บรรยากาศน่าแวะไปเที่ยว ถ่ายรูปสวยๆ ครับ
วัดตะพานหิน หรือ วัดสะพานหิน ตั้งอยู่นอกเขตกำแพงเมืองเก่าสุโขทัยทางทิศตะวันตก โดยอยู่ในเขตอรัญวาสี หรือวัดป่า วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงประมาณ 200 เมตร บริเวณทางเดินขึ้นโบราณสถานมีทางเดินปูลาดด้วยหินชนวนจากตีนเขาขึ้นไปเป็นระยะทาง 300 เมตร สิ่งสำคัญภายในวัด ได้แก่ พระประธานเป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระปางประทานอภัย สูง 12.50 เมตร เรียกว่า พระอัฏฐารส
บนลานวัดมีเจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูมขนาดไม่สูงมากนัก มีวิหารก่อด้วยอิฐ เสาก่อด้วยศิลาแลง ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานอภัย ซึ่งมีความสูงสง่าเช่นเดียวกับพระพุทธรูปในเขตเมืองอย่างที่วัดมหาธาตุ โดยมีชื่อเรียกว่า พระอัฏฐารส โดยที่อาณาจักรสุโขทัยนั้น ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์จากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ได้รับมาจากประเทศศรีลังกา กล่าวคือในประเทศศรีลังกาตั้งแต่ช่วงปลายสมัยอนุราธปุระ และในสมัยโปลนนาลุวะ นั้น มีความนิยมในการสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปยืนที่มีความสูงเช่นนี้ด้วย ตัวอย่างที่กล่าวได้ว่าเป็นต้นแบบให้กับพระอัฏฐารสในสุโขทัย คือ พระอัฏฐารสในวิหารลังกาดิลก สำหรับพระอัฏฐารสที่วัดสะพานหินเป็นพระพุทธรูปปางประทานอภัยสร้างตามคติของลังกาที่ว่า พระพุทธเจ้ามีความสูงเท่ากับ 18 ศอก โดยสร้างเป็นพระพุทธรูปยกพระหัตถ์ข้างใดข้างหนึ่งขึ้น หันฝ่าพระหัตถ์ออก ปลายนิ้วพระหัตถ์ตั้งขึ้นเรียกว่าการแสดงปางประทานอภัย
พระอัฏฐารสซึ่งหมายถึงพระพุทธรูปประทับยืนที่นิยมสร้างกันในสมัยสุโขทัย สันนิษฐานกันว่า พระอัฎฐารสนี้ คือพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ที่ศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงเมืองสุโขทัยสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชว่า "…ในกลางอรัญญิก มีพิหารอันณึ่งมนใหญ่ สูงงามแก่กม มีพระอัฎฐารสอันณึ่งลุกยืน… " และสันนิษฐานกันอีกว่า วัดสะพานหินนี้น่าจะเป็นวัดที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงช้างเผือกชื่อ รูจาคีรี ขึ้นไปนบพระทุกวันข้างขึ้น 15...
Read moreวัดสะพานหิน เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนเนินภูเขาลูกเตี้ยๆ ทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย ชื่อวัดเรียกตามลักษณะทางขึ้นที่ปูลาดด้วยหินจากตีนเขาขึ้นไป จนถึงบริเวณลานวัดบนภูเขา ที่แห่งนี้มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่น่าจะตรงกับที่ศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงเมืองสุโขทัยสมัยพ่อขุนรามคำแหงว่า “…ในกลางอรัญญิก มีพิหารอันณึ่งมนใหญ่สูงงามแก่กม มีพระอัฎฐารศอันณึ่งลุกยืน…” ซึ่ง “พระอัฏฐารศ” ที่ปรากฏในศิลาจารึกนั้น เข้าใจว่าหมายถึง พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัยที่วัดสะพานหินนี่เอง และน่าจะเป็นวัดที่พ่อขุนรามคำแหงทรงช้างเผือกชื่อ “รูจาคีรี” เพื่อไปนบพระในวัดนี้ทุกวันข้างขึ้นและแรม 15 ค่ำ ดังปรากฏข้อความในศิลาจารึกหลักเดียวกันนี้ว่า “…วันเดือนดับเดือนเต็ม ท่านแต่งช้างเผือกกระพัดลยาง เที้ยรย่อมทองงา…ขวา ชื่อรูจาครี พ่อขุนรามคำแหง ขึ้นขี่ไปนบพระ(เถิง) อรัญญิกแล้วเข้ามา…” บริเวณลานวัดสะพานหินมีกลุ่มโบราณสถานประกอบด้วย ฐานวิหาร 5 ห้อง ก่ออิฐ เสาทำด้วยศิลาแลง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ภายในวิหารมีพระพุทธรูปปูนปั้นยืน ปางประทานอภัย ยกพระหัตถ์ขวาเรียกว่า “พระอัฏฐารศ” โดย ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์จากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ได้รับมาจากประเทศศรีลังกา กล่าวคือในประเทศศรีลังกาตั้งแต่ช่วงปลายสมัยอนุราธปุระ และในสมัยโปลนนาลุวะ นั้น มีความนิยมในการสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปยืนที่มีความสูงเช่นนี้ด้วย ตัวอย่างที่กล่าวได้ว่าเป็นต้นแบบให้กับพระอัฏฐารสในสุโขทัย คือ พระอัฏฐารสในวิหารลังกาดิลก ฐานเจดีย์ขนาดเล็ก 6 ฐาน กระจายทั่วไปบนลานวัด มีอยู่องค์หนึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ อยู่ตรงเชิงบันไดด้านทิศตะวันออก สะพานหิน ที่เป็นทางขึ้นอยู่ด้านทิศตะวันออก ทอดยาวจากถนนเชิงภูเขาจนถึงลานวัด ปูด้วยหิน ยาวประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้ ทางด้านทิศเหนือมีทางขึ้นอ้อมเขา...
Read moreNice Buddha statue on the top of a small hill. It's a 5min hike to reach the top, nothing challenging for able-bodied people. Nice for sunset and just after it.
To be honest, I don't think for 100 baht (+10 or 20 baht if you come by bicycle/motorcycle) it is really worth it... Sure once you paid you can check-out the other places West of the old town, but we found that those places were of relatively small interest... This could also be because we've seen loads of other more impressive sites...
Read more