Wat Prasat is a stunning, unique temple complex in Chiang Mai. Located within the old walled city, the temple is right across the equally famous Wat Phra Singh.
The ancient temple was erected sometime during the end of the 16th century, and its design is reflective of traditional Lanna heritage which sets it apart from the dozens of other wats in Chiang Mai.
The temple’s viharn was made in 1823; a beautiful wooden structure erected on a stone base. Ornate flower carvings adorn the panels on its entrance, while the stairs leading to its entrance are guarded by impressive nagas or mythological snakes. But one of its most striking features is a short tunnel which connects the chedi to the viharn. The middle of the back wall also has an elaborate entrance to the short tunnel, which will lead you directly to the chedi behind it. It features a seated Buddha image that is visible from the viharn. Both sides of the tunnel entrance are filled with an impressive array of Buddha images. One of them, a bronze image, dates back to 1590 while the rest are more recent and made of stucco. Murals from the 19th century also decorate the viharn walls.
A recently reconstructed ubosot is found behind the viharn. Behind the ubosot, you’ll find a large white chedi accentuated by a golden spire. Inside the temple grounds are many other interesting features, including a small spirit house and...
Read moreช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ต่อต้นเดือนมีนาคมมีเหตุให้ต้องไปเชียงใหม่ เลยมีโอกาสได้ไปชมวัดปราสาทที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำให้ได้พบและรู้จักเพชรน้ำงามแห่งล้านนาเม็ดนี้โดนบังเอิญ วัดปราสาท ตั้งอยู่บนถนนอินทวโรรส ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ติดกับวัดพระสิงห์เพียงแค่ถนนคั่น วัดปราสาทเป็นวัดโบราณสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2035 ในสมัยพระยายอดเชียงรายครองเมืองเชียงใหม่ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2366 เจ้าหลวงธรรมลังกา โปรดฯ ให้ พระยาหลวงสามล้านบูรณะวัดปราสาท และสร้างพระวิหารขึ้น ซึ่งก็คือพระวิหารไม้ที่ปรากฏในปัจจุบัน พระวิหารวัดปราสาท นับเป็นวิหารไม้สักซึ่งก่อสร้างตามแบบอย่างล้านนาโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดและทรงคุณค่ายิ่ง โดยเฉพาะโครงสร้างหลังคาแบบ "ม้าต่างไหม" คือ เทคนิคการวางไม้ขื่อและไม้คานลดหลั่นกันขึ้นไปเหมือนต่างสำหรับบรรทุกสิ่งของบนหลังม้า เพื่อลดชั้นหลังคาให้ทรวดทรงได้สัดส่วนงดงาม ด้านหน้าพระวิหารมีบันไดนาคปูนปั้นทอดตัวยาวอ่อนช้อยขึ้นสู่ประตูทางเข้า ลวดลายปูนปั้นประดับตัวนาค โดยเฉพาะปลายหางที่ขมวดเป็นวงซ้อนกัน 3 ชั้น รวมทั้งลวดลายปูนปั้นประดับกระจกและลวดลายสลักเสลาไม้บนหน้าบัน เสา และผนังด้านหน้าพระวิหารล้วนแล้วแต่วิจิตรบรรจงและงดงามยิ่ง บ่งบอกชัดเจนถึงฝีมืออันเยี่ยมยอดของช่างหลวงล้านนาโบราณ ด้านหลังพระวิหารเชื่อมต่อกับกู่หรือมณฑปทรงปราสาทก่ออิฐถือปูน อันเป็นลักษณะเฉพาะของล้านนา ภายในมณฑปห้ายอดทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสนี้ประดิษฐานพระประธาน "พระเจ้าหมื่นทอง" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย ผนังด้านนอกมณฑปทั้ง 3 ด้านก่อเป็นซุ้มยอดแหลมภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ ที่มีพุทธลักษณะคล้ายกับพระประธาน ปลายสุดผนังด้านในของพระวิหารเชื่อมต่อกับกู่หรือมณฑปทรงปราสาทที่กล่าวมาแล้วข้างต้นด้วยซุ้มประตูโขง ซึ่งทำเป็นซุ้มโค้งยอดแหลมสองชั้น ปลายซุ้มโค้งชั้นล่างทั้งสองด้านประดับด้วยรูปหงส์ยืนหันหน้าเข้าหาช่องทางเข้า ซุ้มโค้งชั้นบนทำเป็นรูปมกร 2 ตัวกำลังกลืนนาค 5 เศียร และยกหางเกี่ยวกระหวัดกันขึ้นไปเป็นยอดซุ้ม ซุ้มประตูโขงนี้ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงด้วยลวดลายปูนปั้น กระจกสี และชามเบญจรงค์เป็นรูปดอกไม้และรูปสัตว์ต่างๆ อย่างงดงาม หน้าบันเหนือช่องทางเข้าของซุ้มประตูโขงประดับด้วยปูนปั้นประดับกระจกรูปดอกไม้ขนาดใหญ่สวยงามมาก นอกจากนี้ภายในพระวิหารยังมีภาพลวดลายและภาพจิตรกรรมฝาผนังลายคำบนพื้นรักสีแดงแบบล้านนาที่เป็นภาพเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธประวัติและภาพอดีตพุทธประทับนั่งเหนือโพธิบัลลังก์ ฝีมือช่างหลวงที่ยอดเยี่ยมงดงามมากเช่นกัน จึงนับได้ว่า วัดปราสาท เป็นวัดสำคัญทางพุทธศาสนาของล้านนาที่ทรงคุณค่า...
Read moreมาเที่ยวเชียงใหม่รอบนี้ความตั้งใจที่มีมาก็คือการเที่ยวโบราณสถานในบริเวณกำแพงเมือง ซึ่งที่แรกผมได้ไปวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงนักท่องเที่ยวเยี่มชมจำนวนมาก แต่ก็อดที่จะสำรวจรอบข้างไม่ได้ จึงได้มาพบกับวัดปราสาท และผาบ่อง ซึ่งเป็นสองวัดเล็กที่อยู่ติดกันมีเพียงถนนคั่น การซุกซนเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ได้พบความงามของล้านนาอีกแห่ง ซึ่งแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนเลยทั้งที่วัดก็แทบติดกัน และจากการสืบค้นวัดปราสาท เป็นวัดที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะหลวงพ่อพระประธานแห่งวัดปราสาทนั้นเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยสีขาว ที่มีพระพักตร์อิ่มเอิบน่าเลื่อมใสศรัทธา นับเป็นพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่กับวัดแห่งนี้มานานหลายสมัย หลวงพ่อพระประธานที่ประดิษฐานภายในซุ้มปราสาทแบบล้านนาโบราณ ที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่งในปัจจุบัน ตั้งอยู่ตอนท้ายภายในพระวิหารนั้น นอกจากนี้วัดปราสาท ยังมีประตูซุ้มโขงที่เชื่อมเข้าสู่ องค์ปราสาท โดยมีลักษณะคล้ายกับเจดีย์หรือที่เรียกว่ากู่พระเจ้าที่หาชมได้ยากยิ่ง สำหรับประวัติของวัดนี้ ตามหลักฐานที่ปรากฏในหลักศิลาจารึกของวัดตะโปธาราม ได้จารึกไว้ว่า วัดปราสาทมีมาตั้งแต่ครั้งที่ อาณาจักรล้านนาเจริญรุ่งเรืองเมื่อปี พ.ศ. 2035 ในสมัยที่พระยายอดเชียงราย ครองเมืองเชียงใหม่ และด้วยเหตุที่วัดนี้ตั้งอยู่ในเขตที่ประทับของเจ้านายและฝ่ายขุนนาง จึงได้รับการทำนุบำรุงสืบต่อกันมา แม้กระทั่งในสมัยที่เชียงใหม่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่า พระยาหลวงแสนคำก็ยังได้หล่อพระเจ้าหมื่นทอง พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยถวายไว้ที่วัดปราสาทในปี พ.ศ2133 และได้จารึกข้อความไว้ที่ฐานพระองค์นี้ด้วย ต่อมาในสมัยเจ้าหลวงธรรมลังกา เมื่อปี พ.ศ. 2366 ได้มีการบูรณะวัดปราสาท และมีการสร้างพระวิหารขึ้น ซึ่งเป็นพระวิหารที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งพระวิหารหลังนี้มี ลักษณะแบบล้านนาดั้งเดิมที่มีโครงสร้างแบบม้าต่างไหม คือลักษณะหลังคาและไม้ขื่นคานลดหลั่นกันขึ้นไป เหมือนต่างบนหลังม้าสำหรับบรรทุกสิ่งของ มีบันไดนาคนำขึ้นสู่ตัวอาคาร ด้านหน้าวิหารมีลวดลายปูนปั้นประดับ กระจกสีอย่างวิจิตร...
Read more