Prasat Chang Pi — Attraction in Surin Province

Prasat Chang Pi (Arokayasala #12)

Location: Chang Pi, Sikhoraphum District, Surin Province.

GPS Coordinates (WGS84): N 14.929922, E 103.701750

Thai Name: “ปราสาทช่างปี่” Literal English translation: “Castle Clarinet”

Prasat Chang Pi was a Mahayana Buddhist monastery, constructed with laterite and sandstone in square planning face east, ca 13th century. The Prasat, consists of main temple, vihara, gallery, Gopura arch and water pond, was served as an “Arokayasala” hospital-one of 102 built throughout Khmer empire under the command of King Jayavarman VII (1181-1220) -as cited in Cambodia’s Prasat Ta Prohm Inscription regarding ceremonies hold at Prasat Chang Pi.

In 2010, Fine Arts Department renovated Prasat Chang Pi and discovered some artifacts which are reserved at Surin National Museum and Wat Ban Chang Pi. Refer to the attached photos (these were located on the Internet).

At present, the ceremonial celebration of Prasat Chang Pi (usually on the 1st April) is performed annually by the corporation between Surin Provincial Administrative Organization, Chang Pi Sub-district Administrative Organization and villagers for promoting the site as a tourist attraction and providing cultural learning opportunity. The ceremonies include procession of Phra Phaisatkuru Buddha, the Buddha positioned at Prasat Chang Pi, and merit making.

The photos were taken late afternoon just before heavy rain storm arrived, the photos clearly show storm clouds building on the horizon.

Given time the newer restored laterite blocks which can clearly been seen in the photos will "weather in" blending with the older...

"ปราสาทช่างปี่": มนต์ขลังแห่งปราสาทสามองค์และตำนานช่างปี่แห่งศีขรภูมิ หาก "ปราสาทศีขรภูมิ" คือมหาวิหารอันโอ่อ่าและเป็นที่รู้จัก การเดินทางมาเยือน "ปราสาทช่างปี่" ที่ตั้งอยู่ในตำบลช่างปี่ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ก็เปรียบเสมือนการค้นพบห้องแสดงงานศิลปะส่วนตัวที่งดงามและเปี่ยมด้วยมนต์ขลัง ที่นี่อาจไม่ได้มีขนาดใหญ่โต แต่กลับอัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะที่น่าทึ่ง พร้อมด้วยตำนานพื้นบ้านอันมีเสน่ห์ที่ผูกพันกับชื่อของปราสาทแห่งนี้

ในมุมมองของนักท่องเที่ยว | ความประทับใจแรกคือความเงียบสงบและบรรยากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ของชนบท ปราสาทช่างปี่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ทำให้รู้สึกเหมือนได้หลุดออกจากความวุ่นวายและก้าวสู่โลกอีกใบ ภาพของปราสาทอิฐสามหลังที่ตั้งเรียงกันอย่างสง่างามบนฐานศิลาแลงเดียวกัน ตัดกับสีเขียวของต้นไม้และท้องทุ่ง เป็นภาพที่งดงามจับใจ ที่นี่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ทำให้เรามีเวลาและสมาธิในการเดินชมความงามของปราสาทได้อย่างเต็มที่ การได้หยุดยืนพิจารณาลวดลายแกะสลักนับพันปีท่ามกลางเสียงลมที่พัดผ่านรวงข้าว คือประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน

ชื่อ "ช่างปี่" นั้นมาจากตำนานพื้นบ้านที่เล่าขานถึงการแข่งขันสร้างปราสาทระหว่าง "ช่างปี่" (ผู้สร้างปราสาทช่างปี่) และ "ช่างฆ้อง" (ผู้สร้างปราสาทบ้านสังข์) ซึ่งช่วยเพิ่มมิติทางวัฒนธรรมและความน่าสนใจให้กับการมาเยือนยิ่งขึ้น

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและอารยธรรม | ปราสาทช่างปี่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงวิชาการ และนี่คือสิ่งที่ผู้รักในศิลปะขอมโบราณไม่ควรพลาด

รูปแบบสถาปัตยกรรม | ปราสาทแห่งนี้ประกอบด้วยปรางค์ 3 หลัง ก่อด้วยอิฐ ตั้งเรียงกันในแนวทิศเหนือ-ใต้ บนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่เดียวกัน โดยทั้งหมดหันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในยุคศิลปะขอมแบบบาปวน เพื่ออุทิศถวายแด่พระศิวะ

ขุมทรัพย์แห่งทับหลัง | แม้ตัวปราสาทจะก่อด้วยอิฐ แต่ส่วนประกอบสำคัญอย่างทับหลังและเสาประดับกรอบประตูนั้นทำจากหินทรายและมีงานจำหลักที่งดงามอย่างยิ่ง

ทับหลังปรางค์องค์กลาง (องค์ประธาน) | เป็นภาพ "ศิวนาฏราช" หรือพระศิวะทรงฟ้อนรำอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข แม้จะมีการชำรุดไปบ้าง แต่ยังคงเห็นความอ่อนช้อยและพลังของการเคลื่อนไหวที่ช่างโบราณได้สลักเสลาเอาไว้

ทับหลังปรางค์องค์ทิศใต้ | งดงามและสมบูรณ์อย่างน่าทึ่ง เป็นภาพเล่าเรื่อง "พระกฤษณะยกภูเขาโควรรธนะ" เพื่อปกป้องเหล่าคนเลี้ยงวัว เป็นอีกหนึ่งทับหลังภาพกฤษณโควรรธนะที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง

ทับหลังปรางค์องค์ทิศเหนือ | เป็นที่น่าเสียดายว่าทับหลังชิ้นนี้ได้สูญหายไปแล้ว คงเหลือเพียงร่องรอยที่บอกเล่าถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต

บทสรุป ปราสาทช่างปี่ คือบทพิสูจน์ว่าคุณค่าของโบราณสถานไม่ได้วัดกันที่ขนาดเสมอไป ที่นี่คือแหล่งเรียนรู้ชั้นเยี่ยมที่พาเราไปสัมผัสกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมและสุดยอดฝีมือเชิงช่างของบรรพบุรุษ เป็นสถานที่ที่มอบทั้งความสงบทางใจสำหรับนักท่องเที่ยว และความอิ่มเอมทางปัญญาสำหรับนักประวัติศาสตร์ศิลปะ หากท่านได้มาเยือนอำเภอศีขรภูมิแล้ว ขอแนะนำให้เจียดเวลาเดินทางต่อมาอีกเล็กน้อย เพื่อมาค้นพบความงามที่ซ่อนเร้นของ "ปราสาทช่างปี่"...

ปราสาทช่างปี่ ตั้งอยู่ที่บ้านช่างปี่ ตำบลช่างปี่ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เป็นศาสนสถานในศาสนาพุทธ ลัทธิมหายาน ก่อด้วยศิลาแลง และหินทราย มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้าง ดังนี้

๑. ปราสาทประธาน ๒. วิหาร หรือ บรรณาลัย ๓. กำแพงแก้ว ๔. ประตูซุ้ม ๕. สระน้ำ

จากการขุดแต่ง พบโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น ประติมากรรมพระไภษัชคุรุไวทูรยะ พระศรีสุรยไวโรจนจันทโรจิ พระศรีจันทรไวโรจนโรหิณีศะ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระยม เป็นต้น

โบราณสถานแห่งนี้ เป็นอโรคยาศาล ( สถานพยาบาล ) แห่งหนึ่งในจำนวน ๑๐๒ แห่ง ที่สร้างขึ้นทั่วราชอาณาจักร เพื่อรักษาผู้เจ็บป่วย ตามพระบรมราชโองการของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ( พ.ศ. ๑๗๒๓ - ๑๗๖๑ ) แห่งอาณาจักรกัมพูชา

ปราสาทช่างปี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ และ เล่ม ๙๘ ตอนที่ ๑๐๔ วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๔ เนื้อที่ประมาณ ๔ ไร่ - งาน ๓๐ ตารางวา

Prasat Changpee is located at Baan Changpee, Tambon Changpee, Amphoe Sikhoraphum, Changwat Surin. It is a Mahayana Buddhist temple with a simple tower and a rectangular building set inside an enclosure. There is a square pond located to the northeast.

The temple or Arokayasala seved as a medical station built by order of King Jayaraman VII ( 1181 - 1218 ). During his reign, 102 medical stations were built...