พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) พระยาสุรินทร์ภักดี ฯ (ปุม) เจ้าเมืองประทายสมันต์ (เมืองสุรินทร์) ท่านแรก เป็นผู้วางรากฐานการก่อตั้งเมืองสุรินทร์ ในสมัยอยุธยา มีชาวไทยพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งที่เรียกตนเองว่าส่วยหรือกวยกรือกูย เป็นกลุ่มชนที่มีความรู้ความสามารถในการจับช้างป่ามาเลี้ยงไว้ใช้งาน ได้แบ่งกลุ่มมาตั้งถิ่นฐานอยู่หกพวกด้วยกัน ในเขตจังหวัดสุรินทร์ ต่อมาในปี พ.ศ.2302 มีช้างเผือกแตกโขงออกจากเมืองหลวงหนีเข้าป่า สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (สมเด็จพระที่นั่งสุริยามรินทร์) แห่งกรุงศรีอยุธยาได้โปรดเกล้า ฯ ให้ติดตามช้างเผือก เชียงปุมซึ่งเป็นหัวหน้าชาวส่วยที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านเมืองที่ได้ช่วยเหลือในการติดตามช้างเผือก เชียงปุมจึงได้โปรดเกล้า ฯ ให้เป็นหลวงสุรินทรภักดี ให้ปกครองหมู่บ้านเดิมขึ้นตรงต่อเมืองพิมาย
ในปี พ.ศ. 2306 หลวงสุรินทรภักดี (เชียงปุม) ได้ย้ายจากหมู่บ้านเมืองที่ไปอยู่ที่บ้านคูประทายหรือบ้านประทายสมันต์ ต่อมาหลวงสุรินทรภักดี (เชียงชุม) ได้เป็นพระสุรินทรภักดีศรีรณรงค์จางวาง และยกบ้านคูประทายขึ้นเป็นเมืองประทายสมันต์
พ.ศ. 2324 เมืองเขมรเกิดจลาจล เมืองประทายสมันต์ได้สมทบกับกองทัพหลวงไปช่วยปราบปราม จึงมีชาวเขมรอพยพครอบครัวมาตั้งอยู่ในเขตเมืองประทายสมันต์เป็นจำนวนมาก
พ.ศ.2329 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้โปรดเกล้า ฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองประทายสมันต์เป็นเมืองสุรินทร์ ตามสร้อยบรรดาศักดิ์ของเจ้าเมือง
พ.ศ.2337 พระยาสุรินทรภักดี ฯ (เชียงปุม) เจ้าเมืองสุรินทร์ถึงแก่กรรม สิ่งที่น่าสนใจศึกษาและเรียนรู้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2527 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงผู้สร้างเมืองคนแรก ซึ่งเป็น บุคคลสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของเมืองสุรินทร์ อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่ที่ทางเข้าเมืองสุรินทร์0ทางด้านใต้ตรงหลักกิโลเมตรที่ 0 ถนน สุรินทร์-ปราสาท เป็นบริเวณที่เคยเป็นกำแพงเมืองชั้นในของตัวเมืองสุรินทร์ อนุสาวรีย์เป็นรูปหล่อทองเหลืองรมดำ สูง 2.2 เมตร มือขวา ถือของ้าว อันเป็นการแสดงถึงความเก่งกล้าสามารถ ของท่านในการบังคับช้างศึกและเป็นเครื่องแสดงว่าสุรินทร์ เป็นเมืองช้างมาแต่ดึกดำ บรรพ์รูปปั้นสะพายดาบคู่ อยู่บนหลังอันหมายถึงความเป็นนักรบความกล้าหาญ อันเป็นคุณสมบัติที่ตกทอดเป็นมรดกของคนสุรินทร์ใน ปัจจุบัน จังหวัดสุรินทร์ได้ทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์แห่งนี้เมื่อวันที่...
Read moreเป็นสถานที่ ที่เชื่อว่าใครมาเยือนสุรินทร์จะต้องมีรูปอนุสาวรีย์เก็บไว้เป็นแน่ พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) พระยาสุรินทร์ภักดี ฯ (ปุม) เจ้าเมืองประทายสมันต์ (เมืองสุรินทร์) ท่านแรก เป็นผู้วางรากฐานการก่อตั้งเมืองสุรินทร์ ใน สมัยอยุธยา มีชาวไทยพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งที่เรียกตนเองว่าส่วยหรือกวยกรือกูย เป็นกลุ่มชนที่มีความรู้ความสามารถในการจับช้างป่ามาเลี้ยงไว้ใช้งาน ได้แบ่งกลุ่มมาตั้งถิ่นฐานอยู่หกพวกด้วยกัน ในเขตจังหวัดสุรินทร์ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๓๐๒ มีช้างเผือกแตกโขงออกจากเมืองหลวงหนีเข้าป่า สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ (สมเด็จ พระที่นั่งสุริยามรินทร์) แห่งกรุงศรีอยุธยาได้โปรดเกล้า ฯ ให้ติดตามช้างเผือก เชียงปุมซึ่งเป็นหัวหน้าชาวส่วยที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านเมืองที่ได้ช่วย เหลือในการติดตามช้างเผือก เชียงปุมจึงได้โปรดเกล้า ฯ ให้เป็นหลวงสุรินทรภักดี ให้ปกครองหมู่บ้านเดิมขึ้นตรงต่อเมืองพิมาย อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2511 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงผู้สร้างเมืองท่านแรก ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของเมืองสุรินทร์ อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ทางเข้าเมืองสุรินทร์ทางด้านใต้ เดิมเคยเป็นกำแพงเมืองชั้นในของตัวเมืองสุรินทร์ อนุสาวรีย์เป็นรูปหล่อทองเหลืองรมดำ สูง 2.2 เมตร มือขวาถือของ้าว อันเป็นการแสดงถึงความเก่งกล้าสามารถของท่านในการบังคับช้างศึกและเป็นเครื่องแสดงว่าสุรินทร์เป็นเมืองช้างมาแต่ดึกดำบรรพ์ รูปปั้นสะพายดาบคู่อยู่บนหลังอันหมายถึงความเป็นนักรบ ความกล้าหาญอันเป็นคุณสมบัติที่ตกทอดเป็นมรดกของคนสุรินทร์ อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2528 จังหวัดสุรินทร์ได้จัดงานวันที่ระลึกพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวางและวันทำบุญเพื่อแผ่นดินไทย เพื่อระลึกถึงเจ้าเมืองคนแรกของชาวจังหวัดสุรินทร์โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาเพื่อสักการะ พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง พร้อมด้วยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานต่างๆในจังหวัดสุรินทร์ร่วมวางพวงมาลา โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี ณ ลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อำเภอเมือง...
Read moreอนุสาวรีย์ “พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง” (ปุม) ผู้ก่อตั้งเมืองประทายสมันต์ (เมืองสุรินทร์) และเจ้าเมืองสุรินทร์คนแรก เป็นผู้ทำนุบำรุงศาสนาด้วยการสร้าง “วัดบูรพาราม” ถือเป็นบุคคลสำคัญยิ่งของประวัติเมืองสุรินทร์ ตั้งอยู่ บนทางหลวงหมายเลข 24 เข้าสู่ทิศใต้ของเมืองสุรินทร์ เดิมเป็นกำแพงชั้นในของเมือง สมัยอยุธยา มีชาวไทยที่เรียกว่า “ส่วย” (กวย หรือ กูย) เป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่มีวิชาในการจับและฝึกช้างป่าเพื่อเลี้ยงใช้งาน พ.ศ. 2302 (สมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา) “ปุม” หรือ “เชียงปุม” หัวหน้าชาว “ส่วย” ได้ตามหาช้างเผือกที่แตกโขงหนีเข้าป่า นำกลับมาส่งให้กรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (สมเด็จพระที่นั่งสุริยามรินทร์) จึงโปรดเกล้า ฯ ให้ “ปุม” เป็น “หลวงสุรินทรภักดี” ปกครอง “หมู่บ้านเมืองที” ต่อมาได้รับโปรดเกล้า แต่งตั้งเป็น “พระสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง” และให้เป็นเจ้าเมืองปกครอง "เมืองปะทายสมันต์" (ปัจจุบันคือเมืองสุรินทร์) หลังจากร่วมทัพไปทำศึกที่เวียงจันทน์ และเขมร สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น "พระยา" พ.ศ. 2329 รัชการที่ ๑ ได้เปลี่ยนชื่อ “เมืองปะทายสมันต์” เป็น "เมืองสุรินทร์" พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2337 อนุสาวรีย์ ฯ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2511 เป็นทองเหลืองรมดำ สูง 2.2 ม. มือขวาถือ “ของ้าว” แสดงถึงความสามารถในการบังคับช้างศึก บนหลังสะพาย “ดาบคู่” หมายถึง นักรบ และความกล้าหาญ ของชาวสุรินทร์ ปัจจุบันมีรูปปั้น งาช้างสีขาว ขนาดใหญ่ขนาบ 2 ข้าง สื่อว่าเมืองสุรินทร์เป็นเมืองช้าง มีพิธีวางพวงมาลาในวันที่ 13 เมษายน ทุกปี
บันทึกภาพเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566, 15:02 น. อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง (ทางหลวงหมายเลข 24) ต. ในเมือง อ. เมืองสุรินทร์ จ. วัดสุรินทร์ 14°52'42.2"N 103°29'22.6"E (14.878380, 103.489613), altitude 149 m Post: Nov 4,...
Read more