Devasthan is a stunningly beautiful Hindu temple located in the heart of Bangkok, Thailand. As soon as you approach the temple, you'll be struck by the intricate and elaborate design of the building's facade. The brightly colored tiles and ornate sculptures create a truly awe-inspiring sight, and the temple's size only adds to the grandeur of the building.
Once you enter the temple, the feeling of serenity and peace is palpable. The soft lighting and the gentle fragrance of incense immediately transport you to a spiritual space, and you feel as though you are in the presence of something truly divine. The interior of the temple is just as breathtaking as the exterior, with intricate carvings and paintings adorning the walls and ceiling.
The temple's resident priests are welcoming and friendly, and they are always happy to answer any questions you may have about the temple's history or the Hindu faith. Their gentle guidance and serene demeanor only add to the overall sense of calm and spirituality within the temple.
Overall, a visit to Devasthan is an incredibly peaceful and spiritual experience. It's a must-visit for anyone interested in Hinduism or simply looking for a moment of serenity in the midst of bustling Bangkok. The temple's beauty and the welcoming nature of its staff make it a true gem in the heart...
Read more324...10 02 2567 เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2327 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เช่นพิธีโล้ชิงช้า พิธีตรียัมปวาย และพิธีโกนจุก เป็นต้น ศิลปกรรม มีโบสถ์อยู่ 3 หลัง สถานพระอิศวร (โบสถ์ใหญ่ อยู่ด้านหลังเทวาลัยพระพรหม) สถานพระพิฆเนศวร (โบสถ์กลาง)...สถานพระนารายณ์ (โบสถ์ริม) ❌กรุณางดส่งเสียงดัง และงดใช้อุปกรณ์ทุกชนิดบันทึกภาพ, วิดีโอ องค์เทพทุกเทวาลัย❌ ณัฐดนัย ภักดีวีรวงศ์ ถ่ายภาพ 10 02 2567 มีทั้งหมด 20 ภาพ เทวสถานนี้อยู่ในอัลบั้มที่ 324 ของผู้เขียน (ภาพถ่ายของผู้เขียนทุกภาพทุกอัลบั้มสามารถนำไปใช้ได้ ผู้เขียนตั้งใจที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์ในการสื่อสารศาสนาในวงกว้าง โดยไม่ต้องขออนุญาติ) ประตูทางออกจากวัดสุทัศน์ ผ่านเสาชิงช้า ริมซ้ายมือจะเห็นเทวสถาน สำหรับพระนคร(โบสถ์พราหมณ์) เดินเข้ามาด้วยสภาพอากาศขมึกขมัว ไม่นานฝนตกอีกรอบเป็นสิบนาที เข้ามาหลบที่โบสถ์ใหญ่ ภายในเห็นองค์เทวรูปงดงามมาก รวมถึงอีก 2 โบสถ์ ฝ่ายดูเเลภายในให้คำเเนะนำเป็นอย่างดี พร้อมกำชับว่าห้ามถ่ายภาพภายในทั้ง 3 โบสถ์ ผู้ที่จะเข้ามาสักการะควรปฎิบัติตามครับ ภายในสงบร่มรื่น มีส่วนที่เเสดงอุปกรณ์รูปภาพ พิธีโล้ชิงช้า พิธีตรียัมปวาย และพิธีโกนจุก ส่วนนี้ถ่ายภาพได้ อยู่เเถบขวามือสุดใกล้กับโบสถ์ใหญ่ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ หรือ สำนักพราหมณ์พระราชครูในสำนักพระราชวัง[1] เป็นโบสถ์พราหมณ์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ใกล้เสาชิงช้า และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ประวัติ[แก้] พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2327 แล้วโปรดให้นำพราหมณ์จากภาคใต้ขึ้นมาประจำราชสำนัก ทำหน้าที่ประกอบพระราชพิธีสำหรับพระองค์และราชอาณาจักร[2] ภายในเทวสถานมีโบสถ์ทั้งหมด 3 หลัง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว มีกำแพงล้อมรอบ ปัจจุบันมีอายุได้ 240 ปี เทวสถานได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 66 ตอนที่ 64 วันที่ 2 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2492 หน้าที่ 5281 ลำดับที่ 11 ประกาศ ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2492[3] ด้านหน้าเทวสถานทั้ง 3 มีซุ้มอันเป็นที่ประดิษฐานของเทวรูปพระพรหมตั้งอยู่กลางบ่อน้ำ ด้านหลังนั้นเป็นอาคารทรงไทย 3 หลังที่ปัจจุบันมีอายุอานามมากว่า 200 ปีแล้ว แบ่งเป็น เทวสถานพระอิศวร เป็นโบสถ์หลังใหญ่ของที่แห่งนี้ ภายในมีเทวรูปพระอิศวร ประทับเป็นพระประธานอยู่ตรงกลางแท่น แท่นรองลงมาเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปของ พระอุมาเทวี พระพรหม และพระอิศวร รวมทั้งมีรูปปั้น โคนนทิ กระหนาบอยู่ทั้ง 2 ข้างของแท่น ถัดไปด้านข้างของอาคารหลังนี้ยังมีเทวาลัยพระศิวลึงค์อยู่ด้วย เทวสถานพระมหาวิฆเณศวร (พระคเณศ) โบสถ์หลังกลาง ภายในมีเทวรูปพระพิฆเนศวรห้าองค์ ทั้งหมดทำด้วยหิน คือ หินเกรนิต 1 องค์ หินทราย 1 องค์ หินเขียว 2 องค์ และสำริด 1 องค์ เทวสถานพระนารายณ์ ภายในประดิษฐานบุษบกสามองค์เคียงกัน ประกอบด้วยเทวรูปพระลักษมี (บุษบกองค์ซ้ายมือ) พระนารายณ์ (บุษบกองค์กลาง) และพระภูมิเทวี (บุษบกองค์ขวามือ) ตรงกลางโบสถ์มีเสาลักษณะคล้ายเสาชิงช้าขนาดย่อม สำหรับใช้ประกอบพิธีช้าหงส์ ลำดับการสักการะบูชาโบสถ์พราหมณ์ ลำดับที่ 1 เริ่มจากการสักการะพระพิฆเนศวร ภายในเทวสถานพระมหาวิฆเณศวร เพราะพระคเณศนับเป็นองค์ประธานของหมู่เทพ ซึ่งเทพทุกองค์ให้พรไว้ว่า หากผู้ใดไม่ได้นมัสการพระพิฆเนศวรก่อนเทพองค์อื่นๆ ก็จะไม่รับฟังคำอธิษฐานของผู้นั้น ลำดับที่ 2 สักการะพระพรหม ที่เทวาลัยพระพรหม ลำดับที่ 3 สักการะพระนารายณ์ ที่เทวสถานพระนารายณ์ ลำดับที่ 4 สักการะพระศิวลึงค์ ที่เทวาลัยพระศิวลึงค์ ลำดับที่ 5 สักการะพระอิศวร ที่เทวสถานพระอิศวร เพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อสถานที่ และแก่ตนเอง ขอให้ทุกท่านที่เดินทางมาสักการะภายในเทวสถาน ปฎิบัติตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้ ห้ามจุดธูป และเทียนภายในอาคาร ห้ามบันทึกภาพ และวิดีโอภายในโบสถ์ทั้งสาม ห้ามเข้าทรง ห้ามใช้โทรศัพท์ ห้ามสวมหมวก ห้ามสวมรองเท้า ห้ามรับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม ขอขอบคุณเเหล่งข้อมูลจากวิกิพีเดีย...
Read more🕉️ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ พระนคร: หัวใจแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดูของแผ่นดินไทย 🕍
หากจะกล่าวถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่และมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อพระราชพิธีและจิตวิญญาณของชาติไทย หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กรุงเทพมหานคร อยู่ในลำดับต้น ๆ อย่างแน่นอน ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็น ศูนย์กลางของวัฒนธรรม ประเพณี และความศรัทธา ที่เชื่อมโยงระหว่างราชสำนักไทยกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูที่มีรากลึกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
เทวสถานแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี โดยตั้งอยู่บนถนนดินสอ ใกล้กับเสาชิงช้า ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นพื้นที่ประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เช่น พิธีโล้ชิงช้า ซึ่งในปัจจุบันแม้ไม่ได้จัดขึ้นอีกต่อไป แต่พิธีกรรมอื่น ๆ ที่มีความสำคัญยังคงได้รับการสืบทอดอย่างต่อเนื่องโดยไม่เสื่อมคลาย
หนึ่งในพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ พระราชพิธีตรียัมปวาย ฯ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีโดยมีการสมโภชเทวรูป และบูชาเทพเจ้าต่าง ๆ ตามหลักแห่งศาสนาพราหมณ์ โดยพิธีนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่พิธีกรรมเพื่อความเป็นสิริมงคลของราชสำนักและแผ่นดินเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึง ความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างราชา เทพเจ้า และราษฎร เป็นการประกอบพระราชพิธีที่สะท้อนถึงพระราชภาระอันศักดิ์สิทธิ์ของพระมหากษัตริย์ในการธำรงธรรม
ภายในเทวสถานแบ่งเป็น 3 โบสถ์ใหญ่ ได้แก่: • โบสถ์พระอิศวร: เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุด มีองค์พระอิศวรประดิษฐานอยู่คู่กับพระอุมา • โบสถ์พระพิฆเนศวร: ซึ่งมีองค์พระพิฆเนศหลากหลายปางให้สักการะ • โบสถ์พระนารายณ์: ประดิษฐานพระนารายณ์พร้อมพระลักษมี
นอกจากนี้ ยังมี เทวาลัยพระพรหม อยู่กลางสระน้ำที่ผู้ศรัทธาสามารถกราบไหว้ได้ก่อนเข้าสู่เขตโบสถ์หลัก ทุกพื้นที่ภายในเทวสถานนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สงบ และลึกล้ำทางจิตวิญญาณ
สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าสถาปัตยกรรม หรือพิธีกรรมที่งดงาม ก็คือ น้ำใจและความเมตตาของคณะพราหมณ์ ที่ประจำอยู่ในเทวสถานแห่งนี้ ทุกครั้งที่มีผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นพุทธศาสนิกชน ฮินดู หรือผู้ศรัทธาจากศาสนาใด คณะพราหมณ์ทุกท่านจะต้อนรับด้วยความนอบน้อม อ่อนโยน และเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาและวัฒนธรรมของพราหมณ์ด้วยความจริงใจ
หลายท่านเล่าว่า การได้พูดคุยกับพราหมณ์ ณ ที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านทางจิตวิญญาณ ได้รับแสงสว่างจากคำสอนที่อ่อนโยนแต่มีกำลังใจมหาศาล
แม้ภายในเทวสถานจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวด เช่น ห้ามถ่ายภาพ ห้ามสวมหมวก และต้องแต่งกายสุภาพ แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเพื่อ รักษาความศักดิ์สิทธิ์และความเคารพต่อเทพเจ้า อย่างแท้จริง
เทวสถานโบสถ์พราหมณ์แห่งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่สถานที่อันเก่าแก่ แต่คือ จุดเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านศรัทธาและปณิธานของคนไทยในการรักษาความดี ความงาม และความศักดิ์สิทธิ์ไว้ให้คงอยู่ตลอดไป
⸻
หากคุณได้มีโอกาสเดินผ่านเสาชิงช้า หยุดเพียงครู่ แล้วก้าวเข้าไปยังเทวสถานแห่งนี้ คุณอาจจะไม่ได้กลับออกมาในฐานะผู้เดินผ่านธรรมดาอีกต่อไป…...
Read more