The Verandah — Restaurant in Bang Rak Subdistrict

Hi There,

I would like to submit HARD COMPLAINT on your VERY RUDE SERVICES at VERANDA RIVERSIDE.

I have never experienced such outregous treatment from any hotel, let alone 5 star hotel. This is a serious incident that i do hope will never be experienced by any other guests.

Chronology: My Husband and I decided to spend and book relaxing treatment at oriental spa. Everything was perfect, we enjoyed our cannabis massage on beautiful deluxe suite. We finished the treatment around 6pm and plan to meet our friends who awaiting us at veranda. When we met our friends, he was enjoying himself with some drinks and snack. We sat down and plan to order One of the waiters came to us and immediately said that my husband cant be sitting there because he wore a short and they have policy on it We said ok, but since our friend is still having his drink, we ask to let him finish and will go (we even ask can we go to any other places in the hotel to enjoy our evening and they said no coz no short allowed) We respect the policy and no intention to insist staying. Then, from there it all went downhill. The waiter rudely said we need to go soon and remove all the snacks, clean up the table and gave us the cheque! We didnt get the name of the waiter IS THIS HOW MO TREAT THEIR PAYING CUSTOMER???? Hushing people at instance IS NOT ACCEPTABLE LET ALONE AT 5 Star! Shocked by the treatment we asked the waiter whom delivered cheque to give us comment card. Upon waiting, instead of comment carf, came MR TONRAK (Assistant Restaurant Manager). He tried to DEFENSE by saying its the hotel Policy on no short. We didnt argue on your policy, but we are NOT OK WITH the way we are treated by being hushed and clear the table.

Never even been my life being...

Before the pandemic, I would visit Bangkok almost every year. To me, this city was not just a travel destination but a place where my heart felt at home. However, due to the pandemic, it’s been five long years since my last visit. Now, stepping foot in this familiar city once again, my heart is filled with anticipation and nostalgia, especially for the places that hold treasured memories for our family. One of those places is a restaurant we always frequented. Whether for its traditional flavours or consistently high-quality service, it has always been an essential stop during our visits. This restaurant not only embodies Bangkok’s rich culinary culture but also holds countless sentimental memories across generations.

Returning after five years, the most noticeable change is the restaurant’s decor. It has become more modern and stylish, reflecting the ever-changing face of the city. This transformation reminds me of how certain parts of Bangkok have also undergone drastic changes, with many places no longer the same. Yet, fortunately, the restaurant’s warm, attentive service remains unchanged, making our family feel as welcome as ever, like returning home. Despite the outward changes, the familiar sense of comfort and the strong human touch still linger, as inviting as always, making it hard to leave. This visit is not only a journey back to fond memories but also a hopeful glance...

เมื่อวานเจ้าค่ะ น้องชายสุดที่รักของอิฉันโทรมาว่า วันนี้เลิกงานไปไหนไหม อีนี่ จริงๆ ก็มีแพลนนะว่าจะไปไหน แต๊ คุณเขาโทรมาขนาดนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ อ่า ก็ว่างอยู่ ทำไมอ่อ นางก็ เนี่ยเดือนนี้ยังไม่ได้พาป๊าแม่ไปกินข้าวเลย ว่าจะพาไปโอเรียลเต็ลนะ แว๊บแรก เดี๋ยว ชุดเข้าไม่ได้นะ กางเกงขาสั้น เนี่ย น้องชายอิฉันก็บอกว่า ไม่เป็นไร จองโต๊ะไว้แล้วเขาน่าจะให้เข้า แว๊บสอง เมิง กระเป๋าที่กรุพกมาไม่ด๊าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นน้องชายสุดที่รักก็บอกว่า เอาเป็นว่า น่าจะเจอกันประมาณทุ่มเนอะ ออหอให้เวลามาคือกระชั้นมาก เอาวะ จะซื้อชุดเพื่อไปกินข้าวมื้อนึงก็กระไรอยู่ ไปมันชุดนี้หละ โชคดีที่ยังใช้รองเท้าหุ้มข้อมา พอทราบชื่อร้านและคิดว่าอิฉันต้องไปถึงคนสุดท้าย ก็ไปหาเมนูมาดูก่อนเลยว่า สั่งไรกินได้บ้างนะ ราคาแพงไหมนะ พอเห็นราคาเรียกว่า แปลกใจ เพราะ โอเรียลเต็ล แค่จิบน้ำชายามบ่าย ก็ แพงอยู่นะ ก็คิดว่าราคามันต้องแรง แต่ เห้ย ไม่แรง อ่า เปรียบเทียบคือ อย่าง สเต๊กวากิว 2400 ถูกกว่าร้านในห้างบางร้านอีก ร้านนี้มีชื่อว่า The Verandah at Mandarin Oriental Hotel เป็นร้านอาหารของโรงแรม บรรยากาศคือดีย์ ติดริมน้ำเจ้าพระยา มีทั้งส่วน indoor – outdoor มาขนาดนี้ก็ต้องนั่ง outdoor สิคะ ค่ะโต๊ะที่น้องอิฉันจองนั่งริมน้ำเชียวค่ะ แต่ไม่ถึงกะริมมากแต่เรียกว่ามุมดี ไปถึงก็ มีป๊าแม่นั่งอยู่แล้วพร้อมกับ อาหารประมาณ 3-4 อย่าง ก็เรียกว่าเต็มโต๊ะ สิ่งที่สะดุดตาอันดับแรก คือ ซุปมะเขือเทศเย็นเจ้าค่ะ (Gazpacho) ใครสั่งนิ อ่อ แม่สั่ง อ่า ที่นี่ เมื่อมาถึงเขาจะมี ออเดิร์ฟให้เราทานก่อน ตัวนี้ฟรีนะคะ ที่นี่มีให้ 2 อย่างคือ ขนมปัง มีประมาณ 7-8 ชนิด + เนย ขนมปังดีย์แทบทุกตัวเลย เนยอร่อย และ ข้าวเกรียบน้ำพริกเผา ซึ่งอร่อยทั้งคู่ มาค่ะ มาถึงอาหารที่เราสั่งไป ขอเรียงตามความอร่อยนะคะ ทุกคนโหวตเหมือนกันคือ Blue Crab & Papaya สลัดปูม้าต้นตำรับโอเรียลเต็ล ปูม้า ส้มโอ ทับทิม น้ำสลัด บนมะละกอ ปูม้าคือ แน่นๆ นุ่ม หอม โคตรดี น้ำสลัด ส้มโอ ทับทิม กินคู่กันแล้วสดชื่นมาก อีนี่ผู้ไม่กินมะละกอ ก็ขอลองชิม หืม มันดีย์มาก หวานมาก นุ่ม ไม่มีกลิ่นความเป็นมะละกอ จานนี้มา ต้องสั่งนะ บอกเลย โคตรดี ราคาไม่แรง 1050 ปูม้า คือ ปูม้า อ่า มาแบบไม่น้อยหน้าเลย จานต่อมา ที่เรียกว่าสูสีกับจานแรก คือ Wagyu Steak Fries สเต๊กวากิว เนื้อออสเตรเลียขนาด 240 กรัม มาพร้อมกับไขกระดูกและเฟรนฟราย ความสุก Medium Rare มาถึง คือ หืม เนื้อชิ้นใหญ่อยู่นะ แล้วหั่นมาพอดีมาก ความสุกคือ ดีย์มาก สีสวย นุ่ม แทบละลายในปากไปเลย มันดีย์จริงๆ อันนี้ ควรสั่งนะถ้าคนชอบเนื้อ และยังมีไขกระดูกเสิร์ฟมาให้ด้วย เพิ่งเคยลองกินครั้งแรกสำหรับเรามันดึยๆ อ่า แต่น้องว่า มันอร่อยมาก ระหว่างที่กินเนื้อก็นึกขึ้นได้ว่า ต้องกินคู่กับไวน์แดง มันจะยิ่งอร่อยอ่าเนอะ ก็ขอเมนูไวน์มา ชอบที่เมนูเป็น เมนูสมุดนะ แต่กระดาษเขาน่าจะเป็นกระดาษพิเศษ เมื่อเจอไฟ มันสะท้อนแสง ดูหรูหรา น่ารัก ไวน์ที่นี่เวลาเราสั่งไปแล้วก่อนเสิร์ฟตัวที่สั่ง เขาจะมีให้เราเคสก่อนด้วยว่า ชอบไหม เอาที่สั่งใช่ไหม หรือ เปลี่ยนก็สามารถทำได้นะ ตัวที่เราตกลงสั่งมากินคู่กับเนื้อคือ Monsoon valley ปี 2020 รสชาติดีเวลาทานคู่กับเนื้อยิ่งอร่อย ราคาแก้วนี้ 400 บาทเท่านั้น และอีกแก้วที่สั่งมาทานคู่แซลมอนคือ Champagne & Sparkling Louis Roederer ตัวนี้ ละมุนมากกกกกกกก กินง่าย ตอนแรกคิดว่า 400 เช่นกัน แต่พอเช็คบิลมา 1600 แม่เอ้ย แก้วเดียว 1600 เป็นลม 555 แต่ก็ ทำให้ได้รู้ว่า ออ มิน่าหละ แตกต่างกันเหลือเกิน เพราะสั่งผิดบรรทัดชีวิตเปลี่ยน 55 จานต่อมา Gazpacho ซุปมะเขือเย็น ที่อิฉันแปลกใจตั้งแต่มาถึง แค่ชื่อก็รู้แล้วว่า ถ้าแม่ไม่มา ไม่ได้สั่งแน่นอน 55 คิดรสชาติออกเลย พอได้ลองเข้าไปคำนึงแล้วนั้น มันจักกะดึยอ่า เลยลองอีกคำ มันก็สดชื่นดีนะ แต่เราว่าเรายังไม่ได้ แต่จานนี้แม่และป๊าชอบมากนะ Tasmania Salmon สเต๊กแซลมอน ดูธรรมดา แต๊ อีกหละ เนื้อ หอม นุ่ม มาก ไม่ต้องจิ้มซอสใดๆ ก็อร่อยในตัว ชิ้นใหญ่ด้วยนะ Home made tomoto and bazil เส้น Penne ตัวนี้ ก็อร่อย แต่แค่ไม่ได้ว้าวมาก พอจบของคาว ของหวาน ชอบสุดที่สั่งมาคือ ทับทิมกรอบ ไอศครีมวานิลลา และไอศครีมที่อยู่บนช็อคโกแลตบราวนี่ ตัวบราวนี่ที่นี่ใส่ถั่ว พีแคน เรียกว่าจานนี้คุ้มสุดอ่า 400 บาทแต่ได้พีแคนมาแทบจะกำมือ ช็อคโกแลตเข้มข้น ที่นี่มี 10% service charge and applicable government tax ด้วยนาจา โดยรวมแล้ว ชอบ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง บรรยากาศดี มีความเป็นส่วนตัว หรูหราหมาเห่า บริการดี...