Went on a regular weekend and the campsite wasn't that crowded. The weather on Jan 14-16 was perfect - not so hot during the day and not so cold in the night. There was no strong wind. The toilets were cleaned regularly.
Upon arrival, we registered the number of people in each car and record our car plate no. They've asked for our driver's license that time but my friends said they were asked for their passport so maybe either will do. No entrance fee but they accept any amount of donation. Opens 0800 and closes at 2000 no reservation just come and register on-site.
There's no eletrical socket available on the camp ground so it's a good idea to bring your own lamps, powerbank and/or power supply although there's a phone charging area in a cafè near the entrance.
I gave 5 stars as I was fully satisfied with the facilities and everything. The lake, the mountains, the forest, the nature walk, all perfect for a...
Read moreรีวิวนี้จะยาวหน่อยนะคะ ไปถึงช่วงประมาณบ่าย 2ค่ะ เจอนักท่องเที่ยว1 คนยืนอยู่ตรง(ตอนแรกคิดว่าเป็นจุดบริการเพราะไม่มีป้ายชัดเจน) จริงๆเป็นเหมือนร้านกาแฟ เลยเดินไป แต่พนง.ตรงที่ขายกาแฟ ถามเราด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร เหมือนไม่เต็มใจให้บริการ ว่า "หาอะไรคะ" พอตอบว่าที่นี่ต้องชำระเงินมั้ยคะ มีค่าบริการมั้ย แล้วประทับตราอุทยานตรงไหนนางก็ตอบมาว่า "เข้าฟรีค่ะ ประทับตราด้านนู้นเลยค่ะ" ด้วยน้ำเสียงที่ไม่เต็มใจบริการ เราก้เดินมาทางที่นางบอก แต่ไม่เห็นมีป้ายอะไรที่บอกชัดเจน พอเจอก้ขอประทับตรา เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านในก้จะประทับให้ แต่เราหาหน้าของที่นี่ไม่เจอ แล้วเหมือนคงจะหงุดหงิดเลยบอกเลขหน้ามา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่เต็มใจ ประทับตรา ประทับวันที่ให้ แต่ไม่เซ็นให้ และทำหน้าเหมือนไม่พอใจ พอเดินดูรอบๆจุดบริการ ก้มีเจ้าหน้าที่นั่งเล่น นั่งทำผมกัน ไม่ได้สนใจนักท่องเที่ยว เราก้ไม่กล้าที่จะรบกวน ไม่กล้าถามข้อมูล ว่าต้องไปตรงไหนยังไง เลยไปถามพี่ที่ร้านสวัสดิการแทน ซึ่งพูดจาดีกว่าพนักงานที่จุดบริการเยอะ พอขับรถไปจอดตรงจุดกางเต็นท์ เจอเจ้าหน้าที่ ผู้ชายเลยถามทางเดินไปน้ำตก เจ้าหน้าที่ ผู้ชายก็พูดจาดีนะคะ แนะนำดีช่วงที่เราไปเขาบอกว่าไม่มีน้ำ น้ำแห้งนะ ด้านในไม่มีเจ้าหน้าที่เลย เราก็เดินเข้าไปสองคนกับแฟน ช่วงแรกๆ มีป้ายบอกทางชัดเจน พอเริ่มเดินไปซักพัก ทางบางช่วงคือน่ากลัวจนไปถึงจุดป่าดิบแล้ง ตรงนี้ดูมืดมากเลยนะคะ เมื่อเทียบกับด้านนอกที่แดดแรง ยุงเยอะมาก ไม่ได้ถ่ายรูปตรงนี้ไว้ เพราะมัวแต่กลัว เดินผ่านจุดป่าดิบแล้งไปได้หน่อย จะเจอทางลาดลง ซึ่งคาดว่าน่าจะใกล้ถึงน้ำตกแล้ว เพราะล่าสุดที่เจอป้ายก่อนเข้าป่าดิบแล้งคืออีก 520 เมตรจะถึงน้ำตกแต่จุดนี้สัญญาณมือถือหายไปแล้วนะคะ เราเลยเลือกที่จะเดินกลับ ไปไม่ถึงน้ำตกค่ะ เพราะกลัว กลัวหลงด้วยค่ะ ขากลับรีบเดินจ้ำๆอย่างเร็ว เพราะเย็นแล้วด้วยรีบออกจากตรงป่ามืดๆให้เร็วที่สุด พอออกมาเจอแสงสว่าง จนเจอป้ายทางเข้ารู้สึกดีใจเลยค่ะ ว่าออกมาได้อย่างปลอดภัย ปล. ตอนเดินข้างในนะทุกคน นึกถึงแต่พี่แจ็คเดอะโกสค่ะ ด้วยความที่ฟังเรื่องเล่ามาเยอะ เลยคิดว่าเราจะได้คุยกับพี่แจ็คบ้างมั้ยนะ สรุปไม่มีเรื่องไปเล่านะคะ 555+ พอออกมาคุยกับแฟนเรื่องในป่า แฟนบอกว่า มีชุดไทยแขวนอยู่ด้วยเพราะมีต้นตะเคียน ขนลุกเลยค่ะ (เพิ่มความหลอน) คือเราไม่เห็นนะคะ ทั้งขาไปขากลับเพราะเรามองแต่พื้นค่ะ กลัวสะดุดก้อนหิน
ปล.2 อยากให้ทางอุทยานเก็บค่าเข้านะคะ เพื่อเอาไปปรับปรุงพัฒนาทางเดินให้ดูไม่น่ากลัวขนาดนี้ และอยากให้มีจุดให้เจ้าหน้าที่อยู่ด้านในระหว่างทางเดิน เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว และอยากให้อบรมพนักงานด้านหน้าค่ะ ให้พูดจาให้ดี และบริการนักท่องเที่ยวด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่เหมือนโดนบังคับให้มาทำงาน อยากให้ปรับปรุงตรงนี้ค่ะ...
Read moreตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย มีพื้นที่ 13,750 ไร่ มีความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายทางชีวภาพทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ป่านานาชนิด มีพื้นที่ติดต่อกับด้านตะวันตกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบด้วยสังคมป่าหลายชนิด ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ และทุ่งหญ้า
ด้วยความสมบูรณ์ของผืนป่าซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ป่า ของ "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า" ที่นี่จึงเป็นดั่งสวรรค์ของคนรักป่า ที่ต้องการจะเข้ามาสัมผัสความงามของธรรมชาติให้เห็นด้วยตาตัวเอง บนพื้นที่ 13,750 ไร่ ของศูนย์ฯ ติดต่อกับด้านตะวันตกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบไปด้วยป่าหลายชนิด เช่น ป่าดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ และทุ่งหญ้า จึงทำให้เกิดความหลากหลายของพันธุ์พืช ที่พบจะมีพวกพืชสมุนไพร เช่น พญามีฤทธิ์ ม้ากระทืบโรง กราวเครือ ว่าน รวมทั้งเห็ดชนิดต่าง ๆ ส่วนสัตว์ป่าที่พบในบริเวณนี้ ได้แก่ ช้างป่า กระทิง หมี กวาง เก้ง นางอาย อีเห็น กระจง หมูป่า และนกอีกประมาณ 158 ชนิดที่บินข้ามไปมาระหว่างศูนย์ฯ กับเขาใหญ่ใครอยากเดินป่าสำรวจเส้นทางสีเขียว ที่นี่นับว่าเหมาะมาก เพราะมีทั้งเส้นทางเดินป่าและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ให้เลือกตามสภาพความฟิตของร่างกาย เส้นทางการเดินป่าแบ่งเป็นวงรอบ ได้แก่ รอบเล็ก น้ำตกเจ็ดคดเหนือ เป็นน้ำตกสูง 4 ชั้น รายล้อมด้วยป่าไผ่ ระยะทางเดิน 1.2 กิโลเมตร, รอบกลาง น้ำตกเจ็ดคดเหนือ-กลาง-ใต้ สามารถแวะเล่นน้ำที่น้ำตกเจ็ดคดกลางได้ เป็นน้ำตกชั้นเดียวมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ส่วนน้ำตกเจ็ดคดใต้เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่มีความสวย สูงประมาณ 40 เมตร และรอบใหญ่ น้ำตกเจ็ดคดเหนือ-กลาง-ใต้ และน้ำตกเจ็ดคดใหญ่ เป็นเส้นทางที่สวยที่สุด ระยะทางเดิน 4 กิโลเมตร ส่วนเส้นทางศึกษาธรรมชาติมี 3 เส้นทาง เส้นทางที่ 1 จากจุดชมวิว ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการฯ 12 กิโลเมตร ไปยังอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน เส้นทางที่ 2 จากอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน ไปน้ำตกหินดาด และกลับมายังอ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน เส้นทางที่ 3 จากอ่างเก็บน้ำซับป่าว่านไปน้ำตกเจ็ดคดเหนือ เจ็ดคดกลาง เจ็ดคดใต้ และวนกลับมายังอ่างเก็บน้ำซับป่าว่านอีกครั้ง หรือจะเลือกทำกิจกรรมเพลิดเพลินอย่าง ดูนก ปั่นจักรยาน รวมถึงกิจกรรมส่องสัตว์ในระยะทาง 1 กิโลเมตร ก็มีให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันน่าประทับใจ ภายใต้ผืนป่าใหญ่แห่งนี้ รู้ก่อนเที่ยว - สำหรับที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น มีบ้านพัก 21 หลัง มีเต็นท์ให้เช่าราคาคืนละ 200-300 บาท/คน และถุงนอนราคาคืนละ 50 บาท/คน นักท่องเที่ยวต้องเตรียมเสบียงมาเอง แต่ห้ามก่อไฟในบริเวณ อนุญาตให้ใช้เตาปิกนิกหรือเตาถ่านได้ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเวลา 08.30-16.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08 5968 3520,...
Read more