วัดนางกุย ที่ตั้งและประวัติ วัดนางกุย เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 30 หมู่ 5 ตำบลสำเภาล่ม อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่นอกเกาะเมือง ด้านใต้ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก
จากหลักฐานของกรมศิลปากรได้สันนิษฐานว่า วัดนางกุย สร้างในปี พ.ศ. 2130 สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 1 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2190 โดยผู้สร้างชื่อ นางกุย สตรีผู้ที่มีทรัพย์สินเงินทอง ได้มาสร้างวัดนี้ไว้ทางด้านทิศใต้ของเกาะเมืองอยุธยาที่มีแม่น้ำไหลผ่าน วัดนี้ในอดีตเจริญรุ่งเรืองมาก ดูจากหลักฐานที่มี อาทิ พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ สมัยทวารวดี ประมาณพุทธศตวรรษ 11-16 (พ.ศ. 1100-1600) หลังจากที่เสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าในปี พ.ศ. 2310 วัดนางกุยได้รับความเสียหายมาก และถูกปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรม จนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดในอยุธยา (ไม่ทราบปี พ.ศ. ที่แน่ชัด) วัดนางกุยจึงได้รับการบูรณะซ่อมแซมในส่วนต่าง ๆ เช่น อุโบสถ หน้าบันรูปนารายณ์ทรงครุฑ และเสมาคู่ รวมทั้งเจดีย์และพระปรางค์ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2484 ปัจจุบันทางวัดได้ทำการขออนุญาตจากกรมศิลปากรในการบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถที่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาด้วย
พระอุโบสถ วัดนางกุย มีพระอุโบสถขนาด 13.40 X 23.60 เมตร หันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา ก่ออิฐฉาบปูน เป็นฐานเขียงยกสูงขนาด 6 ห้อง หลังคาจั่วลดชั้นเดียว ด้านข้างต่อปีกรับด้วยเสาเหลี่ยม 8 ต้น ระหว่างเสาก่อเป็นกำแพงช่องลูกกรง ด้านหน้าก่อมุขลดชั้น ส่วนด้านหลังต่อปีก หน้าบันเป็นลายปูนปั้นเขียนสีรูปนารายณ์ทรงครุฑและลายเครือเถา หน้าบันมุขหน้าเป็นรูปเทพพนมล้อมรอบด้วยลายเครือเถา ช่อฟ้าปั้นปูนลอยตัวรูปนาค โดยรอบอุโบสถตั้งฐานใบเสมา 8 ฐาน บูรณะแล้วเป็นฐานสิงห์ย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งใบเสมาคู่ทำด้วยหินชนวนสีเทา
ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปศิลา สมัยทวารวดี ปางสมาธิ และมีพระพุทธรูปประทับยืน 2 องค์ด้านหลังพระประธาน เชื่อกันว่าองค์จริงเป็นเนื้อสำริด แต่ได้ทำการพอกปูนทับไว้อีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นแม่นางกุยพนมมือทางฝั่งซ้ายของพระพุทธรูปบนชุกชี เล่ากันว่าเป็นรูปปั้นโบราณแต่ดั้งเดิมเลย
หลวงพ่อยิ้ม หลวงพ่อยิ้ม พระพุทธรูปที่แกะสลักจากไม้สักทองและลงรักปิดทองอย่างสวยงาม อายุประมาณ 400 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะที่สวยงาม พระพักตร์มีลักษณะยิ้มแย้มแจ่มใส จึงเป็นที่มาของพระนามว่า หลวงพ่อยิ้ม นั่นเอง จากคำบอกกล่าวเล่าขานของคนเก่าแก่ว่า สมัยก่อน หลวงพ่อยิ้ม ได้ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยามาติดอยู่บริเวณหน้าวัด เจ้าอาวาสและชาวบ้านได้อัญเชิญหลวงพ่อยิ้มไปประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดนางกุย และกลายเป็นพระเก่าแก่อยู่คู่กับวัดมาช้านาน
เดิมที หลวงพ่อยิ้ม ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ บริเวณด้านขวามือของพระประธาน แต่ได้มีการอัญเชิญมาประดิษฐานใหม่ที่วิหารหลังใหม่ที่ตั้งอยู่เยื้องกับพระอุโบสถไปทางซ้ายแทน โดยหน้าวิหารจะมีองค์จำลองประดิษฐานอยู่ด้านหน้า ให้ผู้มากราบไหว้ได้ปิดทองบูชากัน ส่วนองค์จริงจะประดิษฐานอยู่ด้านในภายในตู้กระจกที่ทางวัดจัดไว้
คำบูชาหลวงพ่อยิ้ม ตั้งนะโม 3 จบ
พุทธัง สัตตะ รัตนะ มหาปการัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สัตตะ รัตนะ มหาปการัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สัตตะ รัตนะ มหาปการัง สรณัง คัจฉามิ ศาลแม่ตะเคียนทอง ศาลต้นตะเคียนขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่คู่วัดนางกุยมานานกว่า 400 ปี โดยยืนต้นตายเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2540 จากนั้นทางวัดจึงแกะสลักเป็นรูปแม่ตะเคียนทอง และนำมาวางไว้บนตอตะเคียนต้นเดิม เพื่อให้ประชาชนที่ศรัทธามากราบไหว้ขอพรในเรื่องต่าง ๆ คาถาบูชาพระแม่ตะเคียนทอง (จุดธูป 5 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ)
อิติบูชาจะมะหาราชา สัพพะเสน่หา
อะระหังสัมมา สัมพุทโธมามา
ยาตรายามดี...
Read moreWat Nang Gui, Ayutthaya and Luang Por Yim (the smiling Buddha).
Wat Nang Gui is situated on the outer part of the southern corner of Ayutthaya Island, connecting to the west part of the Chao Phraya River, at the confluence with the Lop Buri River. Opposite Wat Phanan Choeng Worawihan. Khun Nang Gui, a wealthy woman, built this temple in 1587. The Wat contains several 400-year-old Buddha images, the most famous is that of Luang Por Yim, the smiling Buddha. The temple fell into disrepair and was eventually restored by King Rama III of the Rattanakosin period. The temple lies near Wat Bangkaja, further along the...
Read moreวัดนางกุย เป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกเกาะเมือง ด้านใต้ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตั้งอยู่เลขที่ ๓๐ ม. ๕ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จากหลักฐานที่กรมศิลปากรว่าสร้างในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ผู้สร้างชื่อนางกุย เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเงินทอง จึงได้มาสร้างวัดนางกุยอยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะเมืองอยุธยา ที่มีแม่นำไหลผ่านวัดนี้ในอดีตเจริญรุ่งเรืองมาก ดูจากหลักฐานที่มี อาทิ พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ สมัยทวารวาดี ประมาณพุทธศตวรรษ ๑๑ - ๑๖ (พ.ศ.๑๑๐๐ - ๑๖๐๐) หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในปี ๒๓๑๐ วัดนางกุยได้รับความเสียหายมาก และถูกปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมจนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๓ ได้มาทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดในอยุธยา (ไม่ทราบ พ.ศ.ที่แน่ชัด) วัดนางกุยก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมอุโบสถและเสนาสนะ ซึ่งในปัจจุบันนี้ ทางวัดฯได้ทำการขออนุญาตจากกรมศิลปากรในการบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถที่เสื่อมโทรมไปตาม กาลเวลา ภายในพระอุโบสถ วัดนางกุย ยังมีพระประธานอายุกว่า 400 ปี อาทิเช่น พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ สมัยทวารวดี...
Read more