HTML SitemapExplore
logo
Find Things to DoFind The Best Restaurants

Wat Suan Tan — Attraction in Nan Province

Name
Wat Suan Tan
Description
Nearby attractions
Wat Hua Wiang Tai
307 Sumon Thewarat, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Nan Old City Wall
QQJ9+697, Mahawong Rd, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Wat Hua Khuang
QQGC+VFQ, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Nan National Museum
QQGC+F8R พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ Phakong, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Wat Ku Kham
QQGF+7R3, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Nearby restaurants
ข้าวซอย น้ำเงี๊ยว แม่สุณี
QQMF+3R4, Mahayot 7 Alley, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Ban J
QQJG+C8Q, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Huean Phukha
13 2 Kha Luang, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
crazy noodle
QQHG+GP4, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
ครัวกาสะลองริมน้ำน่าน
21 9 Kha Luang, Nai Wiang, อำเภอเมือง Nan 55000, Thailand
เลิศรส
349 11 Sumon Thewarat, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Noom Pork Soup
QQHG+3J4 เจตบุตร Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Nearby hotels
Phuhunsa Boutique Hotel
45 15 ซอย 3 Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Khun Ying Hotel โรงแรมคุณหญิง
231 หมู่ 8 Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Nan T House Hotel
244 Pha Sing, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
เฮือนน่านนิทรา (Nan Nitra Guest House)
34/1 Sumon Thewarat Soi 5 Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
HOP INN Nan
246, Pha Sing, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
มน-ดี มินิโฮเทล Mon-Dee minihotel
เลขที่ 2 Suantan Trok 2 Alley, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Sukkasem Hotel
119,121 ถ.อนันตวรฤทธิเดช 119,121 Anantaworraritidate Rd. T. NWieng, Nan City Center เมืองน่าน Nan 55000, Thailand
Nainan Resotel
762 Pha Sing, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Grand Mansion Hotel
71 1 Thanon Mahayot, Nai Wiang, เมือง Nan 55000, Thailand
น่านนิยม
45/2 Mahawong 2 Alley, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
Related posts
Keywords
Wat Suan Tan tourism.Wat Suan Tan hotels.Wat Suan Tan bed and breakfast. flights to Wat Suan Tan.Wat Suan Tan attractions.Wat Suan Tan restaurants.Wat Suan Tan travel.Wat Suan Tan travel guide.Wat Suan Tan travel blog.Wat Suan Tan pictures.Wat Suan Tan photos.Wat Suan Tan travel tips.Wat Suan Tan maps.Wat Suan Tan things to do.
Wat Suan Tan things to do, attractions, restaurants, events info and trip planning
Wat Suan Tan
ThailandNan ProvinceWat Suan Tan

Basic Info

Wat Suan Tan

QQMF+MHC, Thanon Mahayot, Nai Wiang, Mueang Nan District, Nan 55000, Thailand
4.5(463)
Open 24 hours
Save
spot

Ratings & Description

Info

Cultural
Family friendly
Accessibility
attractions: Wat Hua Wiang Tai, Nan Old City Wall, Wat Hua Khuang, Nan National Museum, Wat Ku Kham, restaurants: ข้าวซอย น้ำเงี๊ยว แม่สุณี, Ban J, Huean Phukha, crazy noodle, ครัวกาสะลองริมน้ำน่าน, เลิศรส, Noom Pork Soup
logoLearn more insights from Wanderboat AI.
Website
facebook.com

Plan your stay

hotel
Pet-friendly Hotels in Nan Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
Affordable Hotels in Nan Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
The Coolest Hotels You Haven't Heard Of (Yet)
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
Trending Stays Worth the Hype in Nan Province
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

Reviews

Nearby attractions of Wat Suan Tan

Wat Hua Wiang Tai

Nan Old City Wall

Wat Hua Khuang

Nan National Museum

Wat Ku Kham

Wat Hua Wiang Tai

Wat Hua Wiang Tai

4.4

(55)

Open 24 hours
Click for details
Nan Old City Wall

Nan Old City Wall

4.4

(178)

Open 24 hours
Click for details
Wat Hua Khuang

Wat Hua Khuang

4.6

(150)

Open 24 hours
Click for details
Nan National Museum

Nan National Museum

4.5

(614)

Open until 4:00 PM
Click for details

Nearby restaurants of Wat Suan Tan

ข้าวซอย น้ำเงี๊ยว แม่สุณี

Ban J

Huean Phukha

crazy noodle

ครัวกาสะลองริมน้ำน่าน

เลิศรส

Noom Pork Soup

ข้าวซอย น้ำเงี๊ยว แม่สุณี

ข้าวซอย น้ำเงี๊ยว แม่สุณี

4.1

(135)

Click for details
Ban J

Ban J

4.5

(24)

$

Click for details
Huean Phukha

Huean Phukha

4.5

(744)

$$

Click for details
crazy noodle

crazy noodle

4.1

(313)

Click for details
Get the Appoverlay
Get the AppOne tap to find yournext favorite spots!
Wanderboat LogoWanderboat

Your everyday Al companion for getaway ideas

CompanyAbout Us
InformationAI Trip PlannerSitemap
SocialXInstagramTiktokLinkedin
LegalTerms of ServicePrivacy Policy

Get the app

© 2025 Wanderboat. All rights reserved.
logo

Reviews of Wat Suan Tan

4.5
(463)
avatar
5.0
5y

วัดสวนตาล : วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองน่านมาร่วม 600 ปีสร้างขึ้นในสมัยพระนางปทุมมาวดีชายาของพญาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่านเมื่อราวปี พ.ศ.1955 โดยสร้างขึ้นณบริเวณด้านนอกของกำแพงเมืองน่านด้านทิศเหนือ ซึ่งในอดีตเคยเป็นสวนตาลหลวงมาก่อน และเมื่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาชื่อวัดจึงถูกเรียกตามชื่อของสวนตาลหลวงนั่น เอง นอกจากนี้วัดสวนตาลยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าทองทิพย์” ทิพย์แห่งทองพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ด้วย ซึ่ง“พระเจ้าทองทิพย์” นี้จะประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในวิหารหลังใหญ่ วัดสวนตาลมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้วและถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1993 โดยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯทั้งนี้เพื่อแสดงถึงชัยชนะ ที่พระองค์สามารถยึดเมืองน่านไว้ในพระราชอำนาจได้นั่นเอง และในทุกๆปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ ชาวน่านจะจัดให้มีงานนมัสการและสรงน้ำ“พระเจ้าทองทิพย์” พระพุทธรูปองค์สำคัญที่ชาวน่านให้ความเคารพนับถือ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมาแต่อดีตเป็นประจำ และในบริเวณใกล้ๆ วิหารหลังใหญ่ยังมีวิหารหลังเล็กอีกหนึ่งหลัง ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐานพระศรีอริยเมตไตรปางนั่งพับเพียบองค์แรกที่พบใน ภาคเหนือ ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนักพร้อมกับมีพระเจ้า 5 ที่ประดิษฐานอยู่ที่เดียวกัน ทำให้มีประชาชนเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง ในการสร้างพระพุทธรูปทองทิพย์องค์นี้ในพงศาวดารเมืองน่าน กล่าวไว้ว่า... เมื่อจุลศักราช ๘๑๒ ตรงกับพุทธศักราช ๑๙๙๓ พระเจ้าติโลกราช เจ้านครเชียงใหม่ มีกำลังเข้มแข็งได้กรีฑาทัพไปตีหัว เมืองต่างๆ ในแคว้นล้านนาไทย คือ เมืองลอ เมืองเทิง เมืองปง เมืองควร ไปทางตีนดอยลาวได้หัวเมือง เหล่านั้นไว้ในอำนาจ หมดแล้ว เลยยกเข้าไปตีเมืองน่าน พระองค์ได้ตั้งทัพอยู่ที่สวนตาลหลวงตั้งทัพล้อมอยู่ได้ ๗ วัน โดยเร่งไพร่พลยิงปืนใหญ่เข้าไปในเมือง พอตกกลางคืนก็ยกพลเข้าตี หวังจะเอาเมืองให้ได้ ฝ่ายพญาอินต๊ะแก่น ท้าวซึ่งเป็นเจ้านครน่านใน เวลานั้นเห็นกองทัพ เชียงใหม่มีไพร่พลมาก ประกอบกับได้ยินกิตติศัพท์เล่าลือถึงความเก่งกล้าสามารถของพระเจ้าติโลกราชที่สามารถปราบหัวเมืองใกล้เคียงได้เกือบหมด เห็นชัดแจ้งว่าไม่อาจจะรักษาเมืองไว้ได้จึงได้อพยพครอบครัวหนี พระเจ้าติโลกราชจึงยกทัพไพร่พลเข้าเมืองได้ อย่างง่ายดาย ไม่ต้องสู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อ เมื่อพระเจ้าติโลกราชยึดเมืองได้แล้วจึงได้ปรึกษาเหล่านายทัพนายกอง และเสนาอำมาตย์ทั้งหลายว่า การที่กองทัพของพระองค์เข้ายึดเมืองไว้ได้ในครั้งนี้ มิได้สู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อกำลังไพร่พล เหมือนกับว่ามีเทพเจ้าเข้ามาช่วยเหลือ จึงเห็นควรให้สร้างอะไรไว้อย่างหนึ่งเพื่อเป็นอนุสรณ์ แก่ชัยชนะของพระองค์ ครั้งนั้นขุนนางเสนอว่าควรจะสร้างถาวรวัตถุเพื่อประชาชนรุ่นหลังจะรำลึก ถึง เช่น สร้างพระพุทธรูป หล่อด้วยทองเป็นต้น ในที่สุดพระเจ้าติโลกราชก็ตัดสินพระทัยที่จะสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทอง พระเจ้าทองทิพย์ซึ่งพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯ ให้ สร้างขึ้นใน พ.ศ. ๑๙๘๗ ลักษณะเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ปางมารวิชัย ประดิษฐานในวิหารสวนตาล หน้าตักกว้าง ๑๐ ฟุต สูง ๑๔ ฟุต ๔ นิ้ว (๔.๑๑ เมตร) ในการสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทองนี้ พระองค์ได้โปรดให้ช่างทั้งหลาย อาทิ พม่า เงี้ยว และชาวเมืองเชียงแสน กระทำพิธี หล่อหลอมทอง และพิธีหล่อองค์พระพุทธรูป ด้วย ช่างได้ กระทำการหล่อทองเทเข้าเบ้าพิมพ์หลายครั้งหลายหน ก็ไม่สำเร็จเพราะ เบ้าพิมพ์แตกเสียทุกครั้ง ในที่สุดก็มีชายชราแปลกหน้านุ่งขาวห่มขาวมาช่วยทำ จึงสำเร็จเรียบร้อยสมปรารถนา เมื่อสร้างพระพุทธรูปเสร็จแล้ว พระเจ้าติโลกราชก็ทรงจัดให้มีการสวดปริตถมงคล และจัดให้มีงาน มหกรรมเฉลิมฉลองทำบุญ เป็นการใหญ่มโหฬารยิ่ง ส่วนชายชรานั้นก็หายสาบสูญไป ไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย ประชาชนชาวเมืองต่างโจษขานกันว่าเป็น เทพยดาแปลงกายลงมา จึงได้ขนานพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธรูปทองทิพย์ หรือ พระเจ้า ทองทิพย์ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน และในวัดสวนตาลยังมีบ่อน้ำทิพย์...

   Read more
avatar
3.0
34w

Tempio del XIV secolo nella città di Nan. Il tempio, noto anche come "il tempio del palmeto da zucchero", è composto da due viharn, un grande chedi, un Ho Trai o edificio biblioteca e una struttura simile a una sala che ospita un'immagine del Buddha. Il viharn principale è un grande edificio con un tetto a tre livelli, bargeboard di legno riccamente intagliati in colore oro e chofah alle estremità del tetto. Al centro del tetto c'è un "Dok so faa", un elemento ornamentale del tetto che si trova spesso nei templi laotiani. Il timpano anteriore dell'edificio è finemente decorato con motivi floreali dorati su rossi. I corpi dei serpenti Naga dall'aspetto feroce si estendono lungo le balaustre delle scale verso l'ingresso dell'edificio. Immagine del Buddha fusa nel 1449 Il viharn custodisce l'immagine principale del Buddha del Wat Suan Tan chiamata Phra Chao Chong Thip. L'immagine in bronzo in stile Sukhothai nella postura "Chiamare la Terra a testimoniare" che misura 4,11 metri di altezza è stata fusa nel 1449 durante il regno del re Lanna Tilokaraj. È fiancheggiato da due immagini più piccole del Buddha in piedi. L'Ho Trai o biblioteca è l'edificio dove sono conservate le scritture buddiste, il Tripiaka, tradizionalmente scritte su foglie di palma essiccate. L'Ho Trai del Wat Suan Tan è una piccola struttura a due piani sormontata da un ombrello ornamentale a cinque livelli e timpani su tutti e quattro i lati. Il tetto e i timpani sono nello stesso stile del viharn con chofah d'oro, bargeboard intagliati e piccoli timpani con motivi d'oro su rossi. Dietro il viharn si erge la struttura più antica del tempio, un grande chedi in stile Sukhothai. Il chedi del XIV secolo misura 40 metri di altezza. Su una base quadrata con angoli dentellati ci sono tre livelli di dimensioni decrescenti. Ciascuna delle facce del primo livello contiene una grande falsa nicchia. In cima al livello più alto c'è una campana in stile Sukhothai e quattro piccole guglie agli angoli. Il chedi è sormontato da un piccolo prang in stile Khmer e da un ombrello cerimoniale. Un altro viharn più piccolo, una piccola struttura a forma di sala aperta, ospita un'immagine del Buddha seduto. Anche sul terreno c'è un grande albero della Bodhi. Gli alberi della Bodhi si trovano spesso sul terreno dei templi thailandesi, poiché il Buddha meditò e raggiunse l'illuminazione sotto un albero della Bodhi circa 2.500 anni fa. Accanto al viharn principale si trova una statua di Guanyin, la dea cinese della...

   Read more
avatar
4.0
4y

วัดสวนตาล “วัดสวนตาล” วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองน่านมาร่วม 600 ปีสร้างขึ้นในสมัยพระนางปทุมมาวดีชายาของพญาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่านเมื่อราวปี พ.ศ.1955 โดยสร้างขึ้นณบริเวณด้านนอกของกำแพงเมืองน่านด้านทิศเหนือ ซึ่งในอดีตเคยเป็นสวนตาลหลวงมาก่อน และเมื่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาชื่อวัดจึงถูกเรียกตามชื่อของสวนตาลหลวงนั่น เอง นอกจากนี้วัดสวนตาลยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าทองทิพย์” ทิพย์แห่งทองพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ด้วย

ซึ่ง“พระเจ้าทองทิพย์” นี้จะประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในวิหารหลังใหญ่ วัดสวนตาลมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้วและถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1993 โดยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯทั้งนี้เพื่อแสดงถึงชัยชนะ ที่พระองค์สามารถยึดเมืองน่านไว้ในพระราชอำนาจได้นั่นเอง และในทุกๆปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ ชาวน่านจะจัดให้มีงานนมัสการและสรงน้ำ“พระเจ้าทองทิพย์” พระพุทธรูปองค์สำคัญที่ชาวน่านให้ความเคารพนับถือ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมาแต่อดีตเป็นประจำ

และในบริเวณใกล้ๆ วิหารหลังใหญ่ยังมีวิหารหลังเล็กอีกหนึ่งหลัง ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐาน พระศรีอริยเมตไตรยปางนั่งพับเพียบองค์แรกที่พบใน ภาคเหนือ ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนักพร้อมกับมีพระเจ้า 5 ที่ประดิษฐานอยู่ที่เดียวกัน...

   Read more
Page 1 of 7
Previous
Next

Posts

natthaphon witinatthaphon witi
วัดสวนตาล : วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองน่านมาร่วม 600 ปีสร้างขึ้นในสมัยพระนางปทุมมาวดีชายาของพญาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่านเมื่อราวปี พ.ศ.1955 โดยสร้างขึ้นณบริเวณด้านนอกของกำแพงเมืองน่านด้านทิศเหนือ ซึ่งในอดีตเคยเป็นสวนตาลหลวงมาก่อน และเมื่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาชื่อวัดจึงถูกเรียกตามชื่อของสวนตาลหลวงนั่น เอง นอกจากนี้วัดสวนตาลยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าทองทิพย์” ทิพย์แห่งทองพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ด้วย ซึ่ง“พระเจ้าทองทิพย์” นี้จะประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในวิหารหลังใหญ่ วัดสวนตาลมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้วและถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1993 โดยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯทั้งนี้เพื่อแสดงถึงชัยชนะ ที่พระองค์สามารถยึดเมืองน่านไว้ในพระราชอำนาจได้นั่นเอง และในทุกๆปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ ชาวน่านจะจัดให้มีงานนมัสการและสรงน้ำ“พระเจ้าทองทิพย์” พระพุทธรูปองค์สำคัญที่ชาวน่านให้ความเคารพนับถือ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมาแต่อดีตเป็นประจำ และในบริเวณใกล้ๆ วิหารหลังใหญ่ยังมีวิหารหลังเล็กอีกหนึ่งหลัง ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐานพระศรีอริยเมตไตรปางนั่งพับเพียบองค์แรกที่พบใน ภาคเหนือ ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนักพร้อมกับมีพระเจ้า 5 ที่ประดิษฐานอยู่ที่เดียวกัน ทำให้มีประชาชนเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง ในการสร้างพระพุทธรูปทองทิพย์องค์นี้ในพงศาวดารเมืองน่าน กล่าวไว้ว่า... เมื่อจุลศักราช ๘๑๒ ตรงกับพุทธศักราช ๑๙๙๓ พระเจ้าติโลกราช เจ้านครเชียงใหม่ มีกำลังเข้มแข็งได้กรีฑาทัพไปตีหัว เมืองต่างๆ ในแคว้นล้านนาไทย คือ เมืองลอ เมืองเทิง เมืองปง เมืองควร ไปทางตีนดอยลาวได้หัวเมือง เหล่านั้นไว้ในอำนาจ หมดแล้ว เลยยกเข้าไปตีเมืองน่าน พระองค์ได้ตั้งทัพอยู่ที่สวนตาลหลวงตั้งทัพล้อมอยู่ได้ ๗ วัน โดยเร่งไพร่พลยิงปืนใหญ่เข้าไปในเมือง พอตกกลางคืนก็ยกพลเข้าตี หวังจะเอาเมืองให้ได้ ฝ่ายพญาอินต๊ะแก่น ท้าวซึ่งเป็นเจ้านครน่านใน เวลานั้นเห็นกองทัพ เชียงใหม่มีไพร่พลมาก ประกอบกับได้ยินกิตติศัพท์เล่าลือถึงความเก่งกล้าสามารถของพระเจ้าติโลกราชที่สามารถปราบหัวเมืองใกล้เคียงได้เกือบหมด เห็นชัดแจ้งว่าไม่อาจจะรักษาเมืองไว้ได้จึงได้อพยพครอบครัวหนี พระเจ้าติโลกราชจึงยกทัพไพร่พลเข้าเมืองได้ อย่างง่ายดาย ไม่ต้องสู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อ เมื่อพระเจ้าติโลกราชยึดเมืองได้แล้วจึงได้ปรึกษาเหล่านายทัพนายกอง และเสนาอำมาตย์ทั้งหลายว่า การที่กองทัพของพระองค์เข้ายึดเมืองไว้ได้ในครั้งนี้ มิได้สู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อกำลังไพร่พล เหมือนกับว่ามีเทพเจ้าเข้ามาช่วยเหลือ จึงเห็นควรให้สร้างอะไรไว้อย่างหนึ่งเพื่อเป็นอนุสรณ์ แก่ชัยชนะของพระองค์ ครั้งนั้นขุนนางเสนอว่าควรจะสร้างถาวรวัตถุเพื่อประชาชนรุ่นหลังจะรำลึก ถึง เช่น สร้างพระพุทธรูป หล่อด้วยทองเป็นต้น ในที่สุดพระเจ้าติโลกราชก็ตัดสินพระทัยที่จะสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทอง พระเจ้าทองทิพย์ซึ่งพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯ ให้ สร้างขึ้นใน พ.ศ. ๑๙๘๗ ลักษณะเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ปางมารวิชัย ประดิษฐานในวิหารสวนตาล หน้าตักกว้าง ๑๐ ฟุต สูง ๑๔ ฟุต ๔ นิ้ว (๔.๑๑ เมตร) ในการสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทองนี้ พระองค์ได้โปรดให้ช่างทั้งหลาย อาทิ พม่า เงี้ยว และชาวเมืองเชียงแสน กระทำพิธี หล่อหลอมทอง และพิธีหล่อองค์พระพุทธรูป ด้วย ช่างได้ กระทำการหล่อทองเทเข้าเบ้าพิมพ์หลายครั้งหลายหน ก็ไม่สำเร็จเพราะ เบ้าพิมพ์แตกเสียทุกครั้ง ในที่สุดก็มีชายชราแปลกหน้านุ่งขาวห่มขาวมาช่วยทำ จึงสำเร็จเรียบร้อยสมปรารถนา เมื่อสร้างพระพุทธรูปเสร็จแล้ว พระเจ้าติโลกราชก็ทรงจัดให้มีการสวดปริตถมงคล และจัดให้มีงาน มหกรรมเฉลิมฉลองทำบุญ เป็นการใหญ่มโหฬารยิ่ง ส่วนชายชรานั้นก็หายสาบสูญไป ไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย ประชาชนชาวเมืองต่างโจษขานกันว่าเป็น เทพยดาแปลงกายลงมา จึงได้ขนานพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธรูปทองทิพย์ หรือ พระเจ้า ทองทิพย์ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน และในวัดสวนตาลยังมีบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดน่านที่ใช้ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพิธีพลีกรรม รัชกาลที่10
Valter MaccariValter Maccari
Tempio del XIV secolo nella città di Nan. Il tempio, noto anche come "il tempio del palmeto da zucchero", è composto da due viharn, un grande chedi, un Ho Trai o edificio biblioteca e una struttura simile a una sala che ospita un'immagine del Buddha. Il viharn principale è un grande edificio con un tetto a tre livelli, bargeboard di legno riccamente intagliati in colore oro e chofah alle estremità del tetto. Al centro del tetto c'è un "Dok so faa", un elemento ornamentale del tetto che si trova spesso nei templi laotiani. Il timpano anteriore dell'edificio è finemente decorato con motivi floreali dorati su rossi. I corpi dei serpenti Naga dall'aspetto feroce si estendono lungo le balaustre delle scale verso l'ingresso dell'edificio. Immagine del Buddha fusa nel 1449 Il viharn custodisce l'immagine principale del Buddha del Wat Suan Tan chiamata Phra Chao Chong Thip. L'immagine in bronzo in stile Sukhothai nella postura "Chiamare la Terra a testimoniare" che misura 4,11 metri di altezza è stata fusa nel 1449 durante il regno del re Lanna Tilokaraj. È fiancheggiato da due immagini più piccole del Buddha in piedi. L'Ho Trai o biblioteca è l'edificio dove sono conservate le scritture buddiste, il Tripiaka, tradizionalmente scritte su foglie di palma essiccate. L'Ho Trai del Wat Suan Tan è una piccola struttura a due piani sormontata da un ombrello ornamentale a cinque livelli e timpani su tutti e quattro i lati. Il tetto e i timpani sono nello stesso stile del viharn con chofah d'oro, bargeboard intagliati e piccoli timpani con motivi d'oro su rossi. Dietro il viharn si erge la struttura più antica del tempio, un grande chedi in stile Sukhothai. Il chedi del XIV secolo misura 40 metri di altezza. Su una base quadrata con angoli dentellati ci sono tre livelli di dimensioni decrescenti. Ciascuna delle facce del primo livello contiene una grande falsa nicchia. In cima al livello più alto c'è una campana in stile Sukhothai e quattro piccole guglie agli angoli. Il chedi è sormontato da un piccolo prang in stile Khmer e da un ombrello cerimoniale. Un altro viharn più piccolo, una piccola struttura a forma di sala aperta, ospita un'immagine del Buddha seduto. Anche sul terreno c'è un grande albero della Bodhi. Gli alberi della Bodhi si trovano spesso sul terreno dei templi thailandesi, poiché il Buddha meditò e raggiunse l'illuminazione sotto un albero della Bodhi circa 2.500 anni fa. Accanto al viharn principale si trova una statua di Guanyin, la dea cinese della misericordia.
อนิรุทธิ์ ชุ่มธาราธรอนิรุทธิ์ ชุ่มธาราธร
วัดสวนตาล “วัดสวนตาล” วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองน่านมาร่วม 600 ปีสร้างขึ้นในสมัยพระนางปทุมมาวดีชายาของพญาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่านเมื่อราวปี พ.ศ.1955 โดยสร้างขึ้นณบริเวณด้านนอกของกำแพงเมืองน่านด้านทิศเหนือ ซึ่งในอดีตเคยเป็นสวนตาลหลวงมาก่อน และเมื่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาชื่อวัดจึงถูกเรียกตามชื่อของสวนตาลหลวงนั่น เอง นอกจากนี้วัดสวนตาลยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าทองทิพย์” ทิพย์แห่งทองพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ด้วย ซึ่ง“พระเจ้าทองทิพย์” นี้จะประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในวิหารหลังใหญ่ วัดสวนตาลมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้วและถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1993 โดยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯทั้งนี้เพื่อแสดงถึงชัยชนะ ที่พระองค์สามารถยึดเมืองน่านไว้ในพระราชอำนาจได้นั่นเอง และในทุกๆปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ ชาวน่านจะจัดให้มีงานนมัสการและสรงน้ำ“พระเจ้าทองทิพย์” พระพุทธรูปองค์สำคัญที่ชาวน่านให้ความเคารพนับถือ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมาแต่อดีตเป็นประจำ และในบริเวณใกล้ๆ วิหารหลังใหญ่ยังมีวิหารหลังเล็กอีกหนึ่งหลัง ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐาน พระศรีอริยเมตไตรยปางนั่งพับเพียบองค์แรกที่พบใน ภาคเหนือ ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนักพร้อมกับมีพระเจ้า 5 ที่ประดิษฐานอยู่ที่เดียวกัน ทำให้มีประชาชนเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง
See more posts
See more posts
hotel
Find your stay

Pet-friendly Hotels in Nan Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

วัดสวนตาล : วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองน่านมาร่วม 600 ปีสร้างขึ้นในสมัยพระนางปทุมมาวดีชายาของพญาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่านเมื่อราวปี พ.ศ.1955 โดยสร้างขึ้นณบริเวณด้านนอกของกำแพงเมืองน่านด้านทิศเหนือ ซึ่งในอดีตเคยเป็นสวนตาลหลวงมาก่อน และเมื่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาชื่อวัดจึงถูกเรียกตามชื่อของสวนตาลหลวงนั่น เอง นอกจากนี้วัดสวนตาลยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าทองทิพย์” ทิพย์แห่งทองพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ด้วย ซึ่ง“พระเจ้าทองทิพย์” นี้จะประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในวิหารหลังใหญ่ วัดสวนตาลมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้วและถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1993 โดยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯทั้งนี้เพื่อแสดงถึงชัยชนะ ที่พระองค์สามารถยึดเมืองน่านไว้ในพระราชอำนาจได้นั่นเอง และในทุกๆปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ ชาวน่านจะจัดให้มีงานนมัสการและสรงน้ำ“พระเจ้าทองทิพย์” พระพุทธรูปองค์สำคัญที่ชาวน่านให้ความเคารพนับถือ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมาแต่อดีตเป็นประจำ และในบริเวณใกล้ๆ วิหารหลังใหญ่ยังมีวิหารหลังเล็กอีกหนึ่งหลัง ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐานพระศรีอริยเมตไตรปางนั่งพับเพียบองค์แรกที่พบใน ภาคเหนือ ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนักพร้อมกับมีพระเจ้า 5 ที่ประดิษฐานอยู่ที่เดียวกัน ทำให้มีประชาชนเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง ในการสร้างพระพุทธรูปทองทิพย์องค์นี้ในพงศาวดารเมืองน่าน กล่าวไว้ว่า... เมื่อจุลศักราช ๘๑๒ ตรงกับพุทธศักราช ๑๙๙๓ พระเจ้าติโลกราช เจ้านครเชียงใหม่ มีกำลังเข้มแข็งได้กรีฑาทัพไปตีหัว เมืองต่างๆ ในแคว้นล้านนาไทย คือ เมืองลอ เมืองเทิง เมืองปง เมืองควร ไปทางตีนดอยลาวได้หัวเมือง เหล่านั้นไว้ในอำนาจ หมดแล้ว เลยยกเข้าไปตีเมืองน่าน พระองค์ได้ตั้งทัพอยู่ที่สวนตาลหลวงตั้งทัพล้อมอยู่ได้ ๗ วัน โดยเร่งไพร่พลยิงปืนใหญ่เข้าไปในเมือง พอตกกลางคืนก็ยกพลเข้าตี หวังจะเอาเมืองให้ได้ ฝ่ายพญาอินต๊ะแก่น ท้าวซึ่งเป็นเจ้านครน่านใน เวลานั้นเห็นกองทัพ เชียงใหม่มีไพร่พลมาก ประกอบกับได้ยินกิตติศัพท์เล่าลือถึงความเก่งกล้าสามารถของพระเจ้าติโลกราชที่สามารถปราบหัวเมืองใกล้เคียงได้เกือบหมด เห็นชัดแจ้งว่าไม่อาจจะรักษาเมืองไว้ได้จึงได้อพยพครอบครัวหนี พระเจ้าติโลกราชจึงยกทัพไพร่พลเข้าเมืองได้ อย่างง่ายดาย ไม่ต้องสู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อ เมื่อพระเจ้าติโลกราชยึดเมืองได้แล้วจึงได้ปรึกษาเหล่านายทัพนายกอง และเสนาอำมาตย์ทั้งหลายว่า การที่กองทัพของพระองค์เข้ายึดเมืองไว้ได้ในครั้งนี้ มิได้สู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อกำลังไพร่พล เหมือนกับว่ามีเทพเจ้าเข้ามาช่วยเหลือ จึงเห็นควรให้สร้างอะไรไว้อย่างหนึ่งเพื่อเป็นอนุสรณ์ แก่ชัยชนะของพระองค์ ครั้งนั้นขุนนางเสนอว่าควรจะสร้างถาวรวัตถุเพื่อประชาชนรุ่นหลังจะรำลึก ถึง เช่น สร้างพระพุทธรูป หล่อด้วยทองเป็นต้น ในที่สุดพระเจ้าติโลกราชก็ตัดสินพระทัยที่จะสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทอง พระเจ้าทองทิพย์ซึ่งพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯ ให้ สร้างขึ้นใน พ.ศ. ๑๙๘๗ ลักษณะเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ปางมารวิชัย ประดิษฐานในวิหารสวนตาล หน้าตักกว้าง ๑๐ ฟุต สูง ๑๔ ฟุต ๔ นิ้ว (๔.๑๑ เมตร) ในการสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทองนี้ พระองค์ได้โปรดให้ช่างทั้งหลาย อาทิ พม่า เงี้ยว และชาวเมืองเชียงแสน กระทำพิธี หล่อหลอมทอง และพิธีหล่อองค์พระพุทธรูป ด้วย ช่างได้ กระทำการหล่อทองเทเข้าเบ้าพิมพ์หลายครั้งหลายหน ก็ไม่สำเร็จเพราะ เบ้าพิมพ์แตกเสียทุกครั้ง ในที่สุดก็มีชายชราแปลกหน้านุ่งขาวห่มขาวมาช่วยทำ จึงสำเร็จเรียบร้อยสมปรารถนา เมื่อสร้างพระพุทธรูปเสร็จแล้ว พระเจ้าติโลกราชก็ทรงจัดให้มีการสวดปริตถมงคล และจัดให้มีงาน มหกรรมเฉลิมฉลองทำบุญ เป็นการใหญ่มโหฬารยิ่ง ส่วนชายชรานั้นก็หายสาบสูญไป ไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย ประชาชนชาวเมืองต่างโจษขานกันว่าเป็น เทพยดาแปลงกายลงมา จึงได้ขนานพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธรูปทองทิพย์ หรือ พระเจ้า ทองทิพย์ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน และในวัดสวนตาลยังมีบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดน่านที่ใช้ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพิธีพลีกรรม รัชกาลที่10
natthaphon witi

natthaphon witi

hotel
Find your stay

Affordable Hotels in Nan Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

Get the Appoverlay
Get the AppOne tap to find yournext favorite spots!
Tempio del XIV secolo nella città di Nan. Il tempio, noto anche come "il tempio del palmeto da zucchero", è composto da due viharn, un grande chedi, un Ho Trai o edificio biblioteca e una struttura simile a una sala che ospita un'immagine del Buddha. Il viharn principale è un grande edificio con un tetto a tre livelli, bargeboard di legno riccamente intagliati in colore oro e chofah alle estremità del tetto. Al centro del tetto c'è un "Dok so faa", un elemento ornamentale del tetto che si trova spesso nei templi laotiani. Il timpano anteriore dell'edificio è finemente decorato con motivi floreali dorati su rossi. I corpi dei serpenti Naga dall'aspetto feroce si estendono lungo le balaustre delle scale verso l'ingresso dell'edificio. Immagine del Buddha fusa nel 1449 Il viharn custodisce l'immagine principale del Buddha del Wat Suan Tan chiamata Phra Chao Chong Thip. L'immagine in bronzo in stile Sukhothai nella postura "Chiamare la Terra a testimoniare" che misura 4,11 metri di altezza è stata fusa nel 1449 durante il regno del re Lanna Tilokaraj. È fiancheggiato da due immagini più piccole del Buddha in piedi. L'Ho Trai o biblioteca è l'edificio dove sono conservate le scritture buddiste, il Tripiaka, tradizionalmente scritte su foglie di palma essiccate. L'Ho Trai del Wat Suan Tan è una piccola struttura a due piani sormontata da un ombrello ornamentale a cinque livelli e timpani su tutti e quattro i lati. Il tetto e i timpani sono nello stesso stile del viharn con chofah d'oro, bargeboard intagliati e piccoli timpani con motivi d'oro su rossi. Dietro il viharn si erge la struttura più antica del tempio, un grande chedi in stile Sukhothai. Il chedi del XIV secolo misura 40 metri di altezza. Su una base quadrata con angoli dentellati ci sono tre livelli di dimensioni decrescenti. Ciascuna delle facce del primo livello contiene una grande falsa nicchia. In cima al livello più alto c'è una campana in stile Sukhothai e quattro piccole guglie agli angoli. Il chedi è sormontato da un piccolo prang in stile Khmer e da un ombrello cerimoniale. Un altro viharn più piccolo, una piccola struttura a forma di sala aperta, ospita un'immagine del Buddha seduto. Anche sul terreno c'è un grande albero della Bodhi. Gli alberi della Bodhi si trovano spesso sul terreno dei templi thailandesi, poiché il Buddha meditò e raggiunse l'illuminazione sotto un albero della Bodhi circa 2.500 anni fa. Accanto al viharn principale si trova una statua di Guanyin, la dea cinese della misericordia.
Valter Maccari

Valter Maccari

hotel
Find your stay

The Coolest Hotels You Haven't Heard Of (Yet)

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

hotel
Find your stay

Trending Stays Worth the Hype in Nan Province

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

วัดสวนตาล “วัดสวนตาล” วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองน่านมาร่วม 600 ปีสร้างขึ้นในสมัยพระนางปทุมมาวดีชายาของพญาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่านเมื่อราวปี พ.ศ.1955 โดยสร้างขึ้นณบริเวณด้านนอกของกำแพงเมืองน่านด้านทิศเหนือ ซึ่งในอดีตเคยเป็นสวนตาลหลวงมาก่อน และเมื่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาชื่อวัดจึงถูกเรียกตามชื่อของสวนตาลหลวงนั่น เอง นอกจากนี้วัดสวนตาลยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าทองทิพย์” ทิพย์แห่งทองพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ด้วย ซึ่ง“พระเจ้าทองทิพย์” นี้จะประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในวิหารหลังใหญ่ วัดสวนตาลมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้วและถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1993 โดยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯทั้งนี้เพื่อแสดงถึงชัยชนะ ที่พระองค์สามารถยึดเมืองน่านไว้ในพระราชอำนาจได้นั่นเอง และในทุกๆปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ ชาวน่านจะจัดให้มีงานนมัสการและสรงน้ำ“พระเจ้าทองทิพย์” พระพุทธรูปองค์สำคัญที่ชาวน่านให้ความเคารพนับถือ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมาแต่อดีตเป็นประจำ และในบริเวณใกล้ๆ วิหารหลังใหญ่ยังมีวิหารหลังเล็กอีกหนึ่งหลัง ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐาน พระศรีอริยเมตไตรยปางนั่งพับเพียบองค์แรกที่พบใน ภาคเหนือ ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนักพร้อมกับมีพระเจ้า 5 ที่ประดิษฐานอยู่ที่เดียวกัน ทำให้มีประชาชนเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง
อนิรุทธิ์ ชุ่มธาราธร

อนิรุทธิ์ ชุ่มธาราธร

See more posts
See more posts