มากราบไหว้พระประธานในโบสถ์ พระพุทธรูปสวยสดงดงาม และกราบไหว้อนุสรณ์พระครูวิธุรสุตาคม (หลวงพ่อก๋ำ คงคสุวณโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดประตูสาร (จากภาพ รูปเหมือนทางซ้ายและขวาคือ อดีตเจ้าอาวาสวัดประตูสารเช่นกัน ซ้ายมือคือ หลวงปู่พระอุปัชฌาย์ดี ขวามือคือพระครูวิบูลย์เมธาจารย์หรือหลวงปู่ภู ส่วนมุมอาคารทางซ้ายคือ หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ และมุมอาคารด้านขวาคือ หลวงพ่อทอง) ไปมาวันที่ 12/1/68 ส่วนประวัติก็ตามนี้ครับ
วัดประตูสารเป็นวัดเก่าที่ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า สร้างขึ้นเมื่อใด มีเพียงเอกสารของทางวัดที่กรมศาสนารับรองระบุว่า วัดนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ.2223 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ.2280 (ตรงกับสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา) แต่กลับไม่พบร่องรอยศิลปกรรมภายในวัดที่มีอายุเก่าถึงช่วงเวลานั้น วัดนี้มาปรากฏหลักฐานชัดเจนในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อครั้งสุนทรภู่เดินทางมายังเมืองสุพรรณบุรีในปี พ.ศ.2379 และได้กล่าวถึงชื่อวัดประตูสารไว้ในโคลงนิราศสุพรรณโดยมีใจความว่า “ฝั่งซ้ายฝ่ายฟากโพ้น พิสดาร มีวัดพระรูปบูราณ ท่านสร้าง ที่ถัดวัดประตูสาร สงสู่ อยู่เอย หย่อมย้านบ้านขุนช้าง ชิดข้างสวนบัลลังฯ”
หลวงปู่ก๋ำ นามเดิม ก๋ำ สุวรรณเนตร ชาตะ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2423 ณ บ้านช้าง วัดประตูสาร ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2444 ณ วัดประตูสาร โดยมี หลวงพ่อดี เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่วัดประตูสารเป็นเวลา 7 พรรษา ปรากฏว่าโยมพี่เขยป่วย จึงต้องลาสิกขามาช่วยดูแลกระทั่งหายดี จึงอุปสมบทอีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2454 ณ พัทธสีมาวัดประตูสาร โดยมีหลวงพ่อภูเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “คงฺสุวณฺโณ” และจำพรรษาอยู่วัดประตูสารนับแต่นั้นมา ท่านเป็นศิษย์ในหลวงพ่อดีและหลวงพ่อภู วัดประตูสาร ซึ่งมีศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกัน อาทิ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, หลวงพ่อสอน วัดป่าเลไลยก์, หลวงพ่อโพธิ์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ, หลวงพ่อหรุ่น วัดเสาธงทอง, หลวงพ่อหรุ่น พุทธสโร วัดช้างเผือก(จ.สมุทรสงคราม), หลวงปู่หงส์ วัดภคินีนาถ(กรุงเทพฯ) ท่านให้ความสำคัญด้านการศึกษาเป็นพิเศษ มีความชำนาญด้านบทสวด คาถา สวดมนต์เสียงทุ้มใหญ่ สมเด็จพระสังฆราชตรัสชมว่าดังกังวานสดใสดี ชาวบ้านนับถือยำเกรงมาก เชื่อว่าท่านมีวาจาสิทธิ์ ถ้าพูดว่าดี ก็จะดี ถ้าพูดว่าไม่ดี ก็จะไม่ดี เป็นไปตามคำพูดท่านเสมอ
ท่านมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2505 สิริอายุ...
Read moreวัดประตูสาร จากอดีตเท่าที่ผมพอจะลำดับเหตการเรื่องราวสมัย หลวงปู่กํ๋าท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมอายุประมาณ7-8 ปี สมัยนั้นชาวบ้านจากวัดป่า บ้านคันคู (ปัจจุบันนี้เรียกคูเมือง) วัดแค. วัดพระธาตุ (เรียกชื่อเต็มวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ )จะเดินทางมาตลาดเทศบาลเมืองต้องมาข้ามเรือจ้างที่ท่านํ้าหน้าวัดประตูสาร บ้างก็นำผัก ผลไม้ กุ้ง หอย ปู ปลา เพื่อมาจำหน่ายที่ตลาด บางคนก็ข้ามไปซื้อ. ทำให้บรรยากาศสมัยนั้นดูคึกคักเจริญรุ่งเรืองผู้คนสัญจรไปมา คบหารู้จักกันเป็นอย่างดี. สมัยก่อนชาวบ้านยังไม่ค่อยจะมีรถใช้เหมือนสมัยนี้ มีงานนมัสการหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์ ชาวบ้านที่เดินทางมาจากฝั่งตลาดก็จะมาข้ามเรือขึ้นทางฝั่งวัดประตูสาร และที่วัดประตูสารชาวบ้านจะรวมตัวกันมาหุงหาอาหารให้กับผู้ที่จะเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อโต. เพื่อเป็นทานให้กับชาวบ้านที่เดินทางผ่านมารวมทั้งชาวบ้านวัดประตูสารก็ได้รับทานอาหาร ที่ทั้งอิ่ม อร่อย ผมเป็นเด็กสมัยนั้นก็พลอยได้อิ่มท้องไปด้วยครับ ผมเคยได้รับพรจากหลวงปู่กํ๋าสมัยเป็นเด็กนักเรียน เวลาโรงเรียนเลิกเรียนประมาณบ่าย สามโมงนักเรียนเดินทางกลับบ้านจะต้องเดินผ่านสะพานข้ามคลองแล้วผ่านหน้ากุฏิหลวงปู่ พวกเราเดินมาเป็นแถวพบหลวงปู่ท่านนั่งอยู่ทุกคนก็เข้าไปกราบแล้วท่านก็ให้ศีลให้พรกับพวกเราด้วยความยิ้มแย้มว่า เออ เจริญ...
Read moreวัดประตูสาร วันที่ไปโบสถ์ไม่เปิดน่าเสียดายมาก เพราะมีภาพกิจกรรมฝาผนังที่สวยมาก เปิดแต่ศาลาอดีตพระเกจิและเจ้าอาวาสของวัดประตูสาร เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี ในตำบลท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มาของชื่อ "ประตูสาร" ในอดีตพื้นที่เหนือวัดประตูสารขึ้นไปประมาณ 100 เมตรเศษเป็นคู เคยเป็นเพนียดคล้องช้างแต่โบราณ คาดว่าเป็นเพนียดคล้องช้างสมัยอู่ทอง จนล่วงเข้ามาอยู่สมัยอยุธยา เมื่อควาญช้างไปไล่ต้อนช้างจากป่าสูงเข้ามาเพนียด ควาญช้างจะค่อย ๆ คัดเลือกช้างที่มีลักษณะดีไว้ใช้งาน หรือเพื่อเป็นช้างศึกต่อไป ประตูสาร จึงหมายถึงประตูของช้าง วัดประตูสารสร้างราว พ.ศ. พ.ศ. 2223 (หลักฐานไม่แน่ชัด) สุนทรภู่ได้แต่งนิราศสุพรรณโดยกล่าวถึงวัดประตูสาร ในอดีตศาลาของวัดเคยใช้เป็นศาลตัดสินคดีความ พอตัดสินเสร็จ...
Read more