Wat Phraya Suren — Attraction in Sam Wa Tawan Tok Subdistrict

I had the opportunity of visiting this temple and I was very amazed by the things and activities offered here! I made offerings to the monks for a special occasion. But besides that there is a market located in the temple area itself. The market was lively and was a real fun experience. You can release fish and turtles back into the river. Or you can purchase bread to the feed the fish. And when your starving you can select an array of food stalls there. There is also a section where vendors come around and sing karaoke for all bystanders. They really enjoy themselves there. The food was average i just say but the vibe was great. There were also shops where you can purchase vintage toys and some clothes. It's like a hidden gem tucked away. The temple was a long drive though, but there was no traffic. There is a lot of parking spaces available. Its a great place to go for...

พระพุทธรูปที่โบสถ์สวยงาม เป็นวัดที่พระยาสุเรนทร์สร้าง มีรูปหล่อของท่านด้วยและมีหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ แวะมาทำบุญกันได้นะครับ ไปมาวันที่ 26/1/68 ส่วนประวัติท่านพระยาสุเรนทร์ก็ตามนี้ครับ

ประวัติพระยาสุเรนทร์ พันตรีพระยาสุเรนทร์ราชเสนา (พึ่ง สิงห์เสนี) เป็นบุตรของท่านเจ้าพระยามุขมนตรี (เกด สิงหเสนี) มารดาชื่อ นางนาค กัลาณสุต มีพี่น้องทั้งหมด ๑๒ คน ท่านพระยาสุเรนทร์เป็นบุตรคนที่ ๘ พันตรีพระยาสุเรนทร์ราชเสนา ภรรยาชื่อ ท่านคุณหญิงสุเรนทร์ ราชเสนา (บุญมี สิงหเสนี) รับราชการทหารสืบทอดความเป็นนักรบ ผู้กล้าหาญ จากบรรพบุรุษสืบต่อจากผู้เป็นปู่ เจ้าพระยาบดินทร์เดชา(สิงห์ สิงหเสนี) สมุหนายก คู่พระทัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยถวายตัวเป็นมหาดเล็กกรมพระราชวังบวรไชยชาญ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ จนได้รับรับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ โปรดกระหม่อมได้ดำรง ตำแหน่งตามลำดับดังต่อไปนี้

เมื่ออายุได้ ๑๕ ปี ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ

เมื่ออายุได้ ๑๗ ปี กรมพระราชวังบวรฯโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหลวงจำนงบริรักษ์ในกรมมหาดเล็ก

เมื่ออายุได้ ๑๙ ปี กรมพระราชวังบวรฯโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาโยธาธิราชครั้งกรมพระยาบวรฯทิวงคตแล้ว ข้าราชการฝ่ายพระราชวังบวรฯลงมาสมทบในพระบรมมหาราชวังพระบาทสมเด็จจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ทรงโปรดเกล้าให้เป็นพระยาสุเรนทร์ราชเสนา ได้เป็นพระยาเมื่ออายุ ๓๐ ปี แล้วภายหลังพระยาสุเรนทร์ได้รับสัญญาบัตรเป็นนายพันตรีในกรมยุทธนาธิการทหารบก พันตรีพระยาสุเรนทร์ราชเสนา มิได้สืบทอดแต่ความเป็นนักรบจากต้นตระกูลสิงหเสนีเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สืบทอดความจงรักภักดี แด่พระมหากษัตริย์และสืบทอดพระพุทธศาสนาด้วย

โดยเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๔๒๕ ท่านได้สร้าง วัดพระยาสุเรนทร์ หรือ วัดบึงพระยาสุเรนทร์ บนเนื้อที่ของตนเองที่แขวงมีนบุรี (เขตคลองสามวาปัจจุบัน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้บรรพชาเป็นสามเณรด้วยศรัทธาอันแน่วแน่ จนกระทั่งมรณภาพ ในปี พ.ศ. ๒๔๔๙ ด้วยโรคชรา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ โปรดกระหม่อม ให้เจ้าพนักงานส่งหีบเพลิง พระราชทานเพลิงศพอันเป็นเกียรติยศยิ่งแก่ พันตรีพระยาสุเรนทร์ราชเสนาและวงศ์ตระกูลสืบมาในวันที่ ๒๖ ตุลาคม รัตนโกสินทร์ ศก ๑๒๙ ปลัดทูลฉลองกรมมหาดไทยฝ่ายพระราชวังบวรฯ ที่แขวงเมืองมีนบุรีพระราชทานเงิน ๑,๐๐๐ สตางค์ ผ้าขาว ๒ พับ การก่อสร้างวัด ได้ก่อตั้งวัดพระยาสุเรนทร์ขึ้นเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๕ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๖ ร.ศ ๑๐๑ โดยทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ประจำวัดขึ้น เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จึงได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕ ) และได้พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันพุธ แรม ๙ ค่ำ...

ทีแรกว่าจะไม่รีวิว แต่ขอเล่าความจริงดีกว่า .. 12/2/2566 มาวัดนี้ได้เพราะบังเอิญมาธุระละแวกนี้ เลยลองเปิดค้นหาในmaps มีชื่อวัดนี้เด้งมา .. มาตามทางหาไม่ยากเลย พอจอดรถได้ ลองเดินสำรวจ ก็โอเค นอกจากมีรูปปั้นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ก็มี baby Buddha และ พระยืนสีทององค์สูง อยู่อีกข้าง.. เดินไปอีกนิด มีรูปปั้นพระยาสุเรนทร์ และศาลนาคราช ก็ไหว้ไปตามศรัทธา .. ด้านหลังรูปปั้น มีโบสถ์ทรงโบราณ เก่าแก่ร้อยกว่าปี สีขาวเรียบง่าย ภายในสีแดง มีพระประธานสีทองสวยงามมาก เข้าไปไหว้แล้วใจสงบอย่างมาก..มีการให้ทำบุญสังฆทานด้วยที่มุมซ้ายมือ ด้านหน้าโบสถ์.. รอบๆโบสถ์เป็นกำแพงล้อมรอบทั้ง4ด้าน มีรูปวาดสวยงามตลอดแนวกำแพง..เห็นพระภิกษุทั้งหนุ่ม และอาวุโส ทำการก่อสร้างซ่อมแซมวัดกันเอง ชอบมากที่พระลงมือทำงานกันแบบนี้.. บริเวณวัดเหมือนจะมีโต๊ะหมอดูไว้ดูดวงสำหรับผู้ที่ชื่นชอบด้วย.. ใช้เวลาพักใหญ่ๆจนสุดท้าย คิดว่าก่อนกลับจะขึ้นไปขอพรหลวงปู่ทวด ตอนนั้นราวๆบ่าย 3เศษๆแล้ว คนน้อยจนแทบไม่มี ระหว่างขึ้นบันไดมีป้าคนนึงยื่นไม้เสียบมา เราก็เก็ทนะ ว่าต้องสอดแบงค์แล้วไปเสียบทำบุญ แล้วแกบอกว่า เดินไปด้านซ้ายมือ ดอกไม้ธูปเทียนทอง.. เราก็เดินไป เจอป้าคนนึง คนนี้แหละตัวพีคตัวแปรสุดๆ รูปร่างท้วมอ้วนเหมือนแกฟันหลอด้วยนะ เราไปถึงก็หยอดเงินลงตู้ค่าดอกไม้ พอนางเห็น นางยื่นแต่ถาดดอกไม้มา หยิบกระดาษทองห่อน้อยๆขึ้น เราก็งง เลยถามว่าเขาไม่ให้ปิดทองเหรอ นางว่าให้ติด แต่เมื่อกี้หยอดไปเป็นค่าดอกไม้ จะเอาทองด้วยเพิ่ม 20 .. เราก็งง ในใจไรวะ เพิ่มก็เพิ่ม เราเลยหยอดลงตู้ไป พอนางเห็นเท่านั้นล่ะ นางถอนหายใจเลย พร้อมเบะปาก เราก็งง คือนางเลยพูดมาว่าค่าทองจริงๆต้องจ่ายกับนาง .. เราเลยเริ่มหงุดหงิด แล้วบอกว่าทำไมไม่เขียนป้ายไว้เลย คนจะได้รู้กัน เราบอกนาง ว่าไปวัดไหนไม่มีใครรับเงินค่าของนะ เขาให้หยอดลงตู้กันทั้งนั้น .. นางก็เลยยื่นไปถาดดอกไม้กับทองมา พร้อมท่าส่ายหัวเบาๆ .. นี่เลยตกลงไม่ไหว้นะ คืนของมันไปทั้งถาด .. ถึงตอนนี้ยังไม่รุ้เลยว่ามันเป็นกฏของทางวัดรึป่าว ที่ค่าทองต้องจ่ายเงินสดกับคนเฝ้า หรือนางเอาไว้เก็บเอง คือคนแก่อ่ะ ถ้าขอมาดีๆนี่ก็ให้นะเล็กๆน้อยๆ แต่แบบนี้มันไม่ควรมั้ยอ่ะ.. นี่ก็ไม่กล้าจะโวยเสียงดังนะ เพราะกลัวว่สอาจจะเจอรุมสกรัมแบบที่เห็นในข่าวบ่อยๆ 5555..พอหมดศรัทธาก็เดินกลับลงมา จนพี่ผู้ชายที่ถือไมค์คอยเชิญชวนคนให้ไปไหว้ ยังงง ว่าทำไมเราไปถึงดอกไม้แล้วเดินกลับลงไปเลย.. จบรีวิววัดนี้เท่านี้ แล้วก็คงเป็นแค่ครั้งเดียวที่ได้ไปกราบท่านพระยาสุเรนทร์แน่ๆ..😆😆 ปล.. คิดว่าตัวเองน่าจะเดินยังไม่ทั่ววัดนะ เหมือนด้านในเข้าไปจะมีตลาด น่าจะมีคลองด้วยส่วนด้านขวามือจากทางเข้าวัด...