♤ ลานหินแตก เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่น่าทึ่ง ♤อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของอุทยานฯ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มาสัมผัสความอัศจรรย์ของธรรมชาติ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน ♤ ลักษณะทางธรณีวิทยาและการกำเนิด ลานหินแตก ♤ มีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ มีลักษณะเป็นลานหินทรายขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยรอยแตกเป็นแนวร่องลึก คล้ายแผ่นดินแยก ความลึกของร่องหินบางแห่งยากที่จะคาดคะเนได้ บางรอยแคบพอจะก้าวข้ามได้ แต่บางรอยก็กว้างถึง 1-2 เมตร จนต้องเดินข้ามสะพานไม้เล็กๆ ♤ การกำเนิดของลานหินแตกนั้น เกิดจากกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อน ♤ การโก่งตัวและการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก พื้นที่บริเวณนี้ เดิมเป็นเทือกเขาที่มีการเอียงเทของชั้นหิน และเกิดการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ทำให้หินถูกดันตัวให้โก่งงอคล้ายประทุนคว่ำ การโก่งตัวนี้ทำให้เกิดรอยเลื่อนและรอยแตกในชั้นหินในลักษณะที่เป็นระบบ ♤ การผุพังและการกัดเซาะ เมื่อเกิดรอยแยกขึ้นแล้ว กระบวนการทางธรรมชาติ เช่น การผุพัง (weathering) จากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการกร่อน (erosion) โดยน้ำฝนและน้ำผิวดิน ที่กัดเซาะตามรอยแตกเป็นเวลานับล้านปี ตั้งแต่ยุคครีเทเชียส ทำให้ร่องแตกเหล่านั้นลึกและกว้างขึ้น เกิดเป็นลานหินแตกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ♤ ลานหินแตก ประกอบด้วยหินในหมวดหินภูพาน กลุ่มหินโคราช ยุคครีเทเชียส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินตะกอนประเภทหินทราย ความสำคัญและสิ่งที่น่าสนใจ ♤ นอกเหนือจากความงามทางธรณีวิทยาที่แปลกตาแล้ว ลานหินแตกยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เนื่องจากในอดีตเคยเป็นสมรภูมิการสู้รบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กับฝ่ายรัฐบาล จนถูกกล่าวขานว่าเป็น "ลานเลือด" ในช่วงปี พ.ศ. 2515 ร่องรอยทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ยังคงหลงเหลืออยู่ให้ได้ศึกษา ♤ บริเวณลานหินแตกยังมีความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน จะพบพืชพรรณนานาชนิด เช่น มอส เฟิร์น กล้วยไม้ดิน และเอื้องหินต่างๆ ขึ้นปกคลุมตามรอยแตกและโขดหิน สร้างความเขียวขจีและความสดชื่นให้กับพื้นที่ ♤ การเดินทางและข้อแนะนำ ลานหินแตกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าประมาณ 1 กิโลเมตร การเดินทางไปชมลานหินแตก ควรเตรียมตัว ♤ ควรเป็นรองเท้าหุ้มส้น ที่ทะมัดทะแมง เพราะจะต้องเดินบนลานหินที่ไม่เรียบ บางจุดอาจต้องกระโดดข้ามร่อง ♤ ควรพกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่กลางแจ้งและอาจจะไม่มีจุดจำหน่าย ♤ สภาพร่างกาย ควรมีความพร้อมสำหรับการเดินสำรวจ ♤ เดินตามลูกศรบอกเส้นทางและระมัดระวังเป็นพิเศษ บริเวณรอยแยกที่ลึก ลานหินแตกเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ผสมผสานความงามของธรรมชาติเข้ากับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว...
Read moreลานหินแตก จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกลานหินแตก ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรามากนัก สามารถขับรถไปจอดที่ลานหินแตกได้เลย จากจุดจอดรถ
🏃🏻♀️ จากนั้น เราก็เดินเท้าต่อไปยังจุดชมวิวลานหินแตก และจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก อีกประมาณ 700-800 เมตร ซึ่งระหว่างทางที่เราเดินนั้น จะมีป้ายบอกเส้นทางตลอด ไม่ต้องกลัวหลง และควรที่จะเดินตามป้ายด้วยนะค่ะ เพราะบางช่วงจะเป็นร่องหินที่มีการแยกตัวออก มีความลึกหลายเมตร หากพลัดตกไปจะลำบาก และอันตรายมากๆด้วยคะ
🏃🏻♀️ ตามทางแยกระหว่างร่องหิน ทางอุทยานเค้าก็ได้ทำสะพานไม้สำหรับข้าม แข็งแรงอยู่นะ ไม่ต้องกลัวตกเลย แต่ต้องระวังให้ดี เส้นทางบางเส้นทางก็จะคดเคี้ยวไปมาตลอดเส้นทาง แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากมากนัก เด็กและผู้สูงอายุก็สามารถเดินไปดูและแวะมาเที่ยวได้
💛 ส่วนเราก็อยู่ไม่ถึงพระอาทิตย์ตกดิน เพราะเราต้องเดินทางไปยังจุดเช็คอินอีกหลายที่ ที่เราตั้งใจจะไป แต่ถ้าใครจะมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินละก็ อย่าลืมพกไฟฉายมาด้วยนะ ถ้ามืดแล้ว จะมองเห็นเส้นทางลำบากและไม่ชัดเจน
👍 ความรู้นิดหน่อยเกี่ยวกับลานหินแตก :: ลักษณะเช่นนี้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลก ทำให้พื้นหินนั้นแตกเป็นแนว นอกจากนี้ บริเวณหินแตกยังปกคลุมไปด้วยมอส ไลเคนส์ ตะไคร่ เฟิน และกล้วยไม้ชนิดต่างๆอีกด้วย
💥 สิ่งอำนวยความสะดวก : มีที่จอดรถและมีร้านค้า ร้านจำหน่ายของฝาก
💸 ค่าเข้า :: ไม่เสีย...
Read moreลานหินแตก อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เดินไกลพอสมควร ควรมีน้ำติดไปด้วย ไปกลางวันอากาศค่อนข้างร้อน
ลานหินแตก สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ห่างจากฐานพัชรินทร์ 300 เมตร ลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นหินที่มีรอยแตกเป็นแนวยาว คล้ายกับแผ่นดินแยก สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลก บางร่องมีขนาดแคบนิดเดียวเพียงแค่ต้นหญ้าชอนไช บางร่องกว้างประมาณหนึ่งก้าวของคนข้าม และบางรอยแยกกว้างเกินกว่าจะกระโดดข้ามพ้น และความลึกของ ลานหินแตก นี้มีระยะที่แตกต่างกัน ไม่สามารถคาดคะเนได้ โดยรอบบริเวณนั้นยังปกคลุมไปด้วยตะไคร่ ไลเคน มอสเฟิร์น และกล้วยไม้ชนิดต่างๆ
——————
ประวัติ
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 48 ของประเทศ และนับเป็นแห่งที่14 ของภาคเหนือ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 307 ตารางกิโลเมตร หรือ 191,875 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2527 ซึ่งตั้งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อของสามจังหวัด คือ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภูหินร่องกล้าอันเป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การสู้รบอันยาวนาน เป็นวีรกรรมของนักรบไทยที่เกิดขึ้น ณ ที่นี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตได้ถูกบันทึกเก็บรักษาไว้
CR. Travel.mthai...
Read more