง ฝุ่นจับ ในใจคิดแล้วว่าได้เข้าฟรี โชคดีจัง พอขับรถไปสัักพักเท่านั้นล่ะ เห็นอีกป้อมพร้อมเจ้าหน้าที่ถือปืนเอชเค เจ้าหน้าที่เดินมาบอกราคาเข้าอุทยาน ...อ้าวนึกว่าวันนี้จะได้เข้าฟรีซะแล้ว....... มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงสอง.....เมื่อชำระค่าเข้าอุทยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถามทางไปสำนักงานเพื่อไปลงทะเบียนขอกางเต้นท์ เจ้าหน้าที่บอกขับเข้าไปเลยครับ แยกซ้ายประมาณ 300 เมตร ถึงหน้าสำนักงานเลยครับ.....สามร้อยเมตรอีกแล้วครับท่าน เมื่อกี้ ถามทางเข้าอุทยานก็ 300 เมตร ขับรถเข้าไปสักพักก็เจอสำนักงานครับ วันนี้ดูเหมือนภายในอุทยานมีการจัดกองกำลังเต็มยศเกลื่อนไปหมด ......สงสัยนายมาแน่ๆเลย อิอิ..... เดินเข้าไปจ่ายค่ากางเต้นท์ เช่นเคยครับ ราคามาตรฐาน หัวละ30 สามคนก็90 .....นอนโรงแรมปาเข้าไปพันกว่าบาท ประหยัดเป็นกองอิอิ.....ขณะจ่ายเงินเจอนักท่องเที่ยวรายหนึ่งมาเล่าว่าลานกางเต้นท์ที่สอง ไม่มีคนกางเลย มากางแถวลานจอดฮอดีกว่า....พวกเราก็เงี่ยและกระดิกหูฟัง..เพื่อไม่ให้เสียเหลี่ยม... ทำไมไม่มีนักท่องเที่ยวกางวะ ไปดูหน่อยไหมพวกเรา ไม่รีรอ กระโดดขึ้นรถพร้อมบึ่งบ่ายหน้ารถไปที่ลานกางเต้นท์สอง ....แล้วลานมันอยู่ไหนหว่าลืมถามเจ้าหน้าที่ เอาละสิ..... มีความเห็นหนึ่งในรถเสียงแจ้วๆบอกว่า ก็ขับไปเรื่อยๆวนไป เดี๋ยวเจอเอง.....เอาละเห็นป้ายชี้ไปลานสองละ ทำไมทางเข้ามันเหมือนเป็นทางควายเดิน รถเอาเข้าไปได้ไหมเนี้ย เสี่ยงเป็นเสี่ยง รั่วเป็นรั่ว ครับ วันนี้เอาแก๊สกระป๋องปะยางมาด้วยเลยไม่กลัวครับ ....เป็นดั่งที่เขาว่าครับ ห้องน้ำไม่มีน้ำ แถมวังเวง และรก ใครจะมากางน๊อแถวนี้....ถอยครับถอย กลับขึ้นไปลานที่หนึ่งดีกว่า พอไปถึงลานหนึ่งพวกเราขับรถวนหนึ่งรอบกว่าจะหาที่ทำเลเหมาะๆ ไม่ไกลจากห้องน้ำ เอาตรงนี้ล่ะวะ ใกล้ๆที่เช่ารถจักรยาน นี่แหล่ะเหมาะดี......... มหกรรมเที่ยวท้ายปี 2562 ตอนที่3 ช่วงสาม อวสาน.....เมื่อจัดแจงเต้นท์ที่พักเรียบร้อยแล้ว คงเป็นเรื่องของอาหารเย็น แล้วเย็นนี้จะกินอะไร กางเต้นท์เสร็จเวลาก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นแล้ว อากาศก็กำลังเย็นลงเรื่อยๆ ลองเดินไปดูร้านสวัสดิการหน่อย หิว เสือกปิดอีก.... ไม่เป็นไรวันนี้พกแม่ครัวมาด้วย... เย็นนี้เหล่ตามอง ได้กินผัดยอดฟักแม้ว ไข่เจียว ข้าวต้มร้อนๆ เข้ากับบรรยากาศกลางป่า อากาศหนาวๆ ......อาหารเย็นขายหมดเกลี้ยง...ไม่หมดได้ไงหิวโซมาตั้งแต่ศรีดิษฐ์....หลังจากนั้นเรียงคิวกันอาบน้ำ...นอนแต่เว็นครับ เมื่อยหลายวันนี้.....นอนหลับไม่รู้ตื่นครับ ตื่นมา.... เพราะเสียงหยดน้ำหยดแหมะลงบนฟลายชีต...เวลาก็ปาเข้าไปตี5 ชะโงกหัวออกนอกเต้นท์...โอ้วแม่เจ้า...หมอกหนา ฟุ้ง เต็มกระจายใต้พื้นป่าสน ... ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาชาติหนึ่งแล้ว...แต่.แต่...สมาชิกไม่ยอมตื่น เรียกยังไงก็ไม่ลุก.....ออกไปต้มน้ำชงกาแฟ สูดโอโซน พร้อมไอหมอกฟินไปแปดชาติ....ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของธรรมชาติทุ่งแสลงหลวง ไม่นาน ฟ้าก็โพล้เพล้ ไปปลุกสมาชิกให้ออกมาดูไอหมอก ภาพที่ปรากฎเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มจับไปที่ละอองน้ำเล็กๆ ที่ฟุ้งกระจายชนิดบรรยายไม่ถูก รอช้าได้ไง รีบคว้ากล้องคู่ใจ ยิงรัวๆสิครับ ได้ภาพชนิดอารมย์โดดเดี่ยว วังเวง หนาวสะท้าน แสงจากสวรรค์..ไม่บรรยายมาก ให้ภาพมันเล่าเรื่องเองเลยดีกว่า ...สวรรค์ดาวดึงส์... จนเด็กหญิงอุทานว่า...

   Read more
avatar
5.0
1y

#Jackal หรือ #หมาจิ้งจอก

🎯มีขนาดใกล้เคียงกับหมาไทยทั่วไป มักสีเหลืองทองทั่วทั้งตัว บางตัวอาจค่อนไปทางน้ำตาล ขนหยาบสั้น บริเวณแผ่นหลังปลายขนสีดำหรือสีเทา ความยาวหัว-ลำตัว 60-106 เซนติเมตร หางฟูเป็นพวง ยาว 20-30 เซนติเมตร ปลายหางดำ หูยาวตั้ง ความสูงหัวไหล่ 38-50 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 7-15 กิโลกรัม

🎯หมาจิ้งจอกมีเขตกระจายพันธุ์กว้างขวางมาก พบตั้งแต่ทวีปแอฟริกาตอนเหนือทั้งหมดตั้งแต่โมรอกโกจนถึงอียิปต์ทางใต้แพร่ไปจนถึงเคนยา ในยุโรปพบในคาบสมุทรบอลข่าน ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ พม่า มาจนถึงประเทศไทย ลาว กัมพูชาตอนบน และเวียดนาม ในบางพื้นที่ของแอฟริกาพบว่าเขตกระจายพันธุ์ยังคงแผ่ขยายออกไป เมื่อไม่นานมานี้ก็มีการพบที่อุทยานแห่งชาติ Bale Mountains ของเอธิโอเปียที่ระดับความสูงถึง 3,800 เมตร นอกจากนี้ยังพบที่ป่า Harenna และในอิตาลีตะวันออกอีกด้วย

🎯หมาจิ้งจอกชอบอาศัยอยู่ตามป่าโปร่งสลับทุ่งหญ้า

🎯หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่งมาก มีจมูก สายตา และหูดีเยี่ยม มักอยู่กันเป็นคู่ผัวเมีย หรือ ครอบครัวเล็กๆ มีอาณาเขตหากินกว้างประมาณ 0.5-2.5 ตารางกิโลเมตร หากินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

🎯หมาจิ้งจอกกินได้ทั้งพืชและสัตว์ สัตว์ที่กินส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่นกระต่ายป่า หนู ลูกกวาง นก สัตว์เลื้อยคลาน บางครั้งก็กินซาก และพวกผลไม้

🎯หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ผัวเดียวเมียเดียว ในประเทศไทยจะผสมพันธุ์ในราวเดือนมีนาคม ตั้งท้องนาน 63 วัน ออกลูกครั้งละ 1-9 ตัว ส่วนใหญ่มัก 5-6 ตัว เมื่ออายุได้ 3 สัปดาห์ก็จะเริ่มกินอาหารแข็งได้โดยพ่อแม่จะสำรอกอาหารออกมาให้กิน หย่านมได้เมื่ออายุได้ราว 8-10 สัปดาห์ และเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 11 เดือน หมาจิ้งจอกในธรรมชาติมีอายุยืนได้ถึง 13 ปี ในสถานเพาะเลี้ยงอาจมีอายุได้ถึง 16 ปี

🎯ปัจจุบันสถานภาพประชากรของหมาจิ้งจอกยังอยู่ในระดับปลอดภัย เพราะยังพบได้ทั่วไปใน ประเทศไทยจัดหมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

📷 ภาพนี้ถ่ายช่วงแสงแดดอ่อนๆในช่วงเวลาเย็น เป็นช่วงที่หมาจิ๊กจอกเริ่มออกจากโพรงดินกำลังเดินหาอาหาร พบอยู่ 3 ตัว ครอบครัวเดียวกันโดยพ่อแม่ยืนบังลูกน้อยไว้

#เนื้อทราย เป็นกวางขนาดเล็กที่สวยงามอีกชนิดหนึ่ง มีนัยน์ตาโตสวย ตัวมีขนาดไม่ใหญ่นัก โต เต็มที่จะสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตร หางยาว 17-21 เซนติเมตร หนัก 70-110 กิโลกรัม ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย ลำเขาโตขนาดหัวแม่มือ และยาวเพียงศอกเดียวเท่านั้น

🎯เขาของเนื้อทรายมีลักษณะคล้ายเขากวางป่า คือ มี กิ่งข้างละ 3 กิ่ง แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ตัวเมียและตัวผู้ที่ยังอ่อนอยู่ไม่มีเขา เนื้อทรายไม่มีเขี้ยวยาวที่ปากบนเหมือนอย่างพวกเก้ง อาจ เป็นเพราะธรรมชาติเห็นว่ามันมีเขายาวพอป้องกันตัวแล้วจึงไม่ต้องมีเขี้ยวมาอีกเหมือนเก้งซึ่งมี เขาสั้นมาก ขนของเนื้อทรายมีสีน้ำตาลปนเหลือง แต่ตัวที่แก่แล้วจะมีสีน้าตาลเข้ม ตัวเมียจะมีจุด สีขาวจางๆอยู่ข้างลำตัว พอเห็นได้รางๆ ลูกเนื้อทรายจะมีจุดสีขาวทั่วไปตามตัวเห็นได้ชัดเหมือนลูกกวางดาว เมื่อโตขึ้นจุดขาวๆจะค่อยๆจางหายไป

🎯เนื้อทรายชอบอาศัยอยู่ในที่ทุ่งหญ้าที่น้ำท่วมถึง ดงอ้อ ไม่ชอบอาศัยในป่าทึบ มีพื้นที่หากินกว้างราว 0.7 ตารางกิโลเมตร ตัวผู้จะดุและอาจหวงถิ่นในภาวะที่มีความหนาแน่นประชากรต่ำ

🎯แม่เนื้อทรายตั้งท้องนาน 220 - 240 (180) วัน มักออกลูกครั้งละตัว ลูกกวางวัยเด็กจะมีลายจุดทั่วตัว เมื่อโตแล้วลายจึงเลือนไป ลูกกวางหย่านมเมื่ออายุได้ 6 เดือน พออายุได้หนึ่งขวบก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว เนื้อทรายมีอายุขัยได้ถึง 20 ปี

🎯เนื้อทรายชอบกิน หญ้า หน่อไม้ ผลไม้ป่าบางชนิดและยอดไม้อ่อนๆ

📷 ภาพนี้ถ่ายช่วงเวลาเย็นที่มีแสงแดดอ่อน เนื้อทรายคู่แม่ลูกออกมาเดินกินยอดหญ้าอ่อนที่แตกใหม่ในช่วงหน้าฝนในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กินหญ้าไปด้วย หยอกเล่นกันด้วย...

   Read more
avatar
5.0
50w

So much to see at this national park. This place is best appreciated in the early morning and at night time when you can see lots of animals. We camped here and could hear golden jackals most of the night. They also came very close to our tent to eat scraps. Barking deer are the simplest of al mammals to see here. They range around the prairie during the day but were more active in the morning. The main visitor center has two main campsites. Number 1 is no cooking and 2 cooking is allowed. We wanted to cook so we drove to the second one. Almost every single Thai family was cooking in the no cooking zone so I think it is more of a suggestion. The first campsite has a slightly better view but was packed, the second still has a good view and almost no people. The roads to the viewpoint are not in good shape and will take a while to drive but are...

   Read more
Page 1 of 7
Previous
Next