เป็นวัดเก่าแก่มีมาก่อนก่อร่างสร้างเมืองเชียงราย ปัจจุบันทางวัดมีการพัฒนาถนนขึ้นลง ลานจอดรถ และภูมิทัศน์ให้เดินทางง่าย เพื่อห้นทท.ได้มาถึงและเยี่ยมชมวัดได้อย่างสะดวกสบายและรอบๆยังมีจุดชมวิวดูเมืองชรจากมุมสูงหลายจุดครับ ประวัติเพิ่มเติม วัดพระธาตุดอยจอมทอง อยู่ในเขตอำเภอเมืองเชียงราย มีสิ่งสำคัญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชา ได้แก่ องค์พระธาตุดอยจอมทอง ซึ่งเป็นหนึ่งในพระธาตุ 9 จอม สะดือเมืองเชียงราย ( เสาหลักเมือง) และ ศาลเจ้าพ่อดอยทอง ตัววัดตั้งอยู่บนดอยจอมทองซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบของเมืองเชียงรายได้ ตามประวัติวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระยาเรือนแก้ว ผู้ครองเมืองไชยนารายณ์ ( อำเภอเวียงชัย ปัจจุบัน) ราวปี พ.ศ. 1332 ต่อมาในสมัยของพญามังรายมหาราช ขณะนั้นเป็นเจ้าเมืองหิรัญนครเงินยาง (เชียงแสน ในปัจจุบัน) เมื่อช้างพระที่นั่งหายจึงทรงติดตามมาพบที่วังคำ พระองค์ได้เสด็จขึ้นมาบนดอยจอมทองทรงเห็นว่าเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม จึงโปรดให้ก่อสร้างปราการโอบดอยไว้โดยรอบขนานนามว่าเมืองเชียงราย และทรงกำหนดให้พื้นที่ในบริเวณเดียวกันเป็นสะดือเมืองเชียงราย ต่อมาจึงมีการสร้างพระธาตุขึ้น ในคราวที่พระมหาเถระจากเมืองลังกา มาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาจำนวน 16 องค์ ถวายแก่พระเจ้าพังคราชเจ้าเมืองโยนกนาคพันธุ์ พระธาตุบางส่วนได้ถูกอัญเชิญไปบรรจุและสร้างพระธาตุจอมกิตติ ที่เชียงแสน อีก 3 องค์ พระองค์ได้มอบให้แก่พญาเรือนแก้ว เจ้าเมืองไชยนารายณ์ จึงนำบรรจุเป็นพระธาตุดอยจอมทอง ซึ่งมีลักษณะสถาปัตยกรรมล้านนาและพุกาม ตั้งอยู่ภายในวัด และมีประเพณีการสรงน้ำพระธาตุในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ใต้ (เดือน 5 เหนือ)
ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการสร้างพระวิหารขึ้นและได้มีการบูรณะต่อมาอีกหลายครั้ง มีลักษณะเป็นพระวิหารแบบร่วมสมัย ระหว่างศิลปล้านนาและรัตนโกสินทร์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสัมริดปางมารวิชัย มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ต่อมาภายหลังในปี พ.ศ. 2531 จึงมีการสร้างเสาสะดือเมืองไว้บนยอดดอยแห่งนี้ เพื่อเป็นเครื่องรำลึกถึงพระคุณของพญามังรายและเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มหาราช เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม์พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530
สำหรับ เสาสะดือเมืองเชียงราย สร้างจากหินชั้นดีจากจังหวัดตาก มีรูปแบบศิลปะขอมแบบพนมบาแกง โดยยึดตามรูปแบบสมมติของจักรวาล หันหน้าไปสู่ทิศตะวันออก บริเวณด้านนอกสุดเป็นคูน้ำเหมือนในจักรวาล ลานดินถัดจากคูน้ำหมายถึงแผ่นดิน ลานด้านในยกเป็นชั้นๆ จำนวน 6 ชั้น เปรียบเสมือนสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น ด้วยความศรัทธาต่อเสาสะดือเมืองของชาวล้านนา จึงนิยมสรงน้ำเสาสะดือเมืองเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของชาวเมือง น้ำที่สรงเสาสะดือเมืองแล้วเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันเสาสะดือเมืองเชียงรายนอกจากเป็นสถานที่รำลึกถึงการสร้างเมืองเชียงรายแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย
บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นไปสู่เสาสะดือเมืองด้านขวามือ มีสิ่งก่อสร้างขนาดย่อมตั้งอยู่ เรียกว่า “กรุวัฒนธรรมเชียงราย” ซึ่งก่อสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2544 เพื่อเก็บร่องรอยและหลักฐานทางวัฒนธรรมร่วมสมัยปัจจุบัน ซึ่งกรุวัฒนธรรมเชียงรายนี้จะทำการขุดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีอายุครบ 100 ปีถัดไป หรือในวันที่ 19...
Read moreวัดพระธาตุดอยจอมทอง หรือวัดพระธาตุดอยทอง (หรือวัดพระธาตุดอยตอง ตามสำเนียงคนเชียงราย) เป็นหนึ่งในพระธาตุ 9 จอม ตั้งอยู่ใน อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นวัดเก่าแก่ และถือเป็นปูชนียสถานแห่งหนึ่งใน “เก้าจอม” ของสถานที่อันเป็นมงคลนามของจังหวัดเชียงราย โดยวัดพระธาตุดอยจอมทองนี้ สันนิษฐานว่าสร้างก่อนที่พญามังรายมหาราชจะเสด็จมาพบพื้นที่บริเวณนี้ และโปรดให้สร้างเมืองเชียงรายในปี พ.ศ. 1805 โดยตามประวัติที่มีการกล่าวถึงวัดพระธาตุดอยจอมทองระบุว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยพญาเรือนแก้ว เจ้าผู้ครองเมืองไชยนารายณ์ (บริเวณอำเภอเวียงชัยปัจจุบัน) นี พ.ศ. 1483 โดยในการสร้างวัดครั้งนั้น ได้มีการสร้างองค์พระเจดีย์ประธานของวัดขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระมหาเถระชาวลังกาได้นำมาถวายแด่พญาพังคราชแห่งเมืองโยนกนาคพันธุ์ ซึ่งพญาพังคราชได้โปรดให้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น 3 ส่วน และนำไปประดิษฐาน ณ พระบรมธาตุเจดีย์ที่สำคัญของจังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน ได้แก่ พระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง พระธาตุจอมกิตติ และพระธาตุดอยจอมทองแห่งนี้
พระเจดีย์ประธานของวัดพระธาตุดอยจอมทอง มีลักษณะเป็นเจดีย์ล้านนาพุกาม องค์ประกอบของเจดีย์ส่วนฐานมีลักษณะเป็นฐานปัทม์หกเหลี่ยมยกสูง องค์เจดีย์มีลักษณะเป็นชั้นบัวถลารับองค์ระฆัง ส่วนยอดประกอบด้วยบัลลังก์ ปล้องไฉน ปลียอด และมีฉัตรอยู่ชั้นบนสุด องค์เจดีย์หุ้มด้วยทองจังโกฏิ เหมือนกับพระเจดีย์อื่นๆในภาคเหนือ ทำให้เกิดความสวยงามและยังสามารถป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ และป้องกันการเกิดวัชพืชบนองค์เจดีย์ด้วย
สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งภายในวัดพระธาตุดอยจอมทองคือพระวิหาร โดยมีลักษณะเป็นพระวิหารแบบร่วมสมัย ระหว่างศิลปล้านนาและรัตนโกสินทร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญเหมือนพระวิหารทั่วๆ ไป กล่าวคือ ประกอบด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบัน บัวหัวเสา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย...
Read moreХрам Пхра Тхат Дой Чом Тхонг считается священным местом. Легенды гласят, что одноименная гора, на которой он расположен, стала домом для добрых духов еще до того, как в северный Таиланд пришел буддизм.
Центральным местом храма является Золотая чеди (ступа). Согласно древним записям, она была построена еще в 940 году, во времена правления Пхрая Руен Кеу, принца Чианг Рая. Реликвии Будды, которые хранятся в ней, были обнаружены и заложены принцем Пангкарадж. Золотая чеди выполнена в сочетании стилей Ланна (северный Таиланд) и Бху-Кам (Мьянма). Ее основание представляет собой лотос, на котором располагается основная часть, высотой 14 метров, и наконечник в виде золотого колокола.
Большое значение в истории Вата Пхра Тхат Дой Чом Тхонг сыграл слон. В 1260 году в эти земли пришел король Менграй и решил построить в городе храм. Он отправил слона на поиски подходящего места, и тот пришел прямиком к чеди на вершине гор. Для местных духов построили специальное, не традиционное для буддизма помещение. Так они вполне спокойно стали сосуществовать с буддийскими святынями.
В 1988 году в Вате Пхра Тхат Дой Чом Тхонг были расположены 108 Городских Столбов, представляющих собой концентрацию всей силы Чианг Рая и мини-версию вселенной. Они стали известны как “Саду Муанг” или “Пуп Города”.
Решение о строительстве было принято, дабы почтить память короля Менграя и отпраздновать 60-летие короля Рамы IX, предыдущего правителя Таиланда. Городские столбы являют собой смешение буддийской и индуистской идеологии. Их число – 108 символизирует собой вселенную, пять океанов, а центральные столбы – наивысший уровень духовного...
Read more