องค์ความรู้เรื่องพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร Reference จาก https://www.finearts.go.th/chaiyamuseum/view/26416-%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%8
พระบรมธาตุไชยาเป็นเจดีย์ทรงปราสาทยอดแบบที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่าศิลปะศรีวิชัย เรือนธาตุมีผังเป็นรูปกากบาท มีมุขทั้ง ๔ ด้าน ลักษณะเป็นมุขตัน ยื่นออกมาจากกลางผนังเรือนธาตุ ยกเว้นด้านทิศตะวันออกมีบันไดทางขึ้นเข้าสู่ห้องโถงกลาง มุขทั้งสี่ด้านที่ยื่นออกมาจากผนังเรือนธาตุนี้ทำให้ดูคล้ายย่อมุมไม้สิบสอง แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วมิได้เป็นการย่อมุมไม้แต่เป็นการเพิ่มมุข มุขที่เพิ่มขึ้นมาคือมุมของจัตุรมุขนั่นเอง
ความสูงของพระบรมธาตุจากฐานถึงยอดประมาณ ๒๔ เมตร ประกอบด้วยฐานบัวลูกแก้วสี่เหลี่ยมจัตุรัสตกแต่งด้วยเสาติดผนังลดเหลี่ยม ๑ ชั้น วางอยู่บนบานเขียงซ้อนกัน ๒ ชั้น ขนาดฐานวัดจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาวประมาณ ๑๓ เมตร ( ของเดิมยาว ๑๐ เมตร สร้างพอกขึ้นใหม่ทางด้านหน้าอีก ๓ เมตร ) จากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาวประมาณ ๑๐ เมตร ส่วนฐานอยู่ต่ำกว่าผิวดินปัจจุบัน เนื่องจากพบว่าเดิมมีดินทับถมอยู่ ทางวัดจึงได้ขุดบริเวณโดยรอบฐานเป็นสระกว้างประมาณ ๒.๓๐-๒.๕๐ เมตร ลึกประมาณ ๑ เมตร เพื่อให้เห็นฐานเดิม ปัจจุบันมีน้ำขังอยู่รอบฐานตลอดปี ด้านหน้าฐานบัวลูกแก้วด้านทิศตะวันออกมีซุ้มพระพุทธรูปอยู่ข้างบันไดจำนวน ๒ ซุ้ม เป็นของที่สร้างต่อเติมสมัยหลัง สามารถเห็นร่องรอยฐานเก่าที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพราะมีฐานบัวเดิมโผล่ออกมาให้เห็นชัดเจน
ฐานบนของบัวลูกแก้วสี่เหลี่ยม มีลักษณะเป็นฐานทักษิณ ที่มุมทั้งสี่ประดับด้วยสถูปจำลอง ตรงกลางฐานเป็นฐานบัวลูกแก้วอีกชั้นหนึ่งรองรับเรือนธาตุเจดีย์ทรงจตุรมุข ที่มุมเรือนธาตุทำเป็นรูปเสาหลอกติดผนังตรงกลางเสาเซาะตลอดโคนถึงปลายเสา มุขด้านทิศตะวันออกมีบันไดทางขึ้นสามารถเดินขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปภายในองค์เจดีย์ได้ ห้องภายในมีขนาดประมาณ ๒X ๒ เมตร ผนังเรือนธาตุก่ออิฐไม่สอปูนลดหลั่นกันขึ้นไปถึงยอด ( ปัจจุบันฉาบปูนปิดทับหมดแล้ว) มุขอีกสามด้านทึบ ที่มุขของมุขแต่ละด้านทำเป็นเสาติดผนังอาคาร เหนือมุขเป็นซุ้มหน้าบันประดับลายปูนปั้นรูปวงโค้งคล้ายเกือกม้า หรือเรียกว่า “กุฑุ” เหนือเรือนธาตุมีลักษณะเป็นหลังคาซ้อนกันขึ้นไป ๓ ชั้น โดยการจำลองย่อส่วนอาคารเบื้องล่างลดหลั่นขึ้นไป แต่ละชั้นประดับด้วยสถูปจำลองที่มุขทั้งสี่และตรงกลางด้านเหนือซุ้มหน้าบัน รวมจำนวนสถูปจำลองชั้นละ ๓ องค์ ทั้งหมดสามชั้นรวมทั้งสิ้น ๒๔ องค์
ถัดขึ้นไปเป็นส่วนยอดซึ่งซ่อมแซมครั้งใหญ่ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยขยายส่วนยอดให้สูงขึ้น เริ่มตั้งแต่บัวปากระฆังซึ่งเป็นดอกบัวบานขนาดใหญ่ องค์ระฆังรูปแปดเหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นฐานเขียงแปดเหลี่ยมขนาดเล็กรองรับก้านฉัตร ต่อด้วยปล้องไฉนแปดเหลี่ยมจำนวนห้าชั้น เหนือปล้องไฉนเป็นบัวกลุ่มหุ้มทองคำรองรับปลียอดหุ้มทองคำ ซึ่งเข้าใจว่าได้ต้นแบบมาจากยอดพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เหนือปลียอดประดับฉัตรหุ้มทองคำ
โครงสร้างพระบรมธาตุไชยาเป็นเจดีย์ก่ออิฐไม่สอปูน อิฐเนื้อแกร่งเผาด้วยไฟแรง เมื่อก่ออิฐแล้วคงขัดถูแต่งรอยให้เรียบเสมอกัน พระบรมธาตุไชยาได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์หลายครั้ง จึงมีลวดลายเครื่องประดับเป็นลวดลายเก่าใหม่ผสมกัน ลวดลายเก่าที่น่าสนใจคือ ลวดลายที่ซุ้มหน้าบันหรือ กุฑุ เดิมใช้วิธีแกะสลักอิฐเป็นรูปวงโค้ง เมื่อมีการซ่อมครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงมีการซ่อมแปลงหน้าบันด้วยปูนปั้น เติมลวดลายใหม่ ๆ ได้แก่ รูปตราแผ่นดินสมัยรัชกาลที่ ๕ ภายในเป็นพระพุทธรูป รูปเทพพนม ด้านข้างเป็นช้างสามเศียรและนกยูง รูปสิงห์ รูปเหรา รูปผีเสื้อ เป็นต้น
รูปแบบแผนผังโครงสร้างของสถาปัตยกรรมที่เรียกว่าพระบรมธาตุไชยานี้ได้รับการตีความอย่างกว้างขวาง บ้างก็ว่าคล้ายคลึงกับสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า จันทิ ในศิลปะชวาภาคกลาง เช่น จันทิปะวน จันทิเซวู จันทิเมนดุต อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔-๑๕ ซึ่งมีลักษณะโดยรวมคล้ายคลึงกับสถาปัตยกรรมแบบอินเดียใต้ แต่เปลี่ยนรูปจำลองอาคารขนาดเล็กบนชั้นหลังคาซึ่งเป็นเทวาลัยในศาสนาพราหมณ์ ให้กลายเป็นลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมในพุทธศาสนา บ้างก็ว่ามีเค้าของการคลี่คลายมาจากปราสาท ๒ หลัง ที่วัดแก้วและวัดหลง ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานอีกอย่างหนึ่งว่าอายุของพระบรมธาตุไชยาอาจจะหลังลงมาจากโบราณสถานที่วัดแก้วและวัดหลง เป็นสถาปัตยกรรมในยุคครหิ ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘
อย่างไรก็ดีรูปแบบศิลปกรรมของพระบรมธาตุไชยาก็ได้แพร่อิทธิพลให้แก่สถาปัตยกรรมในสมัยต่อมาอย่างแพร่หลาย เช่น เจดีย์วัดเขาพระอานนท์ อำเภอพุนพิน เจดีย์ถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม
เจดีย์บนเขาสายสมอ และวัดโบราณต่าง ๆ...
Read moreI noticed that there are few recent reviews for this hotel so I am posting this April 2022.
The hotel is actually is not on the beach or is it?.....There are actually several buildings including a tower on the property and the lobby/reception is at the back of the long lot. There is limited parking but there is parking out on the rear street. The property opens directly onto the beach road so it is quite handy to the beach and there is a 7Eleven right beside the entrance.
In general, this Hotel was quite nice and an obviously older luxurious property. Of course, being older, it does show signs of wear. I quite liked the hotel however the WiFi system was not that fast and having to deal with the sign in procedure, was an absolute pain. The breakfast (300 baht/person unless includedin the package) was acceptable, contrary to some reviews. A couple of dishes were not great but overall it was varied and a buffet.
I had a bathtub in my room (I prefer a walk-in shower) and my mattress was quite acceptable, not a really hard mattress like Thai hotels often have.
Again, I liked the hotel...
Read moreวัดพระบรมธาตุไชยา หรือชื่อเต็มว่าวัดพระบรมธาตุไชยา ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ในเขตตำบลเวียง อำเภอไชยา เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมเป็นวัดราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ โปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๑ มีนามว่า "วัดพระธาตุไชยา" และต่อมาได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เลื่อนฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และพระราชทานนามว่า "วัดพระบรมธาตุไชยา" เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ วัดพระบรมธาตุไชยาเป็นวัดโบราณไม่ปรากฎหลักฐานทางเอกสารแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด เดิมเคยปรักหักพังรกร้างมาระยะหนึ่ง จนกระทั่งได้มีการบูรณะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญคือ "พระบรมธาตุไชยา" พระบรมธาตุไชยาเป็นเจดีย์ทรงปราสาทเรือนธาตุมีฐานเป็นรูปกากบาท มีมุขทั้ง ๔ ด้าน สูงจากฐานถึงยอดประมาณ ๒๔ เมตร ตั้งอยู่บนฐานบัวลูกแก้วรูปสี่เหลี่ยม ตกแต่งด้วยเสาติดผนัง ขนาดทางด้านทิศตะวันนออกถึงทิศตะวันตก ยาว ๑๓ เมตร ขนาดทางด้านทิศเหนือถึงทิศใต้ ยาว ๑๘ เมตร ส่วนฐานอยู่ต่ำกว่าผิวดิน ปัจจุบันทางวัดได้ขุดบริเวณฐานโดยรอบกว้าง และลึกประมาณ ๑ เมตร เพื่อให้เห็นฐานเดิม ส่วนบนของบัวลูกแก้วสี่เหลี่ยม มีลักษณะเป็นฐานทักษิณ ที่มุมทั้ง ๔ ประดับด้วยสถูปจำลอง ตรงกลางฐานเป็นรูปบัวลูกแก้วอีกชั้นหนึ่งรองรับเรือนธาตุทรงจตุรมุข มุขด้านหน้าทางด้านทิศตะวันออก มีบันไดทางขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปภายในองค์เจดีย์ได้ ผนังเรือนธาตุก่ออิฐไม่สอปูน ลดหลั้นกันขึ้นไปถึงยอด มุขอีกสามด้านทึบ เหนือมุขเป็นซุ้มหน้าบันประดับลายปูนปั้น รูปวงโค้งคล้านเกือกม้าเรียกว่า กุฑุ เหนือเรือนธาตุมีลักษณะเป็นหลังคาซ้อนกันขึ้นไป ๓ ชั้น โดยการจำลองย่อส่วนอาคารเบื้องล่างลดหลั่นกันขึ้นไป แต่ละชั้นประดับด้วยสถูปจำลองที่มุมทั้งสี่ และตรงกลางด้านเหนือซุ้มหน้าปัน รวมจำนวนสถูปจำลองชั้นละ ๘ องค์ ทั้งหมด ๓ ชั้นเป็นจำนวน ๒๔ องค์ถัดขึ้นไปเป็นส่วนยอดซึ่งซ่อมแปลงครั้งใหญ่ในรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยขยายส่วนยอดให้สูงขึ้นเริ่มตั้งแต่บัวปากระฆัง ซึ่งเป็นดอกบัวบานขนาดใหญ่ องค์ระฆังเป็นรูปแปดเหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังก์ต่อด้วยฉัตรแปดเหลี่ยม ๕ ชั้น บัวกลุ่ม และปลียอดหุ้มทองคำ เหนือปลียอดประดับฉัตรหุ้มทองคำหนัก ๘๒ บาท ๓ สลึง ต่อมาถูกขโมยลักไป ทางวัดจึงจัดทำขึ้นใหม่ด้วยทองวิทยาศาสตร์ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นวัดที่สร้างมานานและเก่าแก่มาก จากหลักฐานน่าจะเป็นสมัยอาณาจักรสุวรรณภูมิเชื่อมต่อกับอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งได้รับเอาพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน และจากปรากฎหลักฐานของโบราณวัตถุ โบราณสถาน หรือศิลปวัตถุ ที่ยังปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ทราบว่าวัดวัดพระบรมธาตุไชยาเป็นวัดที่เก่าแก่ และผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานหลายยุคหลายสมัย โดยการรับเอาอารยธรรมของอาณาจักรต่าง ๆ มา ซึ่งสามารถสันนิฐานได้จากโบราณสถาน โบราณวัตถุที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมึีปรากฏอยู่หลายสมัย อันแสดงถึงความเจริญ และความเสื่อม...
Read more