Wat Thammaram is located in the west side area of Ayutthaya, north of “ Wat Kasattrathirat “,off the city island in the field called “ Thung Worachet “, exactly west bank of Chao aphra River. In A.D. 1569( B.E. 2112) first fell of Ayutthaya, Bhurang Noung ( King of Hongsawadi) set a stronghold of his army at this area that was in the reign of Somdej Phramahintrathirat. This temple was involved in the important mission of monks, during the reign of King Boromakot ( Ayutthaya), Sri Lanka was in the Kandy Nayak dynasty under the reign of King Sri Vijaya Raja Sinha( A.D.1739-1747), religion crisis in Sri Lanka since monks accumulating wealth, cultivating, trading that turned the monks hood to families business, caused of fading away of Buddhist monastic order, needed to restore. King Sri Vijaya Raja Sinha sent 5 ambassadors and 61 attendance to Ayutthaya in the demanding of ordained priests for re-institue the Upasampadawa in Sri Lanka. The journey of 1 st embassy failed because the Dutch VOC ship who all monks on board perished off the Pegu coast in A.D. 1741, only 1 priest survived, gained Pegu and returned home. The second journey happened in the reign of young King Kittithad Sri Rays Singh ( A.D. 1747-11782), King Boromakot ( A.D. 1733-1758) inclined to the request of the young king of Sri Lanka, the result of missions, within 3 years Upali Maha Thero and his chapter ordained 700 priests, several youth had entered the temple as novice, after re -establishing the higher ordination ( Upasampadawa ), settings up Siam Nikaya Order and received the model of tooth relics as presents for King Boromakot , in the new chapter of Siamese monks set out for Sri Lanka in October A.D. 1755, brought numerous books and rich offerings for the...
Read moreตั้งใจจะมาชมพิพิธภัณฑ์ของพระอุบาลีเถระ ท่านเป็นผู้เผยแผ่ศาสนาพุทธในประเทศศรีลังกา แต่ทางเจ้าหน้าที่วัดบอกว่ามีคนขโมยสายไฟ เลยไม่ได้เข้าชม อยากให้จับคนขโมยให้ได้จัง บาปกรรมจริงๆ ส่วนประวัติพระอุบาลีเถระ ตามนี้ครับ ไปมาวันที่ 28/4/67
พระอุบาลีเถระ เป็นพระธรรมทูตในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่ง กรุงศรีอยุธยา ทีเดินทางไปยังประเทศศรีลังกาตามคำร้องของฝ่ายศรีลังกาในการเป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทแก่สามเณรชาวสิงหล เพื่อสืบทอดพุทธศาสนาในศรีลังกาขณะนั้น อีกทั้งท่านยังเป็นผู้ริเริ่มให้มีการจัดเทศกาลแห่พระเขี้ยวแก้ว (เอสาละ เปราเหรา) ในเมืองกัณฏี ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงและถือเป็นสัญลักษณ์ของศรีลังกา
ท่านเป็นที่จดจำในเรื่องความกล้าหาญที่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังศรีลังกา และได้มรณภาพที่นั่นนับเป็นพระธรรมทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย พระอุบาลีมหาเถระ เมื่อแรกได้พานักอยู่ที่วัดธรรมาราม ซึ่งเป็นวัดเล็ก ๆ มีอาณาเขตทิศเหนืออยู่ติดกับวัดท่าการ้อง ทิศใต้อยู่ติดกับวัดกษัตราธิราช ทิศตะวันออกอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศตะวันตกอยู่ติดกับถนนบางบาล ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระอุบาลีมรณภาพด้วยโรคหูอักเสบ ภายในกุฏิวัดบุปผาราม (มัลวัตตวิหาร) เมื่อปี พ.ศ. 2299 พระเจ้าแผ่นดินศรีลังกาให้จัดพิธีถวายเพลิงศพอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ โดยจัดขึ้นที่สุสานหลวงนามว่าอาดาหะนะมะลุวะ ปัจจุบันคือวัดอัศคิริยะเคดิเควิหาร เมืองกัณฏี ซึ่งปัจจุบันได้ก่ออิฐล้อมสถานที่เผาศพท่านไว้ หลังเสร็จสิ้นพิธีถวายเพลิงศพแล้ว ทรงรับสั่งให้สร้างเจดีย์บนยอดเขาใกล้วัดอัสคีริยะบรรจุอัฏฐิเพื่อสักการบูชาซึ่งมีปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน กุฏิท่านพระอุบาลีและห้องพักของท่านได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีแม้จะเป็นเพียงห้องเล็ก ๆ มีเพียงเตียงเก่าๆและโต๊ะเก้าอี้อีกหนึ่งชุดเท่านั้น บริขารและสิ่งของที่ท่านเคยใช้สอยที่ยังเหลืออยู่...
Read more📸(6/11/63)📸
วัดธรรมาราม ตั้งอยู่ตำบลบ้านป้อม อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เยื้อง ๆ เจดีย์ศรีสุริโยทัย ใกล้กับวัดกษัตราธิราช เดิมชื่อ วัดธรรมา เรียก วัดธรรมาวาศ บ้าง วัดราชธรรมาวาศวรวิหาร บ้าง วัดธรรมาราม ปรากฎชื่อครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระมหินทราธิราช ครั้งพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ.2112 กองทัพบางส่วนตั้งมั่นอยู่ที่วัดธรรมาราม แสดงให้เห็นว่าวัดธรรมารามได้สร้างขึ้นแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา คือ เป็นสถานที่จำพรรษาของพระอุบาลีมหาเถระ กับพระอริยมุนีมหาเถระ ซึ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์แห่งวัดพุทไธศวรรย์แต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาจารย์ออกไปลังกาทวีป เมื่อ พ.ศ.2296 เพื่อให้อุปสมบทกุลบุตรชาวลังกา เนื่องจากพุทธศาสนาได้เสื่อมหายไปจากดินแดนแห่งนี้ ตามพระราชโองการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทำให้พระพุทธศาสนาลัทธิสยามวงศ์อุบัติขึ้น ณ ลังกาทวีปตั้งแต่นั้นมา. ปัจจุบันวัดธรรมารามเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา แบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วนคือเขตพุทธาวาส ประกอบด้วยเจดีย์ทรงระฆังเป็นประธาน มีวิหารอยู่ทางทิศตะวันออก และอุโบสถอยู่ทางทิศตะวันตก ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว ส่วนเขตสังฆาวาส ประกอบด้วย หอไตร หอระฆัง หมู่กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ และศาลาท่าน้ำ
วัดธรรมาราม เป็นพระอารามเล็ก ๆ สร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ไม่มีข้อมูลว่าผู้ใดสร้าง ภายในวัดมีพระอุโบสถเป็นศิลปะอยุธยาตอนปลาย บานประตูแกะสลักเป็นลวดลายต้นไม้ นก อันวิจิตรด้วยฝีมือชั้นครู ก่อผนังหุ้มกลองหน้าหลังเชื่อมผนังเป็นหน้าบันยันอกไก่ และปั้นปูนเป็นรูปลายเครือเถา ประดับถ้วยชาม...
Read more