วัดสันติธรรมตั้งวัดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2500[1] วัดได้ทำการก่อสร้างขึ้นในภายหลัง พ.ศ. 2490 โดยคุณแม่นิ่มนวล สุภาวงศ์ที่เกิดศรัทธาอยากจะสร้างวัดถวายหลวงปู่ พระครูสันติวรญาณ สิม พุทฺธาจาโร) ในการแผ้วถางดำเนินการครั้งแรก สังเกตเห็นได้ว่าเนื้อที่บริเวณที่จะสร้างกุฏิ มีอิฐ มีกระเบื้อง มีแนวกำแพง และมีเนินอุโบสถหรือวิหาร พอสันนิษฐานได้ว่า ที่แห่งนั้นเคยเป็นวัดมาก่อน แต่ไม่อาจสืบประวัติได้ว่าเป็นวัดอะไร ใช้ชื่อวัดว่า วัดสันติธรรม นครเชียงใหม่ จนได้รับอนุญาตสร้างวัดจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น "วัดสันติธรรม" ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก คือ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร (พระครูสันติวรญาณ, พระญาณสิทธาจารย์)[2] อาคารและเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ อุโบสถของวัดเริ่มดำเนินการสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2495 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2513 อุโบสถกว้าง 14 เมตร ยาว 28 เมตร มีพระธาตุสันติเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2514 โดยหลวงปู่สิม มีการหุ้มทองจังโกยอดปลี ปิดทองยอดคำปลี การสร้างห้องกรุ ชั้นที่ 2 ในการบรรจุพระบรมธาตุ และการสร้างพระพุทธรูปเพื่อบรรจุในองค์พระเจดีย์[3] มีพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และจัดแสดงนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ...
Read moreチェンマイ旧市街の北西の郊外にある寺院です。チェンマイでは珍しいタマユット派所属寺院です。 この寺院は1947年頃に建立されました。歴史の浅い寺院です。 ニムヌワン・スパーウォン(นิ่มนวล สุภาวงศ์ )という富裕な女性が中心となって、この寺院が建立されました。チャンモーイ通りで衣料・雑貨の商売をする一家の女性で、もとの名はニムキム・セーヘン(นิ่มคิ้ม แซ่เฮ้ง)といったそうです。「セー・ヘン」とあることから、彼女の一族は華僑系と思われます。 ルアンプー・シム・プッターチャーロー(หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)師に帰依していた彼女は、この僧侶のために寺院を建てたいと願い、1930年代から活動していたそうです。 ルアンプー・シム師(1909-1992)はタマユット派の名僧です。若い頃に、バンコクにあるタマユット派の名刹ワット・ボーウォンニウェートで修行したり、「プラ・トゥドン」と呼ばれる行脚僧となったりしています。1930年代~1940年代の時期に、チェンマイ県に滞在していました。タイも戦禍に巻き込まれていたこの時期、ルアンプー・シム師は、人びとの心の不安を少しでも和らげようとしたと言います。 ニムヌワン・スパーウォン女史は、このようなルアンプー・シム師の徳と人柄に感じ入って、熱心な信奉者となったようです。 戦後の1947年に念願の寺院ができました。寺名は「平和の法」や「寂静の法」を意味する「サンティタム(สันติธรรม)」と名付けられました。 寺院の建立に際しては、ニムヌワン・スパーウォン女史のほか、当時のチェンマイの名士たちも資金を提供しています。第1次勧募の寄進者の中には、旧王家の末裔であるナ・チェンマイ家の人の名(เจ้าผัวผัด ณ เชียงใหม่)も見えます。ちなみに、この寺院の事業にお金を寄付した人の中には、タクシン元首相、インラック元首相の祖母と思われるセーン・チンナワット(แสง ชินวัตร...
Read moreNever knew that this temple has a big museum dedicated to keeping Bhudist monk and Lord Bhuddha's relics. If you are near, it's worth a visit as it's free. Bit keep in mind that it's a temple, so please...
Read more