Museum medicine Abhaibhubejhr Thailand is located on Prachin Anusorn rd., nearby Bang Prakong River, Tambon Tha Ngam, Amphoe Mueang Prachin Buri, Chang Wat Prachin Buri, approximately 2.9 kilometers from Provincial Admiration Building. In A.D. 1909, Chao Phraya Abhaibhubejhr ( nicknam “ Chum Abhaiwong “ ) had This European Baroque architecture style built for the purpose of receiving King Rama 5 ‘s state visit, unfortunately he passed away before the objective fulfilled, this building was used for receiving the King Rama 6 ‘s state visit including other royal family instead. After Chao Phraya Abhaibhubejhr passed away, this building inherited to Princess Suwandhana who bestowed all property ( building including land surrounded ) to the 2 nd army in the are for military hospital and services for public, finally the ownership of all properties fell to the government sector, meanwhile the hospital ‘s name changed to Abhaibhubejhr hospital.In A.D. 1969, this building served as hospital and administrative building, occasionally used for meetings and seminars. In A.D. 1990, the Fine Art Department registered this building to be national historic. From A.D. 1994 until present day, this building was used for the “ Herbal Medicine Museum “ for research, study and gathering Thai ( traditional ) medicine, local medicine and sharing knowledge broadly. For exhibition purposes, this building consist of 13 halls details as followed: 1. Introducing Abhaibhubejhr Traditional Thai Medicine, 2. History Hall, 3. Royal Reception Hall, 4. Thai Herbal Medicine Room, 5. History of Prachin Buri province, 6. Agar wood Room, 7. Royal Doctor Room ( Muen Chamnan Pat ), 8. Medicinal Texts, 9. History of Abhaibhubejhr Herbal Medicine Development, 10. History of Abhaibhubejhr hospital, 11. Central Hall, 12. Meeting Room, 13. Multi-purpose Room. Nowadays, the products of herbal and traditional medicine are enormous circulation in the market, because of there is no toxic for health, people admire to...
Read moreพิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตึกสไตล์บารอคเปี่ยมมนต์ขลัง คลังความรู้แพทย์แผนไทย อาคารสีเหลืองสดใสสไตล์บารอคริมแม่น้ำปราจีนบุรี ยังคงเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวยังคงแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนจังหวัดปราจีนบุรีอยู่เนืองๆ ถึงแม้ว่าตัวอาคารจะมีอายุมากกว่า 100 ปีแล้วก็ตาม แต่เสน่ห์ของตึกสวยหลังนี้ยังคงมีมนต์ขลัง ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของสมุนไพรไทย และเข้มขลังไปด้วยวิชาการแพทย์แผนไทยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
จากความตั้งใจเดิมของ “เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่มอภัยวงศ์)” ที่ใช้ทรัพย์สินส่วนตัวสร้างตึกหลังนี้เพื่อใช้เป็นที่ประทับรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราวเสด็จประพาสเมืองปราจีน แต่ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาจึงใช้เพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวและเชื้อพระวงศ์อีกหลายพระองค์ จนเมื่อปี พ.ศ. 2482 อาคารหลังนี้ก็ได้ถูกมอบให้ทางราชการใช้เป็นอาคารพักผู้ป่วยที่นับว่าสวยงามที่สุด และได้รับการบูรณะปรับเปลี่ยนการใช้งานอาคารอยู่หลายครั้งจนมาถึงการจัดให้ “ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” หลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร เราเชื่อว่าถ้าใครได้เห็นตึกหลังนี้ด้วยตาตัวเองซักครั้งก็คงจะต้องทึ่งกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุโรปแบบบารอค ทั้งลวดลายปูนปั้นประดับซุ้มประตู หน้าต่าง ไปจนถึงการตกแต่งภายในที่ยังคงรูปแบบเดิมไว้ทุกกระเบียด ไม่ว่าจะเป็นลวดลายกระเบื้องปูพื้นที่แต่ละห้องก็จะมีลวดลายต่างกันออกไป เช่นเดียวกันกับลวดลายของภาพเขียนสีปูนเปียกบนเพดานห้อง ซึ่งในสมัยนั้นนับว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยกับการสร้างอาคารหลังใหญ่ในรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป เพราะตั้งแต่การเขียนแบบอาคารที่ว่าจ้างสถาปนิกชาวต่างชาติมาคุมงาน ไปจนถึงวัสดุตกแต่งภายในตัวอาคารที่สั่งเข้ามาจากยุโรป แต่ใช้ช่างฝีมือชาวไทยในการก่อสร้าง กว่าจะแล้วเสร็จก็กินเวลาอยู่หลายปีเลยทีเดียว
ปัจจุบันอาคารหลังนี้เปรีบเสมือนคลังความรู้ของวงการแพทย์แผนไทย เพราะนอกจากจะมีส่วนจัดแสดงถึงประวัติความเป็นมาของ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) แล้ว ที่นี่ยังได้รวบรวมนานาสาระเรื่องราวเกี่ยวกับสมุนไพร ตั้งแต่การอนุรักษ์ตำราการแพทย์แผนไทย ตำรายาสมุนไพรโบราณ การแพทย์พื้นบ้าน ไปจนถึงเครื่องไม้เครื่องใช้เก่าแก่ในการทำยาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5และเมื่อเดินเข้ามาในส่วนปีกขวาถัดจากห้องโถงใหญ่ ซึ่งถูกจัดให้เป็น “ร้านยาไทยต้นแบบโพธิ์เงิน-อภัยภูเบศรโอสถ” ร้านขายยาของโรงพยาบาลที่ยังคงกลิ่นอายของร้านขายยาโบราณไว้อย่างชัดเจน ทั้งตู้ยาโบราณที่ได้รับบริจาคมาจากร้านโพธิ์เงินโอสถ เคาน์เตอร์จ่ายยา ตู้ยาสมุนไพร โหลดองยา และตัวอย่างสมุนไพรอีกนับไม่ถ้วน ทั้งที่นำมาแปรรูปแล้ว และที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมอยู่ ซึ่งร้านยาแห่งนี้ยังคงเป็นสถานที่ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำการใช้ยาสมุนไพร และการจ่ายยาลูกกลอน ยาต้ม ยาสมุนไพรแคปซูล โดยมีแพทย์เฉพาะทางดูแลอย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรรักษา หรือมีอาการเจ็บป่วยอย่างไรก็สามารถสอบถามกันได้ รับรองว่าได้รับความรู้กันไปแบบเต็มๆ เลยทีเดียว หลังจากได้ดูตัวอย่างสมุนไพรที่อยู่ในโหล หรือที่นำมาแปรรูปกันไปแล้ว เราเดินออกไปทางด้านหลังตึกซึ่งถูกจัดเป็นสวนสวยในสไตล์ยุโรป แต่บรรดาต้นไม้ทั้งหมดเป็นพืชสมุนไพรไทยที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ทุกชนิด
ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนั้น เดิมเป็นตึกอำนวยการ มีการดัดแปลงทำชั้นล่างเป็นห้องตรวจโรค ห้องจำหน่ายยา และห้องผ่าตัด ชั้นบนทำหน้าที่รับคนไข้หญิง ตึกได้ถูกใช้งานเป็นโรงพยาบาลจนถึงปี พ.ศ.2512 หลังจากที่ตึกอำนวยการในปัจจุบันได้ก่อสร้างเสร็จ โรงพยาบาลจะใช้ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรในการประชุมสัมมนาในบางกรณี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2533 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโบราณสถาน และได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคาร จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
ปี พ.ศ.2537 โรงพยาบาลจึงจัดทำโครงการพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทย เพื่อให้เป็นแหล่งการศึกษา ค้นคว้า อ้างอิงรวบรวมการอนุรักษ์ตำรายาไทย การแพทย์ไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งมีการดำเนินการเผยแพร่ความรู้ดังกล่าวให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากนายแพทย์ไพโรจน์ นิงสานนท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้มีการจัดตั้งมูลนิธิหมื่นชำนาญแพทยา(พลอย แพทยานนท์)
การจัดแสดงนิทรรศการถาวร แบ่งเป็นห้องต่างๆ จำนวน 13 ห้อง ประกอบด้วย ห้องแนะนำการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ห้องประวัติศาสตร์ ห้องท้องพระโรง ห้องการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร ห้องปูมเมืองปราจีนบุรี ห้องไม้กฤษณา ห้องหมอหลวง(หมื่นชำนาญแพทย์) ห้องเก็บตำรา ห้องประวัติการพัฒนาสมุนไพรอภัยภูเบศร ห้องประวัติ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ห้องโถงกลาง ห้องประชุม ห้องเอนกประสงค์
Credits: thetrippacker.com,...
Read moreพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร: สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสุขภาพ
ตึกสไตล์บารอค เปี่ยมมนต์ขลัง คลังความรู้ด้านสมุนไพรไทย
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสุขภาพที่ตั้งอยู่ใน โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทย แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันงดงาม เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปเยือนอย่างยิ่ง
ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2452 โดย เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ตึกนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อเสด็จประพาสจังหวัดปราจีนบุรี แต่หลังจากที่รัชกาลที่ 5 สวรรคต ตึกนี้ก็ถูกใช้เป็นที่ประทับแรมของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) และพระบรมวงศานุวงศ์อื่นๆ ต่อมา ตึกนี้ได้ถูกมอบให้กับ มณฑลทหารบกที่ 2 และถูกเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลในที่สุด
ในปี พ.ศ. 2533 ตึกนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร และได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร
ในปี พ.ศ. 2537 โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้จัดตั้ง พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทยและการแพทย์แผนไทย พิพิธภัณฑ์นี้เปิดให้เข้าชมฟรี และยังมีร้านขายยาสมุนไพรไทยชื่อ "โพธิ์เงินโอสถ" ที่จำหน่ายสมุนไพรหลากหลายชนิด รวมถึงบริการนวดแผนไทยอีกด้วย
การเยี่ยมชมภายในพิพิธภัณฑ์ เมื่อเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ คุณจะพบกับ ตึกสีเหลืองสไตล์บารอค ที่งดงามตระการตา ด้านหน้าตึกมีรูปปั้นของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพร ภายในอาคารชั้นล่างเป็นห้องโถงรับแขก และมีประวัติของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรและรัชกาลที่ 5 ให้ศึกษา
ด้านขวามือคือร้านขายยาสมุนไพรไทย "โพธิ์เงินโอสถ" ที่จำหน่ายสมุนไพรหลากหลายชนิด ทั้งสมุนไพรแก่นไม้สำหรับดื่มและสมุนไพรแคปซูล ส่วนภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีสมุนไพรไทยที่ถูกเก็บไว้ในโถแก้ว พร้อมสรรพคุณให้ผู้คนได้ศึกษา
เมื่อขึ้นไปชั้นบน คุณจะพบกับเครื่องมือและเครื่องใช้โบราณที่ใช้ในการทำยาสมุนไพรในสมัยก่อน นับเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องสมุนไพรไทย
ความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศรไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทย แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์นี้สร้างขึ้นในสไตล์บารอคของยุโรป ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่หาชมได้ยากในประเทศไทย
นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ยังมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์และพัฒนาตำรายาไทย โดยมีการแลกเปลี่ยนสูตรยาระหว่างกัน และนำสูตรยาเหล่านั้นมาศึกษาและพัฒนาให้เป็นยาสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพ
ข้อมูลการเข้าชม เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08.30 - 16.00 น. ค่าเข้าชม: ฟรี ที่ตั้ง: โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
สรุป พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การไปเยือน ไม่เพียงแต่เพื่อชมความงามของสถาปัตยกรรม แต่ยังเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทยและประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่ หากคุณมีโอกาสแวะเวียนมาที่จังหวัดปราจีนบุรี อย่าลืมแวะมาที่นี่เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
#พิพิธภัณฑ์อภัยภูเบศร #สมุนไพรไทย #การแพทย์แผนไทย #ปราจีนบุรี #ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ #สถาปัตยกรรมบารอค #เรียนรู้ประวัติศาสตร์ #ยาสมุนไพรไทย #โพธิ์เงินโอสถ...
Read more