HTML SitemapExplore
logo
Find Things to DoFind The Best Restaurants

Chantharakasem National Museum — Attraction in Phra Nakhon Si Ayutthaya City Municipality

Name
Chantharakasem National Museum
Description
Nearby attractions
Wat Khun Saen
85/2 Wat Senasanaram, Tha Wasukri, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Wat Rajapradit Sathan
9H69+X9J, Tambon Tha Wa Su Kri, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Nearby restaurants
Chainam Restaurant
U Thong Rd, Ho Rattanachai, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
ร้านบ้านปิ่นสุวรรณ์ - Baan Pinsuwan
9H7F+6P5, Pamaprao Soi 4, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Buffet Shabu Shabu NangNai,Ayutthaya
9H6C+GX4, Pa Maphrao, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Chang Wat Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Korea House Ayutthaya
9H6F+HHP ประตูชัย Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Here Kae Pork Satay
Pa Maphrao, Ho Rattanachai, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
NE RA Meat K-BBQ Buffet
12 12/39 ซอยพระนเรศวร 2, 39 U Thong Rd, Ho Rattanachai, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Isan Ban Saep
near temple watsenasanaram เลขที่ 11/45 ประตูชัย Jarkrapat road Patuchai, ayuthaya, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Satang
15 1 Naresuan Rd, Tha Wasukri, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
เส้นนุ่ม Thai food & Noodle
11, ประตูชัย 44 ถนน Pa Maphrao, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
ศีคราม Sikram
10 27 Naresaun Soi2, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Chang Wat Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Nearby hotels
Tharuadaeng Old city Ayutthaya
ณ 67/6-7 U Thong Rd, Hua Ro, Amphoe Phra Nakhon Si Ayutthaya, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Ayutthaya Thenee Hotel
4/89 หมู่ 8 U Thong Rd, ตำบล หัวรอ Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Ban Heng
จ.), T.Horrattanachai 60/2 U Thong Rd, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Ruen Tubtim resort
24 /2 หัวรอ ถนน อู่ทอง KOH LOY AMPHUR PRA NAKORN SRI AYUTHAYA TAMBON HUARAW Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Dawnthaya Ayutthaya Art House บ้านดอนธยา อยุธยา
96/2 Huaro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
P.U INN Resort
16, 20 Naresuan Rd, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Early Bird Hostel Ayutthaya
Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Baan Lotus Guest House
20 ถนน Pa Maphrao, Ho Rattanachai, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Baan Luang Harn Guesthouse
9H6F+37X, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
BRICKHOUSE Ayutthaya Guest House
12 34 Naresuan Rd, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Chang Wat Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
Related posts
Keywords
Chantharakasem National Museum tourism.Chantharakasem National Museum hotels.Chantharakasem National Museum bed and breakfast. flights to Chantharakasem National Museum.Chantharakasem National Museum attractions.Chantharakasem National Museum restaurants.Chantharakasem National Museum travel.Chantharakasem National Museum travel guide.Chantharakasem National Museum travel blog.Chantharakasem National Museum pictures.Chantharakasem National Museum photos.Chantharakasem National Museum travel tips.Chantharakasem National Museum maps.Chantharakasem National Museum things to do.
Chantharakasem National Museum things to do, attractions, restaurants, events info and trip planning
Chantharakasem National Museum
ThailandPhra Nakhon Si Ayutthaya ProvincePhra Nakhon Si Ayutthaya City MunicipalityChantharakasem National Museum

Basic Info

Chantharakasem National Museum

9H8F+7V5, U Thong Rd, Tambon Hua Ro, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, Phra Nakhon Si Ayutthaya 13000, Thailand
4.5(244)
Closed
Save
spot

Ratings & Description

Info

Cultural
Family friendly
Accessibility
attractions: Wat Khun Saen, Wat Rajapradit Sathan, restaurants: Chainam Restaurant, ร้านบ้านปิ่นสุวรรณ์ - Baan Pinsuwan, Buffet Shabu Shabu NangNai,Ayutthaya, Korea House Ayutthaya, Here Kae Pork Satay, NE RA Meat K-BBQ Buffet, Isan Ban Saep, Satang, เส้นนุ่ม Thai food & Noodle, ศีคราม Sikram
logoLearn more insights from Wanderboat AI.
Phone
+66 35 251 586
Website
virtualmuseum.finearts.go.th
Open hoursSee all hours
TueClosedClosed

Plan your stay

hotel
Pet-friendly Hotels in Phra Nakhon Si Ayutthaya City Municipality
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
Affordable Hotels in Phra Nakhon Si Ayutthaya City Municipality
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
The Coolest Hotels You Haven't Heard Of (Yet)
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.
hotel
Trending Stays Worth the Hype in Phra Nakhon Si Ayutthaya City Municipality
Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

Reviews

Nearby attractions of Chantharakasem National Museum

Wat Khun Saen

Wat Rajapradit Sathan

Wat Khun Saen

Wat Khun Saen

4.3

(35)

Open 24 hours
Click for details
Wat Rajapradit Sathan

Wat Rajapradit Sathan

4.3

(195)

Open 24 hours
Click for details

Nearby restaurants of Chantharakasem National Museum

Chainam Restaurant

ร้านบ้านปิ่นสุวรรณ์ - Baan Pinsuwan

Buffet Shabu Shabu NangNai,Ayutthaya

Korea House Ayutthaya

Here Kae Pork Satay

NE RA Meat K-BBQ Buffet

Isan Ban Saep

Satang

เส้นนุ่ม Thai food & Noodle

ศีคราม Sikram

Chainam Restaurant

Chainam Restaurant

4.2

(186)

$$

Click for details
ร้านบ้านปิ่นสุวรรณ์ - Baan Pinsuwan

ร้านบ้านปิ่นสุวรรณ์ - Baan Pinsuwan

3.1

(18)

Click for details
Buffet Shabu Shabu NangNai,Ayutthaya

Buffet Shabu Shabu NangNai,Ayutthaya

4.2

(173)

Click for details
Korea House Ayutthaya

Korea House Ayutthaya

4.2

(60)

Click for details
Get the Appoverlay
Get the AppOne tap to find yournext favorite spots!
Wanderboat LogoWanderboat

Your everyday Al companion for getaway ideas

CompanyAbout Us
InformationAI Trip PlannerSitemap
SocialXInstagramTiktokLinkedin
LegalTerms of ServicePrivacy Policy

Get the app

© 2025 Wanderboat. All rights reserved.
logo

Posts

suchart ccsuchart cc
คนอยุธยาในอดีตจะคุ้นกับชื่อวังจันทรเกษม กันเพราะเป็นสถานที่จำหน่ายของกินและของใช้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็นรวมทั้งมีตลาดพระเครื่อง นาทีนั้นทุกคนจะต้องมาที่หน้าวัง แต่มีไม่น้อยที่ไม่ทราบว่าที่วังจันทรเกษม เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอยู่ด้วย อาจจะเป็นด้วยชื่อป้ายของพิพิธภัณฑ์ไม่เด่นก็เป็นได้ อยุธยาเมืองราชธานีเก่าของเราที่มีอายุยืนยาวกว่า 400 ปีมีประวัติศาสตร์มากมาย จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถึง 2 แห่งเช่นเดียวกับอีก 4 จังหวัด( สุโขทัย อยุธยา สุพรรณบุรี นครราชสีมา สงขลา ) พิพิธภัณฑ์อีกแห่งที่อยุธยาคือพิพิธภัณฑเจ้าสามพระยา พระราชวังจันทรเกษม สร้างสมัยพระมหาธรรมราชา เมื่อพุทธศักราช 2120 เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และต่อมาได้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และพระมหาอุปราชที่สำคัญหลายพระองค์เช่นสมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระเจ้าเสือ ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในพุทธศักราช 2310 พระราชวังแห่งนี้ถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 จึงได้มีการบูรณะและปรับปรุงพระราชวังขึ้นใหม่เพื่อใช้สำหรับเป็นที่ประทับในเวลาที่พระองค์เสด็จประพาสอยุธยา ซึ่งพระองค์ได้เสด็จมาประทับที่นี่หลายครั้งและพระราชทานนามพระราชวังว่า “ พระราชวังจันทรเกษม” ตามชื่อพระราชวังจันทน์ที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรที่เมืองพิษณุโลก ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้ใช้พระราชวังเป็นที่ทำการมณฑลกรุงเก่า โดยใช้พระที่นั่งพิมานรัตยาเป็นที่ทำการ ด้วยความที่ส่วนใหญ่สร้างในสมัยรัชกาลที่4 จึงมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของพระองค์สิ่งหนึ่งคือ หอพิสัยศัลลักษณ์ เป็นหอส่องกล้องเพื่อทรงใช้ศึกษาดาราศาสตร์ เช่นเดียวกับพระนครคีรีที่เขาวัง เพชรบุรี พระองค์ให้สร้างหอชัชวาลเวียงชัย ไว้บนยอดเขาวังเพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรดวงดาว ต่อมาได้ใช้พระราชวังนี้เป็นที่ทำการมณฑลเทศาภิบาล ศาลากลางจังหวัด และปัจจุบันเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า( 2449-2472 )เป็นผู้ที่รวบรวมโบราณวัตถุที่สำคัญในบริเวณกรุงเก่าและใกล้เคียงไว้เป็นจำนวนมากในพระราชวังจันทรเกษมแห่งนี้ ต่อมากรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการจัดแสดงและประกาศให้เป็น“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในส่วนภูมิภาคแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งในอาคารมหาดไทยได้จัดเป็นห้องที่ระลึกให้กับพระยาโบราณราชธานินทร์ เพื่อเป็นเกียรติสำหรับท่าน พระราชวังมีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีกำแพงรอบ อาคารภายในจึงปลูกตามแนวกำแพง มีสนามหญ้าตรงกลาง อาคารที่สำคัญคือ พลับพลาจตุรมุข อยู่ด้านซ้ายมือเป็นอาคารจตุรมุขแฝด ที่หน้าบันทั้ง 6 ด้านมีตราพระราชลัญจกรไม่ซ้ำกัน ใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับออกว่าราชการและที่ประทับ พลับพลานี้จะเหมือนกับพระนครคีรีอยู่หนึ่งอย่างคือ มีเกย เช่นเดียวกัน ภายในพลับพลาจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ของพระองค์ท่าน ตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านในได้แล้ว High Light ของใช้ส่วนพระองค์รัชกาลที่ 4 ในพลับพลานี้มี 2 สิ่ง สิ่งแรก “พระแท่นบรรทม ”เป็นไม้จำหลัก ลงรักปิดทอง ประดับกระจก สวยงาม สิ่งที่สองเป็น “พระเก้าอี้” ไม้พยุงปรับเอนนอนได้เป็นระยะ พนักพิงฉลุลายแจกันดอกไม้และลายเครือเถา ที่เท้าแขนและที่นั่งมีเบาะหุ้มด้วยผ้าปัก ขาทั้ง 4 ข้างติดล้อเลื่อน ฝีมือช่างจีน พระที่นั่งพิมานรัตยา อยู่ถัดจากพลับพลาจตุรมุขเข้าไป เป็นหมู่อาคารที่สร้างใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4 ตามแนวฐานรากเดิมสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นศิลปะผสมระหว่างยุโรปกับจีน เคยเป็นที่ทำการมณฑลกรุงเก่า ปัจจุบันจัดแสดงวัตถุโบราณประเภทพระเครื่องหลายยุคที่สำคัญไว้ในพระที่นั่งแห่งนี้ เช่นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ทั้งปางประทานอภัยและปางมารวิชัย พระพุทธรูปปางสมาธิ พระเทวดา ศิลปะอยุธยา พระคเณศ ศิลปะลพบุรี ขอบอกนิดบันไดขึ้นพระที่นั่งแต่ละขั้นสูงมากๆ บ่งบอกว่าคนในสมัยนั้นรูปร่างสูงใหญ่ ขายาว อาคารมหาดไทย ลักษณะเป็นตัวแอล สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 แล้วย้ายที่ทำการมณฑลกรุงเก่าจากพระที่นั่งพิมานรัตยามายังอาคารหลังนี้ ปัจจุบันใช้จัดแสดงวัตถุโบราณที่สำคัญให้ชมมากมายเช่น เก๋งเรือ จำหลักไม้ปิดทอง ตู้พระธรรม ลงรักปิดทอง นภศูล ศิลปะอยุธยาพุทธศตวรรษที่ 20 มาอยุธยากันแล้วเชิญมาเข้าวังกันสักครั้ง ครบทั้งวังและพิพิธภัณฑ์แล้วท่านจะรักอยุธยามากขึ้น… แถมท้ายด้วยพื้นทุกอาคารเป็นพื้นไม้สัก ขัดมัน สวยงาม การเข้าชมจึงต้องถอดรองเท้า ท่านเตรียมรองเท้าให้เหมาะสมก็สดวกดีครับ
Nannn NyyyNannn Nyyy
พระราชวังจันทรเกษมที่สร้างขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ ๔ (เดิมคือวังหน้า หรือวังที่ประทับของสมเด็จพระมหาอุปราชในสมัยกรุงศรีอยุธยา) . “...วังน่าแรกมีขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เมื่อราวปีวอก พ.ศ.๒๑๑๕ เข้าใจว่าแรกเรียกว่า "วังจันทรเกษม" นั้น ในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วังน่าได้เปนที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ๓ ครั้ง คือ - แผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครั้ง ๑ - แผ่นดินสมเด็จพระนารายน์มหาราชครั้ง ๑ - แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐครั้ง ๑ พระมหาอุปราชที่ได้เสด็จประทับที่วังจันทรเกษมมี ๘ พระองค์ คือ - สมเด็จพระนเรศวรพระองค์ ๑ - สมเด็จพระเอกาทศรถพระองค์ ๑ - เจ้าฟ้าสุทัศน์พระองค์ ๑ - สมเด็จพระนารายน์พระองค์ ๑ - พระเจ้าเสือ (เปนแรกที่ปรากฏพระนามว่า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล) พระองค์ ๑ - พระเจ้าท้ายสระพระองค์ ๑ - พระเจ้าบรมโกษฐพระองค์ ๑ - กรมพระราชวังบวรมหาเสนาพิทักษ์ (เปนที่สุด) พระองค์ ๑ . พระราชมณเฑียรสถานที่ต่างๆ ในวังจันทรเกษม ซึ่งเปนของเก่าสร้างมาตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แลสมเด็จพระนารายน์มหาราช ตลอดมาจนสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐ เห็นจะเป็นอันตรายสูญไปเสียเมื่อไฟไหม้ ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐโดยมาก ที่สร้างใหม่ชั้นหลังสำหรับกรมพระราชวังบรวรมหาเสนาพิทักษ์ เข้าใจว่า เห็นจะทำแต่เปนสถานประมาณพอเสด็จได้อยู่ หมดของดีงามมาแต่ครั้งนั้นชั้นหนึ่งแล้ว ครั้นเสียกรุงเก่า วังจันทรเกษมเปนที่ทิ้งร้างทรุดโทรมมาอีกกว่า ๘๐ ปี ทั้งรื้อเอาอิฐมาสร้างกำแพงพระนครรัตนโกสินทรเมื่อในรัชกาลที่ ๑ แล้วรื้อเอามาสร้างพระอารามเมื่อในรัชกาลที่ ๓ เสียเปนอันมาก พึ่งมาสถาปนาเปนพระราชวังขึ้นอีกเมื่อในรัชกาลที่ ๔
mrjoy pkmrjoy pk
ในสมัยอยุธยาคือพระราชวังจันทรเกษมหรือวังหน้า สร้างไว้เป็นที่ประทับชั่วคราวของสมเด็จพระนเรศวร ครั้นเสด็จลงมาจากเมืองพิษณุโลก ชื่อจึงสอดคล้องกับพระราชวังจันทร์ที่นั่น แต่ช่วงเกิดสงครามครั้งเสียกรุง พม่าได้บุกเข้าตีตรงตลาดหัวรอ และได้ทำลายพื้นที่นี้ไปเสียส่วนใหญ่ ถึงสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้ปรับปรุงและสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาใหม่และใช้พื้นที่นี้เป็นพลับพลาที่ประทับ ครั้งเสด็จมาทรงงานในพระนครศรีอยุธยา ได้มีการต่อเติมอย่างต่อเนื่องจนถึงรัชกาลที่ ๖ ก่อนจะได้มาเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษมในปัจจุบัน สถานที่นี้ใช้เป็นสถานที่ราชการ โดยพระที่นั่งพิมานรัตยาเป็นที่ทำการ จนพระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า จัดสร้างอาคารที่ทำการภาคขึ้น จึงย้ายที่ว่าการจากพระที่นั่งพิมานรัตยามาตั้งที่อาคารที่ทำการภาค และพระยาโบราณราชธานินทร์ได้รวบรวมวัตถุสิ่งของสำคัญในบริเวณกรุงเก่าและบริเวณใกล้เคียงไว้เป็นจำนวนมาก มาเก็บรักษาไว้ที่พระราชวังจันทรเกษม พระยาโบราณราชธานินทร์ ถือเป็นผู้มีความรอบรู้ในประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาและการเป็นผู้บุกเบิกการค้นคว้าทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาในยุคแรก
See more posts
See more posts
hotel
Find your stay

Pet-friendly Hotels in Phra Nakhon Si Ayutthaya City Municipality

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

คนอยุธยาในอดีตจะคุ้นกับชื่อวังจันทรเกษม กันเพราะเป็นสถานที่จำหน่ายของกินและของใช้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็นรวมทั้งมีตลาดพระเครื่อง นาทีนั้นทุกคนจะต้องมาที่หน้าวัง แต่มีไม่น้อยที่ไม่ทราบว่าที่วังจันทรเกษม เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอยู่ด้วย อาจจะเป็นด้วยชื่อป้ายของพิพิธภัณฑ์ไม่เด่นก็เป็นได้ อยุธยาเมืองราชธานีเก่าของเราที่มีอายุยืนยาวกว่า 400 ปีมีประวัติศาสตร์มากมาย จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถึง 2 แห่งเช่นเดียวกับอีก 4 จังหวัด( สุโขทัย อยุธยา สุพรรณบุรี นครราชสีมา สงขลา ) พิพิธภัณฑ์อีกแห่งที่อยุธยาคือพิพิธภัณฑเจ้าสามพระยา พระราชวังจันทรเกษม สร้างสมัยพระมหาธรรมราชา เมื่อพุทธศักราช 2120 เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และต่อมาได้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และพระมหาอุปราชที่สำคัญหลายพระองค์เช่นสมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระเจ้าเสือ ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในพุทธศักราช 2310 พระราชวังแห่งนี้ถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 จึงได้มีการบูรณะและปรับปรุงพระราชวังขึ้นใหม่เพื่อใช้สำหรับเป็นที่ประทับในเวลาที่พระองค์เสด็จประพาสอยุธยา ซึ่งพระองค์ได้เสด็จมาประทับที่นี่หลายครั้งและพระราชทานนามพระราชวังว่า “ พระราชวังจันทรเกษม” ตามชื่อพระราชวังจันทน์ที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรที่เมืองพิษณุโลก ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้ใช้พระราชวังเป็นที่ทำการมณฑลกรุงเก่า โดยใช้พระที่นั่งพิมานรัตยาเป็นที่ทำการ ด้วยความที่ส่วนใหญ่สร้างในสมัยรัชกาลที่4 จึงมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของพระองค์สิ่งหนึ่งคือ หอพิสัยศัลลักษณ์ เป็นหอส่องกล้องเพื่อทรงใช้ศึกษาดาราศาสตร์ เช่นเดียวกับพระนครคีรีที่เขาวัง เพชรบุรี พระองค์ให้สร้างหอชัชวาลเวียงชัย ไว้บนยอดเขาวังเพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรดวงดาว ต่อมาได้ใช้พระราชวังนี้เป็นที่ทำการมณฑลเทศาภิบาล ศาลากลางจังหวัด และปัจจุบันเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า( 2449-2472 )เป็นผู้ที่รวบรวมโบราณวัตถุที่สำคัญในบริเวณกรุงเก่าและใกล้เคียงไว้เป็นจำนวนมากในพระราชวังจันทรเกษมแห่งนี้ ต่อมากรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการจัดแสดงและประกาศให้เป็น“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในส่วนภูมิภาคแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งในอาคารมหาดไทยได้จัดเป็นห้องที่ระลึกให้กับพระยาโบราณราชธานินทร์ เพื่อเป็นเกียรติสำหรับท่าน พระราชวังมีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีกำแพงรอบ อาคารภายในจึงปลูกตามแนวกำแพง มีสนามหญ้าตรงกลาง อาคารที่สำคัญคือ พลับพลาจตุรมุข อยู่ด้านซ้ายมือเป็นอาคารจตุรมุขแฝด ที่หน้าบันทั้ง 6 ด้านมีตราพระราชลัญจกรไม่ซ้ำกัน ใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับออกว่าราชการและที่ประทับ พลับพลานี้จะเหมือนกับพระนครคีรีอยู่หนึ่งอย่างคือ มีเกย เช่นเดียวกัน ภายในพลับพลาจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ของพระองค์ท่าน ตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านในได้แล้ว High Light ของใช้ส่วนพระองค์รัชกาลที่ 4 ในพลับพลานี้มี 2 สิ่ง สิ่งแรก “พระแท่นบรรทม ”เป็นไม้จำหลัก ลงรักปิดทอง ประดับกระจก สวยงาม สิ่งที่สองเป็น “พระเก้าอี้” ไม้พยุงปรับเอนนอนได้เป็นระยะ พนักพิงฉลุลายแจกันดอกไม้และลายเครือเถา ที่เท้าแขนและที่นั่งมีเบาะหุ้มด้วยผ้าปัก ขาทั้ง 4 ข้างติดล้อเลื่อน ฝีมือช่างจีน พระที่นั่งพิมานรัตยา อยู่ถัดจากพลับพลาจตุรมุขเข้าไป เป็นหมู่อาคารที่สร้างใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4 ตามแนวฐานรากเดิมสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นศิลปะผสมระหว่างยุโรปกับจีน เคยเป็นที่ทำการมณฑลกรุงเก่า ปัจจุบันจัดแสดงวัตถุโบราณประเภทพระเครื่องหลายยุคที่สำคัญไว้ในพระที่นั่งแห่งนี้ เช่นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ทั้งปางประทานอภัยและปางมารวิชัย พระพุทธรูปปางสมาธิ พระเทวดา ศิลปะอยุธยา พระคเณศ ศิลปะลพบุรี ขอบอกนิดบันไดขึ้นพระที่นั่งแต่ละขั้นสูงมากๆ บ่งบอกว่าคนในสมัยนั้นรูปร่างสูงใหญ่ ขายาว อาคารมหาดไทย ลักษณะเป็นตัวแอล สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 แล้วย้ายที่ทำการมณฑลกรุงเก่าจากพระที่นั่งพิมานรัตยามายังอาคารหลังนี้ ปัจจุบันใช้จัดแสดงวัตถุโบราณที่สำคัญให้ชมมากมายเช่น เก๋งเรือ จำหลักไม้ปิดทอง ตู้พระธรรม ลงรักปิดทอง นภศูล ศิลปะอยุธยาพุทธศตวรรษที่ 20 มาอยุธยากันแล้วเชิญมาเข้าวังกันสักครั้ง ครบทั้งวังและพิพิธภัณฑ์แล้วท่านจะรักอยุธยามากขึ้น… แถมท้ายด้วยพื้นทุกอาคารเป็นพื้นไม้สัก ขัดมัน สวยงาม การเข้าชมจึงต้องถอดรองเท้า ท่านเตรียมรองเท้าให้เหมาะสมก็สดวกดีครับ
suchart cc

suchart cc

hotel
Find your stay

Affordable Hotels in Phra Nakhon Si Ayutthaya City Municipality

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

Get the Appoverlay
Get the AppOne tap to find yournext favorite spots!
พระราชวังจันทรเกษมที่สร้างขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ ๔ (เดิมคือวังหน้า หรือวังที่ประทับของสมเด็จพระมหาอุปราชในสมัยกรุงศรีอยุธยา) . “...วังน่าแรกมีขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เมื่อราวปีวอก พ.ศ.๒๑๑๕ เข้าใจว่าแรกเรียกว่า "วังจันทรเกษม" นั้น ในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วังน่าได้เปนที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ๓ ครั้ง คือ - แผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครั้ง ๑ - แผ่นดินสมเด็จพระนารายน์มหาราชครั้ง ๑ - แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐครั้ง ๑ พระมหาอุปราชที่ได้เสด็จประทับที่วังจันทรเกษมมี ๘ พระองค์ คือ - สมเด็จพระนเรศวรพระองค์ ๑ - สมเด็จพระเอกาทศรถพระองค์ ๑ - เจ้าฟ้าสุทัศน์พระองค์ ๑ - สมเด็จพระนารายน์พระองค์ ๑ - พระเจ้าเสือ (เปนแรกที่ปรากฏพระนามว่า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล) พระองค์ ๑ - พระเจ้าท้ายสระพระองค์ ๑ - พระเจ้าบรมโกษฐพระองค์ ๑ - กรมพระราชวังบวรมหาเสนาพิทักษ์ (เปนที่สุด) พระองค์ ๑ . พระราชมณเฑียรสถานที่ต่างๆ ในวังจันทรเกษม ซึ่งเปนของเก่าสร้างมาตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แลสมเด็จพระนารายน์มหาราช ตลอดมาจนสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐ เห็นจะเป็นอันตรายสูญไปเสียเมื่อไฟไหม้ ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐโดยมาก ที่สร้างใหม่ชั้นหลังสำหรับกรมพระราชวังบรวรมหาเสนาพิทักษ์ เข้าใจว่า เห็นจะทำแต่เปนสถานประมาณพอเสด็จได้อยู่ หมดของดีงามมาแต่ครั้งนั้นชั้นหนึ่งแล้ว ครั้นเสียกรุงเก่า วังจันทรเกษมเปนที่ทิ้งร้างทรุดโทรมมาอีกกว่า ๘๐ ปี ทั้งรื้อเอาอิฐมาสร้างกำแพงพระนครรัตนโกสินทรเมื่อในรัชกาลที่ ๑ แล้วรื้อเอามาสร้างพระอารามเมื่อในรัชกาลที่ ๓ เสียเปนอันมาก พึ่งมาสถาปนาเปนพระราชวังขึ้นอีกเมื่อในรัชกาลที่ ๔
Nannn Nyyy

Nannn Nyyy

hotel
Find your stay

The Coolest Hotels You Haven't Heard Of (Yet)

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

hotel
Find your stay

Trending Stays Worth the Hype in Phra Nakhon Si Ayutthaya City Municipality

Find a cozy hotel nearby and make it a full experience.

ในสมัยอยุธยาคือพระราชวังจันทรเกษมหรือวังหน้า สร้างไว้เป็นที่ประทับชั่วคราวของสมเด็จพระนเรศวร ครั้นเสด็จลงมาจากเมืองพิษณุโลก ชื่อจึงสอดคล้องกับพระราชวังจันทร์ที่นั่น แต่ช่วงเกิดสงครามครั้งเสียกรุง พม่าได้บุกเข้าตีตรงตลาดหัวรอ และได้ทำลายพื้นที่นี้ไปเสียส่วนใหญ่ ถึงสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้ปรับปรุงและสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาใหม่และใช้พื้นที่นี้เป็นพลับพลาที่ประทับ ครั้งเสด็จมาทรงงานในพระนครศรีอยุธยา ได้มีการต่อเติมอย่างต่อเนื่องจนถึงรัชกาลที่ ๖ ก่อนจะได้มาเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษมในปัจจุบัน สถานที่นี้ใช้เป็นสถานที่ราชการ โดยพระที่นั่งพิมานรัตยาเป็นที่ทำการ จนพระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า จัดสร้างอาคารที่ทำการภาคขึ้น จึงย้ายที่ว่าการจากพระที่นั่งพิมานรัตยามาตั้งที่อาคารที่ทำการภาค และพระยาโบราณราชธานินทร์ได้รวบรวมวัตถุสิ่งของสำคัญในบริเวณกรุงเก่าและบริเวณใกล้เคียงไว้เป็นจำนวนมาก มาเก็บรักษาไว้ที่พระราชวังจันทรเกษม พระยาโบราณราชธานินทร์ ถือเป็นผู้มีความรอบรู้ในประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาและการเป็นผู้บุกเบิกการค้นคว้าทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาในยุคแรก
mrjoy pk

mrjoy pk

See more posts
See more posts

Reviews of Chantharakasem National Museum

4.5
(244)
avatar
5.0
25w

คนอยุธยาในอดีตจะคุ้นกับชื่อวังจันทรเกษม กันเพราะเป็นสถานที่จำหน่ายของกินและของใช้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็นรวมทั้งมีตลาดพระเครื่อง นาทีนั้นทุกคนจะต้องมาที่หน้าวัง แต่มีไม่น้อยที่ไม่ทราบว่าที่วังจันทรเกษม เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอยู่ด้วย อาจจะเป็นด้วยชื่อป้ายของพิพิธภัณฑ์ไม่เด่นก็เป็นได้

อยุธยาเมืองราชธานีเก่าของเราที่มีอายุยืนยาวกว่า 400 ปีมีประวัติศาสตร์มากมาย จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถึง 2 แห่งเช่นเดียวกับอีก 4 จังหวัด( สุโขทัย อยุธยา สุพรรณบุรี นครราชสีมา สงขลา ) พิพิธภัณฑ์อีกแห่งที่อยุธยาคือพิพิธภัณฑเจ้าสามพระยา

พระราชวังจันทรเกษม สร้างสมัยพระมหาธรรมราชา เมื่อพุทธศักราช 2120 เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และต่อมาได้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และพระมหาอุปราชที่สำคัญหลายพระองค์เช่นสมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระเจ้าเสือ ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในพุทธศักราช 2310 พระราชวังแห่งนี้ถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 จึงได้มีการบูรณะและปรับปรุงพระราชวังขึ้นใหม่เพื่อใช้สำหรับเป็นที่ประทับในเวลาที่พระองค์เสด็จประพาสอยุธยา ซึ่งพระองค์ได้เสด็จมาประทับที่นี่หลายครั้งและพระราชทานนามพระราชวังว่า “ พระราชวังจันทรเกษม” ตามชื่อพระราชวังจันทน์ที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรที่เมืองพิษณุโลก

ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้ใช้พระราชวังเป็นที่ทำการมณฑลกรุงเก่า โดยใช้พระที่นั่งพิมานรัตยาเป็นที่ทำการ ด้วยความที่ส่วนใหญ่สร้างในสมัยรัชกาลที่4 จึงมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของพระองค์สิ่งหนึ่งคือ หอพิสัยศัลลักษณ์ เป็นหอส่องกล้องเพื่อทรงใช้ศึกษาดาราศาสตร์ เช่นเดียวกับพระนครคีรีที่เขาวัง เพชรบุรี พระองค์ให้สร้างหอชัชวาลเวียงชัย ไว้บนยอดเขาวังเพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรดวงดาว ต่อมาได้ใช้พระราชวังนี้เป็นที่ทำการมณฑลเทศาภิบาล ศาลากลางจังหวัด และปัจจุบันเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม

พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า( 2449-2472 )เป็นผู้ที่รวบรวมโบราณวัตถุที่สำคัญในบริเวณกรุงเก่าและใกล้เคียงไว้เป็นจำนวนมากในพระราชวังจันทรเกษมแห่งนี้ ต่อมากรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการจัดแสดงและประกาศให้เป็น“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในส่วนภูมิภาคแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งในอาคารมหาดไทยได้จัดเป็นห้องที่ระลึกให้กับพระยาโบราณราชธานินทร์ เพื่อเป็นเกียรติสำหรับท่าน พระราชวังมีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีกำแพงรอบ อาคารภายในจึงปลูกตามแนวกำแพง มีสนามหญ้าตรงกลาง อาคารที่สำคัญคือ พลับพลาจตุรมุข อยู่ด้านซ้ายมือเป็นอาคารจตุรมุขแฝด ที่หน้าบันทั้ง 6 ด้านมีตราพระราชลัญจกรไม่ซ้ำกัน ใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับออกว่าราชการและที่ประทับ พลับพลานี้จะเหมือนกับพระนครคีรีอยู่หนึ่งอย่างคือ มีเกย เช่นเดียวกัน ภายในพลับพลาจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ของพระองค์ท่าน ตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านในได้แล้ว

High Light ของใช้ส่วนพระองค์รัชกาลที่ 4 ในพลับพลานี้มี 2 สิ่ง สิ่งแรก “พระแท่นบรรทม ”เป็นไม้จำหลัก ลงรักปิดทอง ประดับกระจก สวยงาม สิ่งที่สองเป็น “พระเก้าอี้” ไม้พยุงปรับเอนนอนได้เป็นระยะ พนักพิงฉลุลายแจกันดอกไม้และลายเครือเถา ที่เท้าแขนและที่นั่งมีเบาะหุ้มด้วยผ้าปัก ขาทั้ง 4 ข้างติดล้อเลื่อน ฝีมือช่างจีน

พระที่นั่งพิมานรัตยา อยู่ถัดจากพลับพลาจตุรมุขเข้าไป เป็นหมู่อาคารที่สร้างใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4 ตามแนวฐานรากเดิมสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นศิลปะผสมระหว่างยุโรปกับจีน เคยเป็นที่ทำการมณฑลกรุงเก่า ปัจจุบันจัดแสดงวัตถุโบราณประเภทพระเครื่องหลายยุคที่สำคัญไว้ในพระที่นั่งแห่งนี้ เช่นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ทั้งปางประทานอภัยและปางมารวิชัย พระพุทธรูปปางสมาธิ พระเทวดา ศิลปะอยุธยา พระคเณศ ศิลปะลพบุรี ขอบอกนิดบันไดขึ้นพระที่นั่งแต่ละขั้นสูงมากๆ บ่งบอกว่าคนในสมัยนั้นรูปร่างสูงใหญ่ ขายาว

อาคารมหาดไทย ลักษณะเป็นตัวแอล สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 แล้วย้ายที่ทำการมณฑลกรุงเก่าจากพระที่นั่งพิมานรัตยามายังอาคารหลังนี้ ปัจจุบันใช้จัดแสดงวัตถุโบราณที่สำคัญให้ชมมากมายเช่น เก๋งเรือ จำหลักไม้ปิดทอง ตู้พระธรรม ลงรักปิดทอง นภศูล ศิลปะอยุธยาพุทธศตวรรษที่ 20 มาอยุธยากันแล้วเชิญมาเข้าวังกันสักครั้ง ครบทั้งวังและพิพิธภัณฑ์แล้วท่านจะรักอยุธยามากขึ้น… แถมท้ายด้วยพื้นทุกอาคารเป็นพื้นไม้สัก ขัดมัน สวยงาม การเข้าชมจึงต้องถอดรองเท้า...

   Read more
avatar
2.0
5y

I am as foreigner who seek a bit of history about the debris of temples that lies all over Ayutthaya.. This really conventional like museum. Cannot give any knowledge if u come here alone.. This museum only able to be fully function for the locals.. maybe.. The staff cannot speak English. I am sure all of the collections they have are precious, but because no proper meaningful explanation, it become meaningless.. I suggest u to make it more interesting, with stories, with audio and visual facilities, like they did in ChiangMai City Arts & Cultural Centre .. Bring the visitor return to d past, as if we are in that age.. Make our more than 3 times admission fee worth it.. Otherwise, it will only be a collections of antiques without any meaning... I gave an extra star because ur staffs, though they can't speak English (while I am sure they equipped with knowledge of the collections they are maintained), still they are nice enough to try.. Attitude is...

   Read more
avatar
5.0
7y

พระราชวังจันทรเกษมที่สร้างขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ ๔ (เดิมคือวังหน้า หรือวังที่ประทับของสมเด็จพระมหาอุปราชในสมัยกรุงศรีอยุธยา) . “...วังน่าแรกมีขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เมื่อราวปีวอก พ.ศ.๒๑๑๕ เข้าใจว่าแรกเรียกว่า "วังจันทรเกษม" นั้น ในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วังน่าได้เปนที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ๓ ครั้ง คือ แผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครั้ง ๑ แผ่นดินสมเด็จพระนารายน์มหาราชครั้ง ๑ แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐครั้ง ๑

พระมหาอุปราชที่ได้เสด็จประทับที่วังจันทรเกษมมี ๘ พระองค์ คือ สมเด็จพระนเรศวรพระองค์ ๑ สมเด็จพระเอกาทศรถพระองค์ ๑ เจ้าฟ้าสุทัศน์พระองค์ ๑ สมเด็จพระนารายน์พระองค์ ๑ พระเจ้าเสือ (เปนแรกที่ปรากฏพระนามว่า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล) พระองค์ ๑ พระเจ้าท้ายสระพระองค์ ๑ พระเจ้าบรมโกษฐพระองค์ ๑ กรมพระราชวังบวรมหาเสนาพิทักษ์ (เปนที่สุด) พระองค์ ๑ . พระราชมณเฑียรสถานที่ต่างๆ ในวังจันทรเกษม ซึ่งเปนของเก่าสร้างมาตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แลสมเด็จพระนารายน์มหาราช ตลอดมาจนสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐ เห็นจะเป็นอันตรายสูญไปเสียเมื่อไฟไหม้ ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าบรมโกษฐโดยมาก ที่สร้างใหม่ชั้นหลังสำหรับกรมพระราชวังบรวรมหาเสนาพิทักษ์ เข้าใจว่า เห็นจะทำแต่เปนสถานประมาณพอเสด็จได้อยู่ หมดของดีงามมาแต่ครั้งนั้นชั้นหนึ่งแล้ว ครั้นเสียกรุงเก่า วังจันทรเกษมเปนที่ทิ้งร้างทรุดโทรมมาอีกกว่า ๘๐ ปี ทั้งรื้อเอาอิฐมาสร้างกำแพงพระนครรัตนโกสินทรเมื่อในรัชกาลที่ ๑ แล้วรื้อเอามาสร้างพระอารามเมื่อในรัชกาลที่ ๓ เสียเปนอันมาก...

   Read more
Page 1 of 7
Previous
Next