Sanam Luang
Sanam Luang things to do, attractions, restaurants, events info and trip planning
Description
Ratings
Posts
Sanam Luang is a must-visit destination for anyone traveling to Bangkok. Located in the heart of the city, it is a historical site that offers a glimpse into the rich culture and heritage of Thailand. The sprawling park is surrounded by several iconic buildings, making it an ideal spot for history buffs and photography enthusiasts. One of the highlights of Sanam Luang is the Grand Palace, which is one of the most iconic landmarks in Thailand. It served as the residence of the royal family for many years, and today it is open to the public as a museum. The intricate architecture and ornate decorations of the palace are truly awe-inspiring. The park itself is a delightful oasis in the bustling city, with plenty of trees, greenery, and fresh air. The vast expanse of the park is perfect for picnics, strolls, or simply lounging on the grass. On weekends, locals gather here for cultural events, live music performances, and other activities. One of the most impressive features of Sanam Luang is the large open space that can accommodate thousands of people. This makes it an ideal venue for festivals, concerts, and other large-scale events. The park also features several food stalls and vendors selling traditional Thai snacks and refreshments. The park is an ideal spot for relaxation, entertainment, and exploration. With its stunning architecture, beautiful greenery, and vibrant atmosphere, Sanam Luang is a true gem in the heart of Bangkok.
Gokul Khanal (Gokulpuri)Gokul Khanal (Gokulpuri)
00
366...29 01 2568 พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ท้องสนามหลวง ถนน ราชดำเนินกลาง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พระบรมสารีริกธาตุ หรือ พระเขี้ยวแก้ว วัดหลิงกวง ประเทศจีน สิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระพุทธองค์ ในโอกาสครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 ณัฐดนัย ภักดีวีรวงศ์ .... ถ่ายภาพ.... 29 01 2568 มีทั้งหมด 32 ภาพ วัดนี้อยู่ในอัลบั้มที่ 366 ของผู้เขียน (ภาพถ่ายของผู้เขียนทุกภาพทุกอัลบั้มสามารถนำไปใช้ได้ ผู้เขียนตั้งใจที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์ในการสื่อสารศาสนาในวงกว้าง โดยไม่ต้องขออนุญาติ การทำให้ธรรมะได้มีการเผยแพร่ขยายกว้างออกไปยิ่งขึ้นๆ จึงเป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนยาวนานออกไป ) ความงดงาม อิ่มเอมจิตใจ ต่อภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าจากการเดินทางมาถึงสนามหลวง ที่ตั้ง สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว ผ่านจุดคัดกรองเข้าคัดกรองเข้าไป สิ่งที่ตั้งในส่วนต่าง ผู้คนมากมาย เเละในขณะที่เดินวนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ทั้ง 3 รอบ อยู่ดีๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเองด้วยความตื้นตัน มันควบคุมไม่ได้ ไม่นึกฝันว่าจะมีวันที่มาถึงในการเข้าชม ความงดงาม สิ่งปลูกสร้างเพื่อเเสดงให้เห็นสิ่งสำคัญในพระพุทธศาสนา งดงามเหลือเกิน ผู้เขียนอาจจะลงช้าไป เนื่องจากมีเวลาจำกัดในการใช้ชีวิตในเเต่ละวันของการทำงาน จึงค่อยๆทยอยลงไปเรื่อยๆ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว จากจีน ระหว่างวันที่ 5 ธ.ค. 67 ถึง 14 ก.พ. 68 ที่สนามหลวง รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ร่วมกันจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 (73 วัน) โดยอัญเชิญมาวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อให้ประชาชนได้กราบสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568 โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมีสมเด็จพระราชาคณะ ซึ่งกรรมการมหาเถรสมาคมมอบหมายเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นอกจากนี้ได้จัดให้มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 5 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 “ดับขันธปรินิพพาน มกุฎพันธนเจดียสถาน” นำเสนอเรื่องราวพุทธประวัติในการประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จปรินิพพาน โดยเน้นในช่วงพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน โซนที่ 2 “พุทธะบารมีพระสรีระธาตุ” นำเสนอเรื่องราวประวัติของพระสรีระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก โซนที่ 3 “พระเขี้ยวแก้ว” นำเสนอเรื่องราวประวัติ ความสำคัญ และความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) โซนที่ 4 “ใต้ร่มเศวตฉัตร ทศมรัช พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยที่ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกและมีพระราชศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนา สืบสานราชประเพณีสืบเนื่องมาจนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ โซนที่ 5 “ความสัมพันธ์ ไทย-จีน” นำเสนอเรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญที่สร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนในด้านต่าง ๆ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ส่งเสริมคำว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” รู้จัก พระบรมสารีริกธาตุ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่วัดหลิงกวง ประดิษฐานอยู่ภายในพระสถูปทองคำประดับอัญมณี องค์พระเขี้ยวแก้วมีขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว เชื่อกันว่าบุคคลต่าง ๆ มองเห็นองค์พระเขี้ยวแก้วมีสีต่างกันไป บ้างเห็นเป็นสีขาวล้วน บ้างเห็นเป็นสีทอง บ้างเห็นเป็นสีขาวหม่น ซึ่งเป็นไปตามกรรมที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล แม้องค์พระบรมสารีริกธาตุจะไม่ใช่สภาวธรรมที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนา แต่ก็เป็นเครื่องชี้ทางและสะพานให้พุทธศาสนิกชนเดินหน้าไปสู่เป้าหมายปลายทางของพระพุทธศาสนาได้ เป็นสัญลักษณ์แห่งพระปัญญาตรัสรู้แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับวัดหลิงกวง ตั้งอยู่บนเชิงเขาทางทิศตะวันออกของเทือกเขาด้านตะวันตกของกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สัญลักษณ์แห่งปัญญาและแรงบันดาลใจบนเส้นทางธรรม มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้วของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในสถานที่แสวงบุญสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั้งในจีนและต่างประเทศ โดยในปี ค.ศ. 1983 วัดหลิงกวงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัดพุทธสำคัญในพื้นที่วัฒนธรรมจีนฮั่นโดยคณะรัฐมนตรีจีน ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของคณะสงฆ์ ซึ่งพุทธสมาคมจีนมอบหมายแต่งตั้ง ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล Visit Bangkok
ณัฐดนัย ภักดีวีรวงศ์ณัฐดนัย ภักดีวีรวงศ์
00
เหลืออีกไม่กี่วันแล้วนะครับ ขอเชิญมากราบสักการะพระเขี้ยวแก้ว ผมไปมาวันที่ 8/2/68 แต่อย่าลืมเอาบัตรประชาชนมาด้วยนะครับ ส่วนข้อมูลจากเน็ตตามนี้ครับ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน รัฐบาลจีนให้รัฐบาลไทยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาสู่ประเทศไทยในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 และจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) กลับสู่สาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ประวัติพระเขี้ยวแก้ว พระเขี้ยวแก้ว วัดหลิงกวง ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่สำคัญของพระพุทธศาสนา เชื่อว่า เป็นพระทันตธาตุศักดิ์สิทธิ์ (ฟัน) ของพระพุทธเจ้าซึ่งถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1955 ภายในเจดีย์โบราณใกล้เมืองซีอาน และถูกนำมาประดิษฐานในอาคารพิเศษที่ วัดหลิงกวง ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาในกรุงปักกิ่ง วัดหลิงกวง ตั้งอยู่บนเชิงเขาทางทิศตะวันออกของเทือกเขาด้านตะวันตกของกรุงปักกิ่ง มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและบรรยากาศที่สงบงดงาม มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้วของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นหนึ่งในสถานที่แสวงบุญสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั้งในจีนและจากต่างประเทศ เมื่อปี ค.ศ. 1983 วัดหลิงกวง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัดพุทธสำคัญในพื้นที่วัฒนธรรมจีนฮั่นโดยคณะรัฐมนตรีจีน ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของคณะสงฆ์ซึ่งพุทธสมาคมจีนมอบหมายแต่งตั้ง พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่วัดหลิงกวง ประดิษฐานอยู่ภายในพระสถูปทองคำประดับอัญมณี องค์พระเขี้ยวแก้วมีขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว เชื่อกันว่า บุคคลต่าง ๆ มองเห็นองค์พระเขี้ยวแก้ว มีสีต่างกันไป บ้างเห็นเป็นสีขาวล้วน บ้างเห็นเป็นสีทอง บ้างเห็นเป็นสีขาวหม่น ซึ่งเป็นไปตามกรรม ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล แม้องค์พระบรมสารีริกธาตุจะมิใช่สภาวธรรมที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนาแต่ก็เป็นเครื่องชี้ทางและสะพานให้พุทธศาสนิกชนเดินหน้าไปสู่เป้าหมายปลายทางของพระพุทธศาสนาได้ เป็นสัญลักษณ์แห่งพระปัญญาตรัสรู้แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเขี้ยวแก้วเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วโลกที่เดินทางมาสักการะและแสวงบุญเพื่อแสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาและแรงบันดาลใจบนเส้นทางธรรม ทั้งนี้ สำหรับศาสนิกชนชาวไทยและต่างชาติสามารถเดินทางมาร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ได้ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 - 20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร
Suphakorn PanyangamSuphakorn Panyangam
00
Its wonderful to see the extent of work done for love of the late King Bhumibol Adulyadej. Compared to watching it on television, seeing the Royal Crematorium in real is much more magnificent, You will be awed by the size and detailed re-construction of historical components, using a spectacular fusion of items which embodied in the mythical legend of Mount Merumas and those recorded in history of Thailand monarchy, the Royal Crematorium ought to be rewarded and remembered with some world recognition. Experiencing the real life view of the nine spine-roof pavilions with the pyre together with the exhibition hall presentations giving the details, What has been done for the King is truly a very unique endeavor in history, architecture, fine arts for a meaningful expression of human respect and devotion.
Yulea XiaYulea Xia
00
This historical "royal turf/field" (approximately 119,200 square meters) is situated in the center of Bangkok. Sanam Luang is used for countless royal ceremonies and public events for more than a hundred years. There might have been buildings or constructions during ceremonies or events, such as the Royal Funeral Ceremony for the late King Bhumibol Adulyadej in 2017. During normal days, it is a simple open field accessible to everyone. It is surrounded by numerous tourist attractions and historical places, such as the Grand Palace, Bangkok National Museum, the City Pillar Shrine, the Supreme Court, Thammasat University, etc. The best way to reach Sanam Luang is by car, taxi or bus, because there is no accessible BTS skytrain or MRT subway (as of 2018).
Chawathuck NarthirunyawongChawathuck Narthirunyawong
00
The special annual occasion on New Year's Eve is being held here tonight. Instead of participating the new year's count down celebration elsewhere, thousands of Thai buddhist gather here for chanting for new year blessings led by venerable buddhist monks (alternatively so-called cross year praying activity), paying respect to the Holy Buddha's relics and the Royal portrait of HM King Rama X and the Queen. The live performances, such as, Khon (the masked dance) and Thai traditional dances are enjoyable before the chanting session. It is an auspicious occasion before entering the new prosperous B.E. 2563 or 2020. Happy New Year! Wishing you all the best in 2020 and years to come. สุขสวัสดี วาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๓
A. PuttA. Putt
00
Nearby Attractions Of Sanam Luang
The Grand Palace
The Temple of the Emerald Buddha
The Temple of the Emerald Buddha
Wat Suthat Thepwararam Ratchaworamahawihan
National Museum Bangkok
Bangkok City Pillar Shrine
National Museum Bangkok
Wat Rakhang Kositaram Woramahawihan
Democracy Monument
Khao San Market

The Grand Palace
4.5
(21.1K)Click for details

The Temple of the Emerald Buddha
4.7
(13.3K)Click for details

The Temple of the Emerald Buddha
4.7
(11.5K)Click for details

Wat Suthat Thepwararam Ratchaworamahawihan
4.7
(3.5K)Click for details
Nearby Restaurants Of Sanam Luang
Mont NomSod
Taste of India Bangkok
Khun Daeng's Vietnamese Noodle
Krua Apsorn @Dinso
Black Canyon : Siriraj Piyamaharajkarun Hospital
Madame Musur
Nai Soie Beef Noodle
Ethos Vegetarian Restaurant
Mango Vegetarian & Vegan
Sushi Wang Lang by Orathai

Mont NomSod
4.4
(2.2K)$$
Click for details

Taste of India Bangkok
4.8
(1.6K)Click for details

Khun Daeng's Vietnamese Noodle
4.4
(1.6K)$
Click for details

Krua Apsorn @Dinso
4.3
(1.6K)$$
Click for details
Reviews
- Unable to get your location