Rern — Restaurant in Sena Nikhom Subdistrict

🤩 🤯 This is truly a gem for fine dining enthusiasts, and my experience here was nothing short of extraordinary. It’s beautifully designed space, surrounded by a lush garden setting, you know you’re in for something special. 👏

The food? Absolutely exceptional. 🌟 Each dish was not only delicious but also an artistic masterpiece, meticulously plated with the freshest ingredients. The attention to detail is remarkable—every flavor, texture, and presentation element seemed thoughtfully crafted to tell a story. 👏 👏

The menu showcases the richness of southern flavors, elevated to a fine dining standard. I particularly loved how they incorporated locally sourced, sustainable ingredients into their dishes. The concept of zero waste adds a modern and responsible touch to the traditional essence of southern Thai cuisine.

It is, without a doubt, an expensive experience, but for the level of care, creativity, and skill that goes into every aspect of the meal, it's worth every baht. Fine dining at its best.

Special mention to the staff, who were attentive and knowledgeable, enhancing the overall experience with their seamless service. They considered my allergies and prepared alternative dishes just for me. 🙏 If you appreciate culinary artistry and want a dining experience that’s as thoughtful as it is flavorful, Rern is a must-visit.

Loved it. Recommend it...

ร้านอาหารใต้ Fine-Dining ระดับรางวัล Michelin Guide 2024 ร้านสวยในบรรยากาศแสนร่มรื่น แบ่งห้องอาหารเป็น 4 ห้องกระจายไปในสวนสวยตั้งชื่อตามอำเภอในจังหวัดกระบี่ตามบ้านเกิดเจ้าของร้าน โดยตอนนี้ เริน และเชฟ ภู เชฟหลักของร้าน ได้เริ่มจัดคอร์สสำหรับมื้อกลางวันให้เรามาใช้เวลาพักสงบๆลองอาหารทั้ง 18 อย่างในคอร์สใหญ่ไปได้สบาย พร้อมรสจัดจ้านที่คงเอกลักษณ์ของอหารใต้ไว้ครบถ้วน

เมนูของร้าน จะคิดจาดคอนเซปต์ผ่าน 3 คำ อย่าง Diversity ความหลากหลาย, Sustainable ความยั่งยืน และ Zero Waste การใช้ของแบบไม่เหลือทิ้ง สะท้อนผ่านอาหารตลอดคอร์สที่เราจะได้ทาน พร้อมวัตถุดิบจากหลากหลายพื้นที่ของภาคใต้อาทิ กล้วยเล็บมือนาง สละ และ ชอคโกแลต จากชุมพร, หอยชักตีน จาก กระบี่, ข้าวสังข์หยด จากพัทลุง, ไก่กอและ จาก ปัตตานี, กุ้งแม่น้ำ จากแม่น้ำตาปี สุราษฏ์ธานี และอีกหลากหลายสมุนไพรจากใต้

คอร์สที่ผมได้ลองนี้มีทั้งหมด 18 เมนู แบ่งคอร์สย่อยออกเป็น 4 ส่วนเริ่มจาก

คอร์สที่ 1 : Innovation คอร์สนี้เป็น Amuse-bouche 3 คำ ‘ยำหอยชักตีน ใบเล็บครุฑ’ นำหอยชักตีนห่อด้วยใบเล็บครุฑพร้อมเจลน้ำยำสูตรทางร้าน ‘ไก่กอและ’ เมนูดังของคนมลายู พัฒนามาเป็นมูสอกไก่ปรุงรสด้วยเครื่องแกงวางบนแป้งกรอบให้ทานไปพร้อมๆกัน ‘ทาร์ตข้าวสังหยดไข่ปลาช่อนเล’ ทาร์ตพอดีคำที่นำไข่ปลาช่อนเลมาขูดโรยเบาๆให้เราทานเรียกน้ำย่อย

คอร์สที่ 2 : Artisan Fisherman ประกอบด้วยอาหารอีก 5 จานเรียกน้ำย่อย ที่บอกเลยว่าอิ่มกันได้ง่ายๆ

‘กุ้งแม่น้ำตาปีทอดเกลือ’ กุ้งจากแม่น้ำตาปีที่สะดุ้งไฟ ได้เนื้อหวานเด้งฉ่ำๆ พร้อมน้ำมันเปลือกกุ้งที่ให้เรานำริยอชข้าวสังหยด มาดิปทานไปพร้อมๆกัน มีมันแกวดองแกล้ม ดีงามมากๆ

‘หลนปูใบ้’ หลนที่ถูกพัฒนามาเป็นซุปเย็น มีเนื้อปูใบ้คลุกน้ำมันกระเทียมตรงกลาง พร้อมราดซุปที่ให้ความเผ็ด เปรี้ยว หวานลงตัว

‘ต้มส้มไข่ปลา ตะลิงปิง’ ซุปต้มส้มที่ได้ความเปรี้ยวจากตะลิงปิงให้เราตักทานก่อนตามด้วยไข่ปลาทอดกรอบๆลงตัว

‘ขนมจีนแกงปูดอกจอก’ จานสวยที่ผมลงเป็นภาพเปิด อาหารขึ้นชื่อภาคใต้ ที่มีทั้งก้ามปูทะเลใต้สดๆหวานๆ ทานกับขนมจีนแกงปู ขนมดอกจอก มูสเนื้อปู และผัก อร่อยมาก (ขนมจีนจะซ่อนอยู่ใต้กระดองครับ)

‘ชะมวงระเบิก’ เมนู refresher ก่อนเข้าเมนคอร์ส ชิ้นพอดีคำ มีน้ำชะมวงเป็นกรานิต้าด้านใน ช่วงรีเฟรชลิ้นเราได้สบาย

คอร์สที่ 3 : Southern Samrub เมนคอร์สเซตใหญ่ที่เสิร์ฟพร้อมกับ 5 เมนูเป็นสำรับให้ทานแบบแชร์กับคนที่ไปด้วย

‘น้ำพริกตะไคร้’ อาหารพื้นบ้านของภูเก็ต เสิร์ฟพร้อมพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยด้านสุขภาพหลากหลาย

‘แกงส้มปลาตามฤดูกาล’ แกงเหลืองที่เราคุ้นเคยปรุงรสอร่อย เสิร์ฟร้อนๆรสจัดจ้านถูกปากคนไทย

‘พล่าเนื้อ เบือทอดใบเล็บครุฑ’ พล่าเนื้อนุ่มๆรสอร่อย ที่มีใบเล็บครุฑผสมพริกแกงชุบแป้งทอดให้ทานไปพร้อมกันลงตัวมากๆ

‘แกงคั่วหมูหยวกกล้วย’ แกงเผ็ดร้อน เสิร์ฟกับหมูซูวี มีหยวกกล้วยกะทิช่วยเบรกรสเผ็ดได้ดี

‘ผักก้านจองผัดไข่’ ผักบอนจีนที่ผัดไข่แล้วทำไข่โค้ทมาอีกรอบ มาทานตัดรสเผ็ดร้อนจากอาหารหลักต่างๆได้ลงตัว

คอร์สที่ 4 : The Sweet South เริ่มเซตของหวานด้วย ‘เชอร์เบทดาหลา’ จากดอกดาหลาทางใต้ ถูกนำมาเป็นเชอร์เบท พร้อมเมอร์แรงไข่ข่าวตกแต่งสวยด้านบน ให้เราทานตัดลิ้นก่อนเข้าสู่ช่วงของหวาน ก่อนจะต่อด้วย ‘ขนมกวนขาว’ ของท้องถิ่นภาคใต้จากแป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำมะพร้าว และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ พร้อมคาราเมล ก่อนจะจบด้วย ‘Petit Fours’ ให้เราเลือกชาใต้หรือกาแฟ พร้อมขนมไส้ไก่สังขยา ทาร์ตสละ และ ช็อกโกแลตกาหยู ที่ใส้เป็นคาราเมลเม็ดมะม่วง

ใครที่ชื่นชอบอาหารใต้ ชอบทาน Fine-Dining อยากไปสัมผัสคอร์สแสนอร่อยที่ดึงความเป็นอาหารใต้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์และแสนจะประณีต ผมบอกเลยว่าจะเป็นประสบกราณ์ที่คุ้มค่าแน่นอนครับ เมนูของทางร้านจะหมุนเวียนทุก 6 เดือน ผมเองยังแพลนว่าเมนูชุดหน้าจะต้องไปซ้ำแน่นอน ใครที่อยากมาทานต้องจองอคร์สล่วงหน้าอย่างน้อย 1...

เริน (Rern) ร้านอาหารใต้ fine dining แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เรินอาจจะไม่คุ้นหูนักกับนักกินสายอาหารใต้ แต่ถ้าพูดชื่อร้านขมิ้น ร้านอาหารใต้ที่ตอนนี้ได้เปิดให้บริการหลายสาขาแล้ว หลายๆคนอาจจะร้องอ๋อ ใช่ครับเรินเป็นเครือเดียวกับร้านขมิ้น และตอนนี้ร้านได้ขยับขยายธุรกิจมารุกตลาด fine dining

สถานที่ร้านอาหารให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ resort สถานที่กว้าง แบ่งเป็นหลังๆเหมือน villa ด้วยความที่ตั้งอยู่นอกเมืองเลยได้สถานที่ค่อนข้างใหญ่

มาดูกันที่ tasting menu อาหารและวัตถุดิบจะมาจากจังหวัดในภาคใต้ทั้งหมด เชฟได้เลือกจุดเด่นของแต่ละจังหวัดมาใส่ในแต่ละเมนู อาหารแบ่งเป็น 4 part part แรก “first impressions” จะเป็นคำเล็กๆเรียกน้ำย่อย คำแรกขนมเบื้องปลาลูกเบร่ จากพัทลุงกรอบๆมันๆผสมกับมูสอมเปรี้ยวเข้ากันพอดี ต่อด้วยหอยชักตีนบนแพใบเล็บครุฑ นัวๆกรุบกรอบ สุดท้ายกุ้งหางแดงปากพนังผัดสะตอ part ที่ 2 “province favourites” เริ่มด้วยกรรเชียงปูม้าในหลนไข่ปู รสนมละมุนลิ้น ต่อด้วยขนมจีนกุ้งมังกร 7 สี จานนี้ให้ฟีลขนมจีนผสม xiao long bao แต่ส่วนตัวคิดว่าจืดไปนิด ถึงแม่ว่าให้จิ๊กโฉ่วมาด้วย ด้วยที่จิ๊กโฉ่วมันเปรี้ยวเบาๆ เลยคิดว่าจานนี่น่าจะมีตัดเค็มมาอีกซักหน่อย แต่โดยรวมถือว่าอร่อยใช้ได้ จานต่อไป หมูย่างตรัง อันนี้อร่อยมาก หมูเปื่อยละลายในปาก หอมมันเข้ากันกับน้ำซอสที่หวานนิดๆกำลังพอดี ไม่เลี่ยนเลย

ก่อนเริ่มจานสำรับ clean palate ด้วยตะลิงปิง sherbet เปรี้ยวเย็นสะใจ เข้าสู่ part 3 “Samrub” สำรับมีกับ 6 อย่าง เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิหุงกับข้าวสังห์หยดพัทลุง สำรับต่างๆนั้นรสชาติจัดจ้านแบบใต้แท้ๆทุกจาน เป็นพระเอกของมื้อเลยไม่ว่าจะเป็นแกงส้มขาหมูหน่อไม้ดอง ฉู่ฉี่ปลาช่อนแล ผัดผักตามฤกาล แกงขี้เหล็กเนื้อไทยวากิว ที่เนื้อนุ่มมากๆ หมึกหอมผัดน้ำดำ และแกงชะมวงหมูสันในออแกนิกเอาไว้ซดเบาๆตัดกับแกงเผ็ดจานอื่น มันเข้ากันกับข้าวสังห์หยดร้อนๆ จนต้องขอเติมข้าวอยู่เรื่อยๆ part 4 ของหวานสุดท้าย “Journey’s End” เริ่มด้วยไอศกรีมจาวมาพร้าวอร่อยหวานมัน ต่อด้วย cashew nut cookies จิบพร้อมกับชาใบฝรั่งหงเปาลือตัดกันกลมกล่อมปิดท้ายอาหารมือนี้

ทางร้านบอกว่า เมนูจะเปลี่ยนทุกๆ 3-4 เดือน จะวนเวียนไปแต่ละจังหวัดในภาคใต้ โดยรวมเป็นร้านที่น่าสนใจ ร้านอาหารใต้ fine dining ในบ้านเราก็จะได้คึกคักขึ้น...