This is a Thai-European house in pink color. As soon as you arrive at it, you will want to take a memorial photo with the house as the background first. Say cheese! Then upload it to your social media site and tag your friends.
Take your time and wander around the place. Don’t hurry. You will want the smell of the history of this place to be absorbed into your mind first. If you and your friends are looking for an antique tourist attraction to check-in, don’t hesitate to go to this one. It’s in Phrae Province. Khum Vongburi was built hundreds years ago, based on the idea of Lady Bua, the wife of Piriyathepwong, the last ruler of Phrae. She wanted to provide it as a wedding gift of Lady Sunanda and Prince Phongpibul.
The house looks relaxing with its color. There are carvings all over it. There are two levels. You and your friends are allowed to get inside to see...
Read moreคุ้มวงศ์บุรี หรือ บ้านวงศ์บุรี อาคารสีชมพูโดดเด่น อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ที่ ถนนคำลือ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ คุ้มวงศ์บุรี สร้างขึ้น ตามดำริของแม่เจ้าบัวถา ชายาองค์แรกในเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้าย เพื่อเป็นของกำนัลในการเสกสมรส ระว่างเจ้าสุนันตา ผู้เป็นบุตรีเจ้าบุรีรัตน์ และหลวงพงษ์พิบูลย์ คุ้มหลังนี้อาคารแบบไทยผสมยุโรปสีชมพูอ่อน ซึ่งเป็นสีโปรดของแม่เจ้า บัวถา เป็นเรือนไม้สักทองขนาดใหญ่ 2 ชั้นทรงไทยล้านนาผสมยุโรป ประดับตกตกแต่งลวดลายด้วยไม้ฉลุที่เรียกว่าลาย“ขนมปังขิง” ตามความนิยมกันใน รัชกาลที่ 5 ที่ถูกสร้างไว้อย่างสวยงามอยู่ทั่วตัวอาคาร เช่น หน้าจั่ว สันหลังคา ชายน้ำ ช่องลม กรอบเช็ด หน้าต่าง เหนือประตูและหน้าต่าง ระเบียง ภายในอาคารปรากฎลายพรรณพฤกษาและเครือเถาว์ เป็นต้น ฐานรากของอาคารเป็น ท่อนไม้ซุง เนื้อแข็งขนาดใหญ่วางเรียงกันก่อนจะก่ออิฐเทปูนทับลงไป เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของอาคาร คุ้มวงศ์บุรี ประกอบด้วย ห้องที่น่าสนใจ คือ ห้องของเจ้าบัวถา ห้องรับแขก ห้องนอน ซึ่งแต่ละห้องมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อาทิ ตู้ เตียงนอน โต๊ะ เก้าอี้ โต๊ะเครื่องแป้ง ถ้วย ชาม เครื่องเงิน กำปั่นเหล็ก อาวุธโบราณ พระพุทธรูปโบราณสมัยเชียงแสน อู่ทอง รวมถึงรูปภาพเก่าแก่ต่างๆ ที่ประดับบอกเรื่องราวของบ้านหลังนี้
วัสดุหลักในการก่อสร้างอาคารคือไม้สักทองคุณภาพดีที่สุดจากป่าห้วยขมิ้นซึ่งเป็นป่าของเจ้าบุรีรัตน์ บิดาเจ้าสุนันตา แต่เดิม ตัวอาคาร ใช้เทคนิคการเข้าลิ้นสลักไม้ ไม่ตอกตะปูแต่เป็นการตอกลิ่มไม้แทน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเรือนเครื่องสับตามแบบงานช่างไทยโบราณ แต่เดิมหลังคาจะมุงด้วยแป้นไม้เกร็ดซึ่งมีลักษณะเป็นไม้แผ่นเล็กๆวางเรียงซ้อนกัน ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นสังกะสีตามสมัยนิยมและกระเบื้อง ว่าว ตามลำดับ อาคารด้านหลังเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูงโล่งอันเป็นคุ้มหลังเดิมของแม่เจ้าบัวถา มหายศปัญญา ระหว่างอาคารส่วนหน้า และส่วนหลังมีการเชื่อมต่อด้วย“ชาน” และมีการยกระดับพื้นขึ้นเรียกว่า“เติ๋น”ที่ใช้เป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อนอิริยบท และรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังมีเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่หาดูได้ยากก็คือ เอกสารการขอสัมปทานป่าไม้ในอดีต ตั๋ว รูปพรรณช้าง โค สัญญาบัตร ที่ได้รับการโปรดเกล้าจากรัชกาลที่ 5 รวมถึงเอกสารการซื้อ-ขาย ทาส ) ที่พบในบ้านวงศ์บุรี มีแม่เจ้าบัวถา และเจ้าน้อยพรม (หลวงพงษ์พิบูล) เป็นนายเงิน(ผู้ซื้อ) โดยมีการซื้อตั้งแต่ ร.ศ.119 (พ.ศ. 2443) ถึง ร.ศ.124 (พ.ศ.2448) รวม 49 ฉบับ ซึ่งเอกสาร ดังกล่าวดูได้เพียงแค่ตาไม่สามารถถ่ายภาพได้
ปัจจุบันภายในคุ้มวงศ์บุรีได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคล จัดแสดงประวัติความเป็นมาของบ้าน วิถีชีวิตของเจ้านายในอดีต โดยข้าว ของเครื่องใช้ต่างๆล้วนตกทอดลงมากันในตระกูล เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. สำหรับการเข้าชมคุ้มวงศ์บุรีภายใน บ้านเสียค่าเข้าชม 30 บาท ซึ่งบางจุดภายในบ้านสามารถถ่ายภาพได้ แต่บางจุดก็จะไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพ ด้วยความสวยงามของ คุ้มวงศ์บุรี จึงได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น ปี พ.ศ. 2536 ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สอบถามรายละเอียด...
Read moreDo not ever think to visit this place because the lady at the entrance booth as she claimed she is the owner was really rude to elderly dad who is 86 years old. She doesn't has service-minded at all even she is on a service business so it is not worth to visit this place with 30 baht fee and rude manners especially to the elderly. I can not imagine how come the way she acted wasn't like people who used to be part of royal family. On the other hand, some other palace you can visit for free with...
Read more