Wat Bang Rak Noi — Attraction in Bang Rak Noi Subdistrict Administrative Organization

วัดโบราณ​ขนาดใหญ่​พอควร​ ที่ได้นามเช่นนี้เพราะเรียกตามชื่อหมู่บ้านที่ตั้งวัด​ ไม่ทราบ​ประวัติ​และ​นาม​ผู้สร้าง​ สร้างขึ้นเมื่อปลายสมัยรัชกาลที่​ 1​ แต่ก็มีเรื่องเล่าขานว่าเศรษฐี​มอญคนหนึ่ง​ ได้อพยพ​ตามสมเด็จ​พระ​เจ้า​ตากสิน​ มาตั้งถิ่นฐาน​บริเวณนี้​ และได้สร้างวัดไว้​ 3 แห่งคือ​ วัดบางรักใหญ่​สำหรับภรรยาหลวง​ วัดบางรักน้อยสำหรับภรรยาน้อย​ และวัดดาวดึง​ษ์​สำหรับตนเอง​ (ปัจจุบัน​ร้างไปแล้ว)​ วัดได้รับพระราชทาน​วิสุงคาม​สี​มา​และผูกพัทธสีมา​เมื่อต้นสมัยรัชกา​ลที่​ 3​ วัด​ตั้งอยู่​ริมคลองบางรักน้อยฝั่งใต้​ ในซอยบางรักน้อย​ 16 ถนนบ้านไทรม้า​ เข้าซอยลึกมาก​ หากเข้าซอยบางรักน้อย​ 9 ถนนราช​พฤกษ์​ เลี้ยวซ้ายหน้า​ อบต.บางรักน้อย​ เข้าซอยไปไม่ลึกวัด​จะอยู่​ซ้ายมือ​ เมื่อ​เข้าวัด​จะเห็น​พระอุโบสถ​ตั้ง​คู่กับพระ​วิหาร​ ทั้ง​ 2​ หลัง​เป็น​แบบ​ขนบ​เดิม​ มี​ช่อฟ้า​ใบระกา​หางหงส์​ หันหน้า​ไป​ทิศ​ตะวันออก​ หลังด้านชวามีขนาดใหญ่กว่าเป็นพระอุโบสถ​ หน้าบันมีลายพันธุ์​พฤกษา​ เสาสี่เหลี่ยม​หัวเสา​ไม่มี​บัว​ ประตู​และ​หน้าต่าง​เจาะ​ช่อง​เรียบ​ ไม่ได้​เปิด​ให้เข้า​ ใบเสมา​อยู่ใน​ซุ้ม​โค้ง​รูป​เสมา​ ​8​ ทิศ​ หลังด้านซ้ายเป็นพระวิหาร​ หน้าบันมีพระปางลีลา​ ไม่​ได้เปิด​ให้​เข้า​เช่นกัน​ ด้านหน้านอกกำแพงแก้ว​ ซ้ายมือมีมณฑป​ยอดโค้งมุงกระเบื้อง​ มีระเบียงรอบ​ น่าจะประดิษฐาน​รอยพระบาท​จำลอง​ ขวามือมีเจดีย์​ย่อมุม​ไม้​สิบสอง​สีทอง​ ถัดเข้าไปมีศาลาศาลาเป็นที่ถวาย​สังฆทาน​ ข้างหน้ามีพระปางอุ้มบาตร​ 2 ข้างมีเทวรูปข้างละ​ 2 องค์​ ในศาลามีพระพุทธ​รูป​ทรงเครื่อง​เป็นพระประธาน​ มี​พระ​พุทธ​รูปทรงเครื่องยืน​ 2 ข้าง​ ข้างหลังมีพระพุทธ​ชินราช​จำลอง​ 2 ข้าง​ด้านหน้าข้างขวามี​ พระ​พุทธ​มิ่งมงคลพิทักษ์​ราษฎร์​ หรือหลวงพ่อ​ใหญ่​ พระปางมารวิชัย​ขนาดใหญ่สีทอง​ ประดิษฐาน​อยู่​กลางแจ้ง​ หันหน้า​ไป​ทางทิศ​ใต้ ด้านหน้ามีศาลาขนาดใหญ่​ มีพระพุทธ​รูป​ทรงเครื่อง​ประทับห้อยพระบาทเป็นพระประธาน​ 2 ข้างมีพระปางสมาธิ​ ฝั่งตรงข้ามลานจอดรถมีพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวร​ประทับ​ สมเด็จพระเจ้า​ตากสินทรงม้า​ และรัชกาลที่​ 5 ทรงยืน​ เมื่อเดือนก่อนผมได้มาไหว้พระ​ 9 วัดแถบบางกร่าง​ วันนี้ผ​มมา​ไหว้พระ​ต่อแถบไทรม้า​ เริ่มจากวัดไทรม้าเหนือ​ วัดไทรม้าใต้​ วัดบางนา​ และวัดเพลง​ ก่อนมาวัดบางรักน้อย​...

บริเวณวัดมีพระพุทธรูปจำนวนมากในส่วนพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆภายในวัด จะมีหนังสือจีนกำกับร่วมกับหนังสือไทยจึงทำให้คิดว่าน่าจะมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นชาวจีนและชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีนจำนวนมาก วันที่ไปฝนลงเม็ดเลยทำให้ไม่สามารถถ่ายรูปได้ทั่วถึง และพุทธรูปต่างๆภายในวัดยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อยทั้งหมด

วัดบางรักน้อย เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 3 บ้านบางรักน้อย ตำบลบางรักน้อย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

วัดบางรักน้อยสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2351 ไม่ทราบนามและประวัติผู้สร้าง ที่ได้นามเช่นนี้เพราะเรียกขานกันตามชื่อหมู่บ้านที่ตั้งวัด แต่ก็มีเรื่องเล่าขานว่า เศรษฐีชาวมอญคนหนึ่งได้อพยพตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้และได้สร้างวัดไว้ 3 แห่ง คือ วัดบางรักใหญ่สำหรับเมียหลวงของตัวเอง วัดบางรักน้อยสำหรับเมียน้อยของตัวเอง และวัดดาวดึงษ์สำหรับตัวเอง (ปัจจุบันร้างไปแล้ว)

อาคารเสนาสนะสำคัญได้แก่ อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2361 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน กุฏิสงฆ์ เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้และอาคารคอนกรีต และวิหาร ส่วนปูชนียวัตถุมีพระพุทธรูปศิลาแลงปางมารวิชัยในอุโบสถ นามว่า หลวงพ่อมงคลเทพนิมิตร พระพุทธรูปปางต่าง ๆ จำนวน 9 องค์อยู่ที่วิหาร หลวงพ่อหิน พระพุทธรูปศิลาแลงปางสะดุ้งมารในวิหาร พระพุทธมิ่งมงคลพิทักษ์ราษฎร์ หรือ หลวงพ่อใหญ่ ประดิษฐานอยู่กลางลานวัด นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพ่อปู่ฤๅษี รูปปั้นเทพเจ้า พระพิฆเณศวร์ ท้าวจตุคามรามเทพ เจ้าแม่กวนอิม และอื่น ๆ

วัตถุมงคลที่นิยมมากของวัดบางรักน้อยได้แก่ พระยอดธงและพระปิดตาเนื้อใบลาน แตกกรุจากเจดีย์เก่าภายในวัด สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระปิดตาเนื้อเมฆพัดของหลวงปู่อ่วม (อดีตเจ้าอาวาส) ตะกรุด และเหรียญ 5 เหลี่ยมหลวงพ่อหิน สร้างสมัยหลวงปู่ปลั่ง (อดีตเจ้าอาวาส) โดดเด่นมากเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย นอกจากนั้น พระครูกิตติวราภิรักษ์ (พรชัย อภินนฺโท หรือพระอาจารย์เปี๊ยก เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน) ได้สร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลจนโด่งดัง เป็นต้นตำรับตะกรุดฝักข้าวโพด เบี้ยแก้ ตะกรุด ปลัดขิก เหรียญ...

วัดบางรักน้อย ตั้งอยู่ในตำบลบางรักน้อย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2351 วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเกี่ยวข้องกับชุมชนชาวมอญที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี

ตามเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมา มีเศรษฐีชาวมอญผู้หนึ่งที่อพยพตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้สร้างวัดไว้ 3 แห่ง ได้แก่ วัดบางรักใหญ่ ซึ่งสร้างให้ภรรยาหลวง, วัดบางรักน้อย ซึ่งสร้างให้ภรรยาน้อย และ วัดดาวดึงษ์ ซึ่งสร้างไว้สำหรับตนเอง ปัจจุบันวัดดาวดึงษ์ได้ร้างไปแล้ว เหลือเพียงวัดบางรักใหญ่และวัดบางรักน้อยที่ยังคงอยู่

สิ่งศักดิ์สิทธิ์และปูชนียวัตถุสำคัญภายในวัด ได้แก่ หลวงพ่อมงคลเทพนิมิตร พระพุทธรูปศิลาแลงปางมารวิชัย ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และ หลวงพ่อหิน พระพุทธรูปศิลาแลงปางสะดุ้งมาร ซึ่งอยู่ภายในวิหาร นอกจากนี้ วิหารยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ จำนวน 9 องค์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้าน

วัดบางรักน้อยยังเป็นที่รู้จักในด้าน วัตถุมงคล ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะพระยอดธงและพระปิดตาเนื้อใบลาน ซึ่งแตกกรุจากเจดีย์เก่าภายในวัด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ ยังมีพระปิดตาเนื้อเมฆพัดของ หลวงปู่อ่วม อดีตเจ้าอาวาส รวมถึง ตะกรุด และเหรียญ 5 เหลี่ยมหลวงพ่อหิน ที่สร้างขึ้นในสมัย หลวงปู่ปลั่ง อดีตเจ้าอาวาสเช่นกัน ซึ่งวัตถุมงคลเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านคงกระพัน แคล้วคลาด และปลอดภัย

นอกจากจะเป็นสถานที่ทางศาสนาแล้ว วัดบางรักน้อยยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมไทย รวมถึงผู้ที่ต้องการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล...