วัดคูหาสวรรค์พระอารามหลวงประจำจังหวัดพัทลุง เป็นอีกหนึ่งศาสนสถานที่ความสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติและของจังหวัดพัทลุง ตัววัดตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเชิงเขาหัวแตก ตำบลคูหาสวรรค์ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ชาวบ้านเรียกว่า “วัดคูหาสูง”หรือ“วัดสูง” ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างเมื่อใดแต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาราว ๆ พุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๕ ตามตำนานนางเลือดขาวระบุไว้ว่าเมื่อตาสามโมกับยายเพชรถึงแก่กรรมแล้วพระกุมารกับนางเลือดขาว ได้นำอัฐิของท่านทั้งสองไปเก็บไว้ในถ้ำคูหาสวรรค์ วัดคูหาสวรรค์เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ของไทยเสด็จอยู่เสมอมา ดังปรากฏพระปรมาภิไธยที่สลักไว้ที่เพิงหน้าถ้ำของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ (จปร.) จารึกในปี ร.ศ. ๑๐๘ หรือ พ.ศ. ๒๔๓๒ พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ (ปปร.) จารึกเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๑ พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ (ภปร.) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ (สก.) จารึกเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ นอกจากนี้บนผนังถ้ำยังมีจารึกพระนามาภิไธยของสมเด็จพระอริยวงษาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และพระนามาภิไธยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ภายในวัดมีถ้ำที่สำคัญคือถ้ำคูหาสวรรค์ หรือถ้ำน้ำเงินหรือถ้ำพระ ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกห่างพระอุโบสถประมาณ ๓๐ เมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่าถ้ำน้ำเงิน ภายในถ้ำยังขุดพบกรุพระขนาดใหญ่ มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๕ ทั้งยังมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ๑ องค์ มีความยาว ๑๒ เมตร หน้าตักกว้าง ๓.๗๐ เมตร สูงประมาณ ๖ เมตร สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตลอดถึงมีพระพุทธรูปปูนปั้นเรียงแถวเป็นระเบียบทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้และทิศตะวันตกรวมได้ ๓๗ องค์ พระพุทธรูปเหล่านี้ตามประวัติว่าพระมุนี (สมเด็จพะโคะหรือหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด) ได้ร่วมกันสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา จำนวน ๒๐ องค์ ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์ได้รับการบูรณะและต่อเติมพระพุทธรูปขึ้นอีก ๑๗ องค์ ด้านทิศตะวันออกของเศียรพระไสยาสน์มีกรุพระพิมพ์ที่ชาวบ้านได้ขุดพบพระแบบต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก มีทั้งพระจำหลักไม้พระพุทธรูปปูนปั้น พระสำริด และพระพิมพ์ดินดิบสมัยศรีวิชัย ชาวบ้านเรียกว่าพระผีทำ ปากถ้ำมีหินเป็นชั้นกั้นติดกับหินปากถ้ำสูงประมาณ ๒ เมตร ชาวบ้านเรียกว่าหัวทรพีตรงกันข้ามกับหัวทรพี มีรูปฤาษีตาไฟปูนปั้น ๑ องค์ มีตำนานว่านางเลือดขาวกับเจ้ากุมารสร้างขึ้นแทนอนุสาวรีย์ตาสามโมกับยายเพชรและได้บรรจุอัฐิของตายายทั้งสองไว้ภายใน ชาวบ้านถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากมีการบนปิดทองกันเต็มทั้งสององค์จนไม่สามารถเห็นลักษณะแท้จริงได้เคยได้รับการบูรณะมาแล้ว ๑ ครั้ง เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘...
Read moreวัดคูหาสวรรค์เป็นวัดที่สำคัญของจังหวัดพัทลุง วัดคูหาสวรรค์ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ... ปรากฎในพงศาวดารเมืองพัทลุง ตอนที่ ๑ สมัยดึกดำบรรพ์ ว่า " ครั้นกาลนานมาตายายถึงแก่กรรม(ตาสามโม/ยายเพชร) กุมารกับนางก็กระทำฌาปณกิจแล้วนำอัฐิไปฝังไว้ในถ้ำคูหาสวรรค์ " ... ปรากฎในหนังสือทำเนียบวัดจังหวัดพัทลุง ๑๐๐ วัด ของพระครูอริยสังวร (เอียด ติสฺสโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดพัทลุงว่่า " วัดคูหาสวรรค์ สร้าง พ.ศ. ๑๙๒๔ " ... สำหรับหลักฐานทางโบราณคดีนั้น ประวัติว่าที่นี่เคยพบพระพิมพ์ดินดิบ(พระผีทำ) แบบเดียวกับที่พบในลุ่มแม่น้ำตรัง ปัจจุบันในส่วนลึกของถ้ำยังปรากฎเศษอิฐขนาดใหญ่ผสมแกลบข้าวสาร ร่วมสมัยทวารวดี/ศรีวิชัย ให้เห็นอยู่บ้าง ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ ๑ องค์ และพระพุทธรูปปูนปั้น ปั้นด้วยดินเหนียวเรียงแถวเป็นระเบียบทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตก รวม ๓๗ องค์ ในส่วนนี้มีประวัติที่เพิ่มเติมจาก ๒ แหล่งอ้างอิงค์และแฝงด้วยความเชื่อ ที่ได้รวบรวมไว้ว่า ถ้ำคูหาสวรรค์ เดิมชาวบ้านเรียกว่า " ถ้ำน้ำเงิน " หรือ " ถ้ำพระ " ส่วนชื่อคูหาสวรรค์ เชื่อว่าน่าจะมีการเรียกมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ ถ้ำกว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๒๘ เมตร สูงเป็นเวิ้งรูปกรวย ตอนบนมีหินงอกคล้ายรูปช้าง ชาวบ้านเรียกว่า " ช้างผุด ” หรือ " หินลับแล " พื้นถ้ำปูด้วยอิฐถือปูน มีเจดีย์เล็กๆหนึ่งองค์ มีพระพุทธรูปปูนปั้นและปั้นด้วยดินเหนียวเรียงแถวเป็นระเบียบทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และ ทิศตะวันตก รวม ๓๗ องค์ มีขนาดต่างๆ กัน พระพุทธรูปเหล่านี้ตามประวัติว่า พระราชมุนี ( สมเด็จเจ้าพระโคะ หรือ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ) ได้ร่วมสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา จำนวน ๒๐ องค์ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ได้รับการบูรณะและสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีก ๑๗ องค์ ด้านทิศตะวันออกของเศียรพระพุทธไสยาสน์มีกรุพระพิมพ์ที่ชาวบ้านได้ขุดพบพระแบบต่างๆ เป็นจำนวนมาก มีทั้งพระจำหลักไม้พระพุทธรูปปูนปั้น พระสำริด และพระพิมพ์ดินดิบสมัยศรีวิชัย ชาวบ้านเรียกว่า " พระผีทำ " ปากถ้ำมีหินเป็นชั้นกั้นติดกับหินปากถ้ำ สูงประมาณ ๒ เมตร ชาวบ้านเรียกว่า " หัวทรพี ” ตรงข้ามเป็นรูปพระฤาษีตาไฟปูนปั้น มีตำนานว่านางเลือดขาวกับเจ้าพระยากุมารสร้างขึ้นแทนอนุสาวรีย์ตาสามโมกับยายเพชร และได้บรรจุอัฐิของตายายทั้ง ๒ ไว้ ภายใน ชาวบ้านถือว่า...
Read moreI didn't see all that's on the pics. But this much I saw. Maybe next time around.
It's in the center of town built because of the cave and jungle on stone phenomenon. The city must have been wild before. Still this city I'm loving it because it's just small and location wise it's really good. I don't...
Read more