พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่ทรงคุณค่า โดยบริเวณริมแม่น้ำน้อยพบร่องรอยเตาเผาโบราณกระจายตัวตามแนวลำแม่น้ำตลอดระยะ 2 กิโลเมตร มีจำนวนมากกว่า 200 เตา ส่วนใหญ่เกิดการชำรุดไปตามเวลา ถูกทำลายจากการขุดคลองชลประทานและสร้างถนน มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุ โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผา เป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกได้ว่า ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่ และประกอบอาชีพทำเครื่องปั้นดินเผากันอย่างแพร่หลาย สันนิษฐานว่าชาวจีนและช่างปั้นอพยพมาตั้งรกรากอยู่บริเวณนี้ ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ในสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) ยกทัพไปตีหัวเมืองฝ่ายเหนือในปกครองของสุโขทัย ได้กวาดต้อนผู้คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่างเตาเผา และได้รวมกลุ่มกันบริเวณแม่น้ำน้อย เชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่ใหญ่สุดในภูมิภาคแห่งนี้ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์เตาเผาแม่น้ำน้อย ในพื้นที่วัดพระปรางค์ (ชัณสูตร) บนถนนหมายเลข 3454 หากมาจากสรรคบุรีจะอยู่ทางขวามือ ก่อนถึงรพ.บางระจัน เป็นอาคารขนาดใหญ่หลังคามุงกระเบื้องดินเผาทรงปั้นหยาเชื่อมต่อกัน 2 หลัง หลังแรกเป็นอาคารเปิดโล่ง สร้างครอบเตาเผาจำนวน 3 เตา สามารถเดินชมโดยรอบเตาเผา ได้มีนิทรรศการให้ข้อมูลโดยสังเขป เกี่ยวกับแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อยทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยลักษณะของเตาเผาแม่น้ำน้อยเป็นเตาเผาขนสดใหญ่ก่อด้วยอิฐ ระบายความร้อนเฉียงขึ้น โครงสร้างหลังคาโค้งคล้ายหลังเต่าหรือเรือประทุน จึงเรียกเตาประทุน แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ห้องเชื้อเพลิง ห้องวางเครื่องปั้นดินเผาและปล่องไฟ โดยเตาหมายเลข 4 เป็นเตาเผาที่นับว่ามีขนาดใหญ่มากที่สุด มีความกว้าง 5.6 เมตร ยาวถึง 14.3 เมตร และปล่องไฟเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.15 เมตร สร้างอยู่บนเนินดินและเศษวัสดุที่ถมให้สูงขึ้น โดยมีส่วนปล่องไฟอยู่บนสุด พื้นห้องวางเครื่องปั้นดินเผาลาดเอียงลงไปถึงห้องเชื้อเพลิง อาคารหลังที่ 2 จัดแสดงแบบจำลองเตาเผาแม่น้ำน้อย และตัวอย่างเครื่องปั้นดินเผาที่มีการขุดค้นพบในแหล่งนี้ ได้แก่ ไหสี่หู ครก โอ่ง อ่าง กระปุกใส่ปูน ขวดปากแตรทรงสูง ซึ่งเป็นของใช้ทั่วไป ส่วนมากไม่มีการเคลือบ นอกจากนี้ยังมีเครื่องประกอบสถาปัตยกรรม ได้แก่ ช่อฟ้า กระเบื้องเชิงชาย กระเบื้องพื้น รวมถึงท่อประปาดินเผาที่ใช้ในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ก็ทำขึ้นที่นี้ ชิ้นที่เป็นไฮไลต์คือตุ๊กตาดินเผาอายุหลายร้อยปี ควรโปรโมทตามกระแสนิยม Art toy พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:30-17:00 น.ไม่เก็บค่าเข้าและมีภัณฑารักษ์พาเดินชม เมื่อเดือนก่อนผมได้มาไหว้พระอยุธยาแถบปท่าคูจาม วันนี้ผมมาไหว้พระต่อแถบสรรคบุรีสิงห์บุรี เริ่มจากแวะวัดสระเกษ และวัดไชโย อ่างทอง ไปวัดสองพี่น้องและวัดโตนดหลาย วัดพระยาแพรกวัดมหาธาตุ และวัดพระแก้ว ชัยนาท ก่อนมาวัดพระปรางค์ที่อยู่ข้างพิพิธภัณฑ์ ระหว่างทางไปต่อวัดพระนอนจักรสีห์...
Read moreตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระปรางค์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่ทรงคุณค่า โดยบริเวณนี้จะพบแหล่งเตาเผาโบราณจำนวนมาก มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุ โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผาหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกได้ว่า ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่ และประกอบอาชีพ ทำเครื่องปั้นดินเผากันอย่างแพร่หลาย แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย ตั้งอยู่บริเวณวัดพระปรางค์ เป็นศาสนสถานเก่าแก่สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ระหว่างปี พ.ศ. 1914 – 1921 ในสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1ยกทัพไปตีหัวเมืองฝ่ายเหนือในความปกครองของสุโขทัย โดยกวาดต้อนผู้คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่างเตาเผาและได้รวมกลุ่มกันบริเวณแม่น้ำน้อยส่วนอีกหลักฐานหนึ่งสันนิษฐานว่า ชาวจีนและช่างปั้นอพยพมาตั้งรกรากอยู่บริเวณนี้โดยเชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่ใหญ่สุดในภูมิภาคแห่งนี้
บริเวณแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย พบร่องรอยเตาเผาโบราณกระจายตัวตามแนวลำแม่น้ำน้อยตลอดระยะ 2 กิโลเมตรมีจำนวนมากกว่า 200 เตา ส่วนใหญ่เกิดการชำรุดไปตามกาลเวลา ถูกทำลายจากการขุดคลองชลประทานและการก่อสร้างถนน โดยลักษณะของเตาเผาแม่น้ำน้อยเป็นเตาเผาขนาดใหญ่ ระบายความร้อนเฉียงขึ้น ก่อด้วยอิฐตัวเตาบางส่วนคล้ายเรือประทุนจึงเรียก “เตาประทุน” แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ปล่องไฟ ห้องวางเครื่องปั้นดินเผาและห้องเชื้อเพลิง กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ. 2509
ไฮไลต์ของแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อยคือ การไปชมตัวเตาเผาที่นับว่ามีขนาดใหญ่มากที่สุดมีความยาวถึง 14 เมตร กว้าง 5.60 เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางของปล่องควันไฟยาว 2.15 เมตรเคยใช้เป็นที่ผลิตภาชนะดินเผา อาทิ ไห อ่าง ครก กระปุก ช่อฟ้า กระเบื้องปูพื้น เป็นต้น นอกจากการเดินชมแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อยกว่าร้อยจุดแล้ว ยังจะได้ชมผลิตภัณฑ์จากเตาเผาแม่น้ำน้อยได้แก่ เครื่องปั้นดินเผาที่เป็นไหสี่หู ครก โอ่งอ่าง กระปุกใส่ปูน ขวดปากแตรทรงสูง เครื่องประกอบสถาปัตยกรรมจำพวกกระเบื้องปูพื้น กระสุนดินเผาขนาดต่างๆ เป็นแบบผลิตเพื่อใช้ในเขตพระราชฐาน
ปัจจุบันกรมศิลปากรได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์เตาแม่น้ำน้อย เป็นอาคารขนาดใหญ่เชื่อมต่อกันสองหลังโดยหลังแรกเป็นอาคารโปร่งโล่ง มีเตาเผาจำนวน 2 เตา สามารถเดินชมโดยรอบเตาเผาได้มีนิทรรศการให้ข้อมูลโดยสังเขปเกี่ยวกับแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อยทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษส่วนอาคารหลังที่ 2 จัดแสดงแบบจำลองเตาเผาแม่น้ำน้อย และตัวอย่างเครื่องปั้นดินเผาที่มีการขุดค้นพบในแหล่งนี้ แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย...
Read moreความรู้ / Knowledge - 8/10 บริการ / Service - 10/10 การบริหารจัดการ / Maintenance - 7/10 ราคา / Price - 10/10 ที่จอดรถ / Parking - 10/10
แนะนำ - แหล่งโบราณคดีเตาเผาสมัยกรุงศรีอยุธยา
Recommendations - An excavation site on ancient kilns dating back to the Ayutthaya period.
ต้องทำ - เดินชมให้ทั่ว ๆ พร้อมฟังบรรยายจาดเจ้าหน้าที่
Must do - Walk around thoroughly and listen to descriptions told by the staff.
ข้อดี - เข้าฟรี / เจ้าหน้าที่ดูแลและให้บริการดีมาก ๆ / มีโบราณวัตถุให้ดูพอควร / ที่จอดรถสะดวกสบาย
What to expect - Free entrance. Staff is very helpful and provides great service. Quite a number of artifacts on display. Convenient parking.
ข้อติ - หน่วยงานภาครัฐ ((ความเห็นส่วน) โดยเฉพาะกรมศิลปากร) น่าจะเข้ามาช่วยดูแลและบริหารจัดการ สร้างเรื่องราวบอกเล่าเสริมสร้างคุณค่าของแหล่งโบราณคดีให้มากกว่านี้ และพัฒนาให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่านี้ (วันที่ไปไม่มีคนอื่นเลย) รวมถึงบริหารจัดการเรื่องของฝาก/ของที่ระลึกของพิพิธภัณฑ์เพื่อให้องค์ความรู้การปั้นไหสี่หู (เหลือลุงอายุเยอะแล้วปั้น+เผาเป็นอยู่คนเดียว ซื้อมาตามรูปที่ 34) ไม่สูญหายไป และสามารถเป็นแหล่วงรายได้ให้ชุมชนอีกทางด้วย
Don’t be surprised - Personally, I feel that the Fine Arts Department (or whatever competent government agency that be) should provide more support and management of this site in order to provide stories/knowledge of this site to enhance its value and attract more visitors (we were the only group visiting that day. In addition, they should help improve and keep alive the knowledge of pottery making (now only one old man knows how to make them) (bought a pair — pic 44) so as to be an extra source of income for people...
Read more