มากราบสรีระสังขารหลวงพ่อเก๋ วัดนี้หมาเยอะ มาไหว้หลวงพ่อแนะนำ เอาขนมหมาติดมาด้วยนะครับ น้องน่ารักไม่ดุ ไปมา วันที่ 19/1/68 ส่วนประวัติหลวงพ่อเก๋ ที่หาข้อมูลได้ก็ตามนี้ครับ
หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านเป็นชาวเพชรบุรีโดยกำเนิด ท่านถือกำเนิดในพื้นที่บ้านสระพัง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี โดยหลวงพ่อเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๒ โยมบิดาชื่อนายฉลู ตรีเพชรคง โยมมารดาชื่อนางแป้น ตรีเพชรคง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกัน ๖ คน โดยหลวงพ่อเก๋ ท่านเป็นบุตรคนที่ ๓ ปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ขณะนั้นหลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ ท่านมีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้ทำการอุปสมบถ ณ พัทธสีมาวัดวชิรคาม ตำบลท้ายหาด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับฉายาว่า "สุนันโท" โดยมี พระครูธรรมวิถีสถิต (หลวงพ่อโต) วัดคู้ธรรมสถิต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุตาภิรัต (หลวงพ่อรอด) วัดบางขันแตก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อทองอยู่ วัดแม่น้ำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้วท่านก็ได้อยู่จำพรรษาที่วัดวชิรคามเรื่อยมาเพื่อศึกษาวิชาการต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อเก๋ นั้นมีความสามารถโดดเด่นในเชิงช่างไม้ พอสอบนักธรรมตรีได้ หลวงพ่อทองอยู่ เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ จึงขอตัวท่านให้มาช่วยงานที่วัดแม่น้ำ หลวงพ่อทองอยู่ท่านมีชื่อเสียงในด้านวิชาอาคมและแพทย์แผนโบราณ เก่งสมุนไพร ว่านยา ทำให้หลวงพ่อเก๋ได้ศึกษาวิชาการต่างๆเหล่านี้จากหลวงพ่อทองอยู่ไว้จนหมดสิ้น ต่อมาหลวงพ่อทองอยู่ได้นำท่านไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ”หลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิต” และ “หลวงพ่อรอด วัดบางขันแตก” ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านวิชาอาคมขลัง นอกจากนี้ท่านยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนกรรมฐานและพุทธาคมกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงปู่บ่าย วัดช่องลม หลวงพ่อแดง วัดท้ายหาด หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ และหลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา โดยในเวลากลางวันท่านจะไปเรียนกับหลวงปู่บ่าย พอตกเย็นท่านก็จะเดินทางไปจำวัดที่วัดบางกะพ้อม เพื่อเรียนวิชากับหลวงพ่อคง ในเวลากลางคืน โดยร่ำเรียนแบบนี้อยู่หลายปี นอกจากนี้ท่านยังได้ไปศึกษากับหลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา อีกด้วย ในพรรษาที่ ๖ ซึ่งตรงกับปี พ.ศ. ๒๔๗๙ หลวงพ่อเก๋ ท่านได้เริ่มเดินธุดงค์วัตร โดยท่านได้ธุดงค์ไปที่จังหวัดอุตรดิตร์ พิษณุโลก และเลยขึ้นไปทางภาคเหนือ ซึ่งในสมัยนั้นเป็นบ้านป่าบ้านดง รกร้าง ไม่ค่อยมีผู้คนอยู่อาศัย โดยท่านจะเดินธุดงค์ทุกปี แต่เมื่อถึงเวลาอันสมควรท่านก็จะเดินทางกลับมาที่วัดแม่น้ำ เพื่อให้ทันเข้าพรรษาเนื่องจากท่านเป็นพระที่สวดปาฏิโมกข์ เป็นอย่างนี้เรื่อยมา จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ซึ่งปีนั้นหลวงพ่อเก๋ บวชเรียนได้ ๑๑ พรรษา หลวงพ่อทองอยู่ เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ มรณภาพลง ชาวบ้านและบรรดาศิษย์วัดแม่น้ำเห็นพ้องกันนิมนต์หลวงพ่อเก๋ ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนเมื่อหลวงพ่อเก๋ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ภาระสมภารมีมากมาย จึงหยุดการศึกษาจากอาจารย์ต่างๆ ลง และทำหน้าที่เจ้าอาวาสสืบต่อมาโดยหลวงพ่อได้พัฒนาวัดแม่น้ำ ให้มีความเจริญรุ่งเรืองและยังได้สร้างเสนาสนะต่างๆให้แข็งแรงมั่นคงสืบต่อมา
หลวงพ่อเก๋ ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ นับรวมสิริอายุได้ ๙๐ ปี ๖๙ พรรษา โดยหลังจากที่ท่านมรณภาพลงแล้ว...
Read moreส่วนตัวเพิ่งรู้จักวัดนี้ไม่ถึง 10 ปี แม้ไม่ทันหลวงพ่อเก๋ แต่ก็ได้มานมัสการร่วมทำบุญ ถวายน้ำมันตะเกียงอยู่บ่อยๆ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือพระอาจารย์เหน่ง เป็นพระบริสุทธิ์และอาคมเข้มขลัง ซึ่งจะทราบกันโดยไม่กว้างขวางเท่าไหร่ เพราะท่านไม่ได้โปรโมทหรือมีลุกศิษย์คอยเสริมในเชิงพาณิชย์ ใครได้พบถือว่าโชคดี ปล.เหรียญรุ่น 1 หลังท้าวเวสสุวรรณ ในด้านพลังแรงมาก ...
Read moreวัดแม่น้ำ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองใน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เดิมมีชื่อว่าวัดบางนางจีนนอก พื้นที่บริเวณนี้มีวัดอยู่ติดกันถึง 3 วัด ปรากฏหลักฐานเป็นซากของพระอุโบสถเก่าๆอยู่ในบริเวณนี้ถึง 5 หลัง ต่อมาไม่พบสาเหตุทั้งหมดได้ย้ายมาอยู่รวมกันกับวัดแม่น้ำ ภายในวัดมี หลวงพ่อวิหาร...
Read more