" วัดโคกขาม " เป็นวัดโบราณตั้งอยู่ในเขตตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชสมัยสมเด็จพระเพทราชา (พ.ศ.2231-2246)
ผู้สร้างวัด คือ พระยารามเดโช ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งในปี พ.ศ. 2239 ได้ร่วมกับนายสังข์ยมราช เจ้าเมืองนครราชสีมาแข็งเมือง สมเด็จพระเพทราชาจึงโปรดให้พระยาสุรสงครามและพระยาราชวังสัน ยกกองทัพไปปราบ พระยารามเดโชสู้ไม่ได้จึงหลบหนีขึ้นมาทางเรือ พร้อมกับอัญเชิญพระพุทธรูปสัมฤทธิ์องค์หนึ่งขึ้นมาด้วย เมื่อถึงเมืองสาครบุรีได้ขึ้นบกที่บ้านโคกขาม และอุปสมบทเป็นพระพร้อมกับสร้างวัดโคกขามขึ้น
หลักฐานโบราณสถานสำคัญภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถก่ออิฐถือปูนที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย อุโบสถหลังเก่า ขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 17.5 เมตร หน้าบันเป็นไม้แกะสลักสวยงาม ลักษณะอุโบสถเป็นแบบมหาอุด มีประตูเข้าออกทางเดียว พระเจดีย์ทรงระฆังกลมจำนวน 2 องค์ ซึ่งน่าจะสร้างขึ้นในยุคเดียวกัน ตั้งอยู่หน้าอุโบสถ เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ลักษณะศิลปกรรมสมัยอยุธยา และได้รับการบูรณะซ่อมแซมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ส่วนโบราณวัตถุที่สำคัญได้แก่ “หลวงพ่อสัมฤทธิ์” พระพุทธรูปแบบสกุลช่างนครศรีธรรมราช หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “แบบขนมต้ม” ที่ฐานมีจารึกใจความว่า “พุทธศักราช 2232 พระสา กับเดือน 1 กับ 25 วันพฤหัสบดี ขึ้น10 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเมีย โทศก พระยาเมชัยก็ได้สถาปนาพระพุทธสิหิงค์องค์นี้ เป็นทอง 37 ชั่งจงเป็นปัจจัยแก่นิพพาน" และธรรมาสน์บุษบกไม้ซึ่งมีลักษณะฝีมือช่างแบบอยุธยา
พระอุโบสถที่วัดนี้ หากดูผิวเผินก็คล้ายกับโบสถ์ตามวัดทั่วไปคือประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ทว่าความงามน่าชมอยู่ที่หน้าบัน ซึ่งเป็นไม้แกะสลักรูปสัตว์และดอกไม้มงคล ตามความเชื่อของจีน มีทั้งค้างคาว นกกระสา และมังกร เกาะเกี่ยวไปตามกิ่งก้านของต้นโบตั๋น ที่ชูช่อเบ่งบานอย่างสวยงาม สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในช่วงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งศิลปะจีน กำลังฟูเฟื่องในสยาม ถือเป็นศิลปะพระราชนิยมของรัชกาลที่ 3 ทีเดียว เป็นแบบอย่างให้บรรดาช่างในยุคนั้น นำศิลปะจีนเข้ามาผสมผสานกับศิลปะไทยได้อย่างกลมกลืน
พระพุทธรูป หลวงพ่อสัมฤทธิ์ ที่กล่าวถึงนี้ ก็ถือได้ว่าเป็น พระพุทธสิหิงค์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ งดงามล้ำค่าของชาติไทยอีกองค์หนึ่ง เป็น องค์ที่ 4 ซึ่งเป็นความลับที่ถูกปกปิดมายาวนานเกือบ 300 ปี พุทธลักษณะงดงามมาก หาที่ติมิได้ เนื้อเป็นทองสีดอกบวบหนัก 37 ชั่ง (2,964 บาท) ดังภาพ แต่เดิมเราพบว่าพระพุทธสิหิงค์ในประเทศไทยมีเพียง 3 องค์เท่านั้น คือ องค์ที่ 1 อยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ องค์ที่ 2 อยู่ที่วัดพระสิงห์ เชียงใหม่ องค์ที่ 3 อยู่ที่หอพระสิงห์ นครศรีธรรมราช ทราบข่าวแล้วขอเรียนเชิญผู้ที่มีจิตรศรัทธา รีบไปกราบไหว้ปิดทอง เพราะเป็นพระทุทธรูปล้ำค่าและศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งของเมืองไทย
ปัจจุบันมีตลาดน้ำโคกขาม เป็นแหล่งซื้อขายสินค้าของชาวบ้าน มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาจับจ่ายซื้อสินค้าพื้นบ้าน...
Read moreวันนี้ผมพาทุกท่านมาทำบุญที่ วัดโคกขาม สมุทรสาคร
ที่ตั้ง ๑๕ หมู่ ๒ ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร วัดโคกขามเป็นวัดเก่าแก่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในปีใด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ตามหลักฐานประวัติวัดระบุว่าวัดได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๒๒๕ วัดตั้งอยู่ริมคลองโคกขาม ซึ่งเป็นคลองประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวีรบุรุษคือ พันท้ายนรสิงห์ ในรัชกาลพระเจ้าสรรเพชญ์ที่ ๘ หรือพระเจ้าเสือ
งานศิลปกรรมในสมัยอยุธยาตอนปลายที่โดดเด่น ได้แก่ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ หรือพระพุทธสิหิงค์องค์ที่ ๔ พบที่วัดโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพระพุทธรูปในศิลปะสมัยอยุธยา มีจารึกพบที่ฐานพระพุทธรูประบุอย่างชัดเจนว่าชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ คือ "พระพุทธสิหิงค์" ความในจารึกกล่าวว่า "พุทธศักราช ๒๒๓๒ พระสากับเดือน ๑ กับ ๒๕ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเมีย โทศก พระญาณโชตได้ถาปนาพระสิหิคะองค์นี้เป็นทอง ๓๗ ชั่ง ขอเป็นปัจจัยแก่นิพาน" ซึ่งปีพุทธศักราช ๒๒๓๒ นั่นตรงกับราชกาลสมเด็จพระราชา (ครองราชย์ปี พ.ศ. ๒๒๓๑-๒๒๔๖)
อักขระที่จารึกบนฐานพระพุทธสิหิงค์องค์นี้ เป็นอักษรไทย ภาษาไทยสมัยอยุธยา ดร.วอลเดเมอร์ ไชเลอร์ ได้เป็นผู้นำและถ่ายรูปของพระพุทธรูป ส่วนจารึกที่ฐานพระนั้นนายประสาร บุญประคองและนายเสริมผกามาศ ได้ไปอ่านจารึกที่วัดโคกขาม เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๒๑ โดยมีนายจำนง บุญกัน กำนันตำบลโคกขามเป็นผู้เชิญมา
พระพุทธสิหิงค์องค์ที่ ๔ ประดิษฐาน ณ วัดโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร มีขนาดหน้าตักกว้าง ๖๖ เซนติเมตร สูง ๘๓ เซนติเมตร หนา ๗ มิลลิเมตร รอบฐาน ๑๕๓ เซนติเมตร เนื้อเป็นสีทองดอกบวบ หนัก ๓๗ ชั่ง ๑ ตำลึง หรือหนักประมาณ ๒,๙๖๔ บาท พุทธลักษณะทรวดทรงอวบอ้วน พระพักตร์กลมพระหนูนูน พระโขนงโก่งโค้ง พระนาสิกเป็นสันโค้ง พระโอษฐ์แคบ พระรัศมีเหนือเกตุมาลาเป็นเปลวสั้น เส้นพระเกศาขมวดเป็นต่อมกลม พระหัตถ์อ่อนโค้งเรียวงาม ประทับนั่งขัดสมาธิเพรช ปางมารวิชัย ครองผ้าแบบห่มดอง ฐานรองรับพระพุทธรุปเป็นฐานเขียง...
Read moreรีวิวย้อนหลัง เคยมาหลายปีแล้ว ส่วนประวัติก็ตามนี้ครับ
วัดโคกขามเป็นวัดเก่าแก่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในปีใด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ตามหลักฐานประวัติวัดระบุว่าวัดได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๒๒๕ วัดตั้งอยู่ริมคลองโคกขาม ซึ่งเป็นคลองประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวีรบุรุษคือ พันท้ายนรสิงห์ ในรัชกาลพระเจ้าสรรเพชญ์ที่ ๘ หรือพระเจ้าเสือ งานศิลปกรรมในสมัยอยุธยาตอนปลายที่โดดเด่น ได้แก่ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ หรือพระพุทธสิหิงค์องค์ที่ ๔ พบที่วัดโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพระพุทธรูปในศิลปะสมัยอยุธยา มีจารึกพบที่ฐานพระพุทธรูประบุอย่างชัดเจนว่าชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ คือ "พระพุทธสิหิงค์" ความในจารึกกล่าวว่า "พุทธศักราช ๒๒๓๒ พระสากับเดือน ๑ กับ ๒๕ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเมีย โทศก พระญาณโชตได้ถาปนาพระสิหิคะองค์นี้เป็นทอง ๓๗ ชั่ง ขอเป็นปัจจัยแก่นิพาน" ซึ่งปีพุทธศักราช ๒๒๓๒ นั่นตรงกับราชกาลสมเด็จพระราชา (ครองราชย์ปี พ.ศ. ๒๒๓๑-๒๒๔๖) อักขระที่จารึกบนฐานพระพุทธสิหิงค์องค์นี้ เป็นอักษรไทย ภาษาไทยสมัยอยุธยา ดร.วอลเดเมอร์ ไชเลอร์ ได้เป็นผู้นำและถ่ายรูปของพระพุทธรูป ส่วนจารึกที่ฐานพระนั้นนายประสาร บุญประคองและนายเสริมผกามาศ ได้ไปอ่านจารึกที่วัดโคกขาม เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๒๑ โดยมีนายจำนง บุญกัน กำนันตำบลโคกขามเป็นผู้เชิญมา พระพุทธสิหิงค์องค์ที่ ๔ ประดิษฐาน ณ วัดโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร มีขนาดหน้าตักกว้าง ๖๖ เซนติเมตร สูง ๘๓ เซนติเมตร หนา ๗ มิลลิเมตร รอบฐาน ๑๕๓ เซนติเมตร เนื้อเป็นสีทองดอกบวบ หนัก ๓๗ ชั่ง ๑ ตำลึง หรือหนักประมาณ ๒,๙๖๔ บาท พุทธลักษณะทรวดทรงอวบอ้วน พระพักตร์กลมพระหนูนูน พระโขนงโก่งโค้ง พระนาสิกเป็นสันโค้ง พระโอษฐ์แคบ พระรัศมีเหนือเกตุมาลาเป็นเปลวสั้น เส้นพระเกศาขมวดเป็นต่อมกลม พระหัตถ์อ่อนโค้งเรียวงาม ประทับนั่งขัดสมาธิเพรช ปางมารวิชัย ครองผ้าแบบห่มดอง ฐานรองรับพระพุทธรุปเป็นฐานเขียง...
Read more