Located not far from Phra Pathom Chedi, this is a large temple with multiple entrances and exits. It is home to an important ancient site from the Dvaravati period called ‘Noen Phra Ngam.’ This site is used as the path where monks walk down during the traditional ‘Khao Lam’ alms-giving ceremony. It creates a beautiful scene that serves as a highlight during major Buddhist holy days such as Makha Bucha, Visakha Bucha, and Asalha Bucha. The event helps promote the local culture of making Khao Lam (sticky rice in bamboo) and supports tourism in the province.
If you walk up to the top of Noen Phra Ngam, you can enjoy a view of the province’s...
Read moreวัดพระงาม ตั้งอยู่เลขที่ 45 ถนนหน้าโรงไฟฟ้า ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่เลขที่ 45 ถนนหน้าโรงไฟฟ้า ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 44 ไร่ 48 ตารางวา สถานที่ตั้งของวัดอยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 500 เมตร ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2505 ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประวัติความเป็นมา เดิมวัดพระงามเป็นวัดราษฎร๋์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดพระงามเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2539 ภายในวัดมีซากเจดีย์ขนาดใหญ่ที่คาดว่าเป็นเจดีย์ที่สร้างสมัยทวาราวดีในศตวรรษที่ 11 หรือ 12 ถึงศตวรรษที่ 16 เช่นเดียวกับองค์พระปฐมเจดีย์ พระปรางค์วัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร และที่วัดทุ่งพระเมรุที่บริเวณสวนอนันต์ เมื่อครั้งที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้าเสด็จเยี่ยมวัดต่าง ๆ ได้ทรงปรารภว่าวัดพระงามน่าจะ สร้างขึ้นในสมัยเดียวกับเมืองนครปฐมเป็นราชธานี ชื่อ ทวารวดี เพราะมีโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบในบริเวณนี้ล้วนแต่เป็นของเก่าสมัยทวารวดีทั้งสิ้น เช่นเดียวกับที่ขุดได้บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ พระพิมพ์ดินเผา เฉพาะที่ขุดได้ในบริเวณนี้จัดว่างดงามมาก ยากที่จะหาที่อื่น เสมอเหมือน ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ...
Read moreวัดพระงาม เดิมเป็นวัดราษฎร์ ภายในวัดมีซากเจดีย์ขนาดใหญ่ที่คาดว่าเป็นเจดีย์ที่สร้างสมัย ทวารวดี เช่นเดียวกับองค์พระปฐมเจดีย์ สภาพวัดได้รกร้างไปตามสภาพของบ้านเมือง จนสมัยรัชกาลที่ ๔ พระองค์ได้ให้ช่างมาบูรณปฏิสังขรณ์ องค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องจากเมื่อครั้งที่พระองค์ทรงผนวชอยู่ได้เสด็จธุดงค์มานมัสการและปักกลดด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์ ได้ทอดพระเนตรเห็นแสงสว่างเป็นนิมิตมหัศจรรย์ที่องค์พระปฐมเจดีย์องค์เดิม ทรงมั่นพระทัยว่าเจดีย์องค์นี้เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงให้ทรงปรับปรุงองค์พระปฐมเจดีย์เป็นรมณียสถาน หลังจากนั้นประมาณ ๕๒ ปี มีพระภิกษุ ๒ รูป จากวัดพระปฐมเจดีย์ได้มาจำพรรษาที่ วัดพระงามซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้าง จึงได้แผ้วถางที่รกร้าง พบกุฏิโบราณ วิหารบนเนินดิน มีพระพุทธรูปเก่าและซากเจดีย์ใหญ่หักอยู่ ท่านทั้ง ๒ ได้ช่วยกันพัฒนาวัดให้สะอาดเรียบร้อยสร้างกุฏิหลังเล็กหลังคามุงแฝก ชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาจึงให้การสนับสนุนสร้างกุฏิให้มั่นคงและสร้างอุโบสถ ได้รับพระราชวิสุงคามสีมาว่า วัดโสภาพุทธราม แต่ไม่นิยมเรียกกัน ครั้งเมื่อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงสำรวจวัดและทรงเรียกว่า วัดพระงาม ซึ่งน่าจะมาจากสาเหตุที่ค้นพบเครื่องดินเผาที่เป็นเศียรพระพุทธรูปที่งดงามได้ที่วัด...
Read more